HYPE vs. ASTER: ศึกชิงผู้นำตลาดอนุพันธ์แบบกระจายศูนย์ (Perp DEX) แห่งโลกคริปโท ที่นักลงทุนไม่ควรพลาด

ความนิยมและการเติบโตของ Perpetual DEX:  Hyperliquid (HYPE) และ Aster (ASTER)

 

ตลอดช่วงสองปีที่ผ่านมา ตลาดอนุพันธ์แบบกระจายศูนย์ หรือ Perpetual Decentralized Exchange (Perp DEX) ได้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญจากการเป็นเพียงนวัตกรรมทดลองของระบบ DeFi ไปสู่การเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักของตลาดอนุพันธ์บนบล็อกเชน ทั้งในมิติของปริมาณการซื้อขาย สภาพคล่อง และจำนวนผู้ใช้งานที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วในระดับสถาบัน

 

Hyperliquid (HYPE) แสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนยิ่งกว่า โดยเป็น Perp DEX ชั้นนำที่พัฒนาบน Layer 1 blockchain เฉพาะทางด้วยกลไก HyperBFT ที่รองรับคำสั่งซื้อขายกว่า 200,000 รายการต่อวินาที และ latency ต่ำกว่า 1 วินาที ทำให้กลายเป็นทางเลือกหลักสำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพและสถาบัน โทเคนหลัก Hyperliquid (HYPE) ทำหน้าที่เป็นทั้ง governance และ utility token ที่ขับเคลื่อน ecosystem ผ่านการ staking และ buyback & burn  ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 8 ตุลาคม 2025) มี Market Cap ประมาณ $12.2B และอยู่ในอันดับที่ 19 ความนิยมของ Hyperliquid มาจาก liquidity ผู้ใช้จริงกว่า 518,000 รายที่เพิ่มขึ้น 78% ในครึ่งปีแรกของ 2025

 

หนึ่งในโปรเจกต์ที่สะท้อนความเปลี่ยนแปลงนี้ได้อย่างเด่นชัดคือ Aster ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายแบบกระจายศูนย์ที่เชี่ยวชาญด้าน Perpetual Futures ,Spot Trading และ Stock Perps โดยมีโทเคนหลักคือ Aster (ASTER) ทำหน้าที่ทั้งในด้านการกำกับดูแล (Governance Token) และการใช้งานบนแพลตฟอร์ม (Utility Token) หลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2025 บนเครือข่าย BNB Chain Aster สามารถสร้างแรงกระเพื่อมในตลาดได้อย่างรวดเร็ว ราคาของ ASTER ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 2,000–2,450% และขึ้นแท่นอยู่ในอันดับที่ 38 บน CoinMarketCap ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 8 ตุลาคม 2025) มี Market Cap ประมาณ $3.32B

 

 

 

การเติบโตของตลาด Perpetual DEX โดยรวม

 

 

 

Source : InnovestX Investment Products & Strategy, Defillama, as of 08 October 2025

 

ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ตลาดอนุพันธ์แบบกระจายศูนย์ (Perpetual DEX) เติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั้งในด้าน สภาพคล่อง ปริมาณการซื้อขาย และจำนวนผู้ใช้งานจริง สะท้อนให้เห็นถึงการขยายตัวของระบบนิเวศ DeFi ที่เริ่มเข้าสู่ระดับสถาบันและนักเทรดมืออาชีพมากขึ้น

 

ข้อมูลจาก DeFiLlama ชี้ให้เห็นว่า

• ปี 2024 ปริมาณซื้อขายรวมของ Perp DEX เพิ่มขึ้นมากกว่า 100% YoY โดยเฉพาะเดือนธันวาคมซึ่งทำยอดซื้อขายสูงสุดถึง $344.75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนถึงแรงเทรดจากตลาดอนุพันธ์ที่คึกคักขึ้นต่อเนื่อง

 

• ไตรมาส 2 ปี 2025 ปริมาณการเทรดรวมแตะระดับ $898 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยแพลตฟอร์ม Hyperliquid ครองสัดส่วนสูงถึง 7% (คิดเป็นมูลค่าราว $653.2 พันล้านดอลลาร์) ตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาด Perp DEX

 

• ในเดือน สิงหาคม 2025 เพียงเดือนเดียว Hyperliquid มียอดเทรดแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ $408 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

• และในเดือน กันยายน 2025 ตลาด Perp DEX สร้างสถิติใหม่ โดยมียอดซื้อขายรวมระหว่าง $1.143–$1.226 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 48% จากเดือนก่อนหน้า (สิงหาคม) ซึ่งอยู่ที่ $707.6 พันล้านดอลลาร์ พร้อมปริมาณเฉลี่ยรายวันสูงถึง $96.97 พันล้านดอลลาร์

 

โดยรวมแล้ว ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนว่าตลาด Perpetual DEX ไม่ได้เป็นเพียงการทดลองอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็น “โครงสร้างพื้นฐานใหม่ของตลาดอนุพันธ์คริปโท” ที่มีทั้งสภาพคล่อง ความโปร่งใส และฐานผู้ใช้งานขยายตัวต่อเนื่อง

นอกจากนี้ เครือข่าย BNB Chain รายงานว่าในเดือนมิถุนายน 2025 ปริมาณซื้อขาย Perpetual รวมอยู่ที่ $17.7 พันล้านดอลลาร์ โดยมี Aster DEX เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนตัวเลขดังกล่าว

 

 

 

 การเปรียบเทียบ: Hyperliquid vs. Aster

 

Hyperliquid พัฒนาเชนเฉพาะ (App-chain) ที่ใช้กลไก HyperBFT รองรับได้กว่า 200,000 orders/วินาที ด้วย latency ต่ำกว่า 1 วินาที มุ่งเน้นความเร็ว ความเสถียร และการจัดการความเสี่ยงระดับ CEX ใช้โทเคน HYPE และสเตเบิลคอยน์ USDH เป็นแกนหลักของระบบ

 

Aster เกิดจากการควบรวม APX และ Astherus ก่อนรีแบรนด์ในปี 2025 เป็น DEX แบบ multi-chain รองรับ BNB, Ethereum, Solana และ Arbitrum โดยไม่ต้อง bridge โดดเด่นด้วยฟีเจอร์ yield-bearing collateral และ dark pool สำหรับลด MEV/front-running พร้อมเปิดเทรด stock perps อย่าง TSLA และ AAPL ดึงดูดผู้ลงทุนจากโลก TradFi เข้ามาใน DeFi

โดยสรุป Hyperliquid ชนะด้านความเร็วและความเสถียร, ขณะที่ Aster โดดเด่นด้านการเข้าถึงตลาดกว้าง ทั้งสองสะท้อนทิศทางใหม่ของตลาดอนุพันธ์บนบล็อกเชน ที่กำลังเปลี่ยนผ่านจาก “เทรดบนโปรโตคอล” สู่ “ระบบการเงินแบบกระจายศูนย์เต็มรูปแบบ”

 

 

 

สภาพคล่องและส่วนแบ่งของตลาด

 

Hyperliquid ยังคงครองตำแหน่งผู้นำในตลาด Perp DEX ทั้งในด้าน ปริมาณการซื้อขาย (Volume) และ สถานะเปิดสัญญา (Open Interest) โดยมีสัดส่วน OI มากกว่า 60% ของตลาดรวม สะท้อนถึงสภาพคล่องที่ลึกและฐานผู้เทรดมืออาชีพที่มั่นคง ระบบจับคู่คำสั่งที่มี slippage ต่ำ ทำให้ Hyperliquid กลายเป็นศูนย์กลางของการเทรดอนุพันธ์ในโลก DeFi

 

ขณะเดียวกัน Aster DEX แม้เพิ่งเปิดตัว แต่เติบโตเร็วจากกระแส airdrop farming และ “CZ hype” อย่างไรก็ตาม อัตราส่วน Volume ต่อ Open Interest ของ Aster ที่สูงผิดปกติ (~19 เท่า) บ่งชี้ว่าเป็นการเติบโตที่ขับเคลื่อนด้วย incentive มากกว่าการใช้งานจริง ในขณะที่ Hyperliquid (~1.7 เท่า) แสดงถึงกิจกรรมเทรดที่ยั่งยืนกว่า

 

โดยรวม ตลาด Perp DEX กำลังแข่งขันเข้มระหว่าง Hyperliquid ที่เด่นด้านสภาพคล่องจริง กับ Aster ที่เติบโตเร็วจากแรงกระตุ้นระยะสั้น แต่ในภาพรวม Hyperliquid ยังคงเป็นจุดศูนย์กลางของตลาดอนุพันธ์แบบกระจายศูนย์ อย่างชัดเจน.

 

 

 

 

ผลิตภัณฑ์ & ฟีเจอร์

 

Hyperliquid มุ่งเน้นตลาด Perpetual Futures ด้วยโครงสร้างเชนเฉพาะที่มีประสิทธิภาพสูง รองรับปริมาณเทรดระดับสถาบัน และมีระบบบริหารสภาพคล่องอัตโนมัติผ่าน HLP Vault ซึ่งคืนรายได้ส่วนใหญ่ให้คอมมูนิตี้ ถือเป็นแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์นักเทรดมืออาชีพ

 

Aster เป็น Multi-Product DEX ที่รวม Spot, Perps และ Stock Perps ในระบบเดียว โดดเด่นด้วยฟีเจอร์สร้างผลตอบแทนจากหลักประกัน (Yield-Bearing Collateral) และโหมดใช้งานที่ยืดหยุ่น เหมาะกับทั้งผู้เริ่มต้นและนักเทรดขั้นสูง

โดยสรุป Hyperliquid เด่นด้านประสิทธิภาพเชิงเทคนิคและสภาพคล่องลึก ส่วน Aster โดดเด่นด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และการเข้าถึงตลาดที่กว้างกว่า

 

 

 

Hyperliquid (HYPE) vs. Aster (ASTER): Tokenomics Comparison

 

HYPE เน้นโมเดล deflationary ด้วยการปล่อยโทเคนแบบค่อยเป็นค่อยไปและกลไก buyback & burn เพื่อรักษามูลค่าและสอดคล้องกับผลประโยชน์ของคอมมูนิตี้

 

ขณะที่ ASTER ใช้กลยุทธ์ incentive-driven growth ผ่านการแจก airdrop และรางวัลจำนวนมากเพื่อเร่งขยายฐานผู้ใช้

โดยรวม HYPE เด่นด้านความยั่งยืนระยะยาว ส่วน ASTER เน้นการเติบโตเชิงรุกแต่มีความเสี่ยงจากการ dilution มากกว่า.

 

 

 

Token Metrics Comparison : HYPE vs ASTER

 

Source : InnovestX Investment Products & Strategy, CoinMarketCap, as of 08 October 2025

 

 

 

Allocation of Aster

 

 

 

Allocation of Hyperliquid (HYPE)

 

 

 

 

ความเสี่ยงที่ Hyperliquid และ Aster ต้องเผชิญ

 

แม้ Hyperliquid (HYPE) และ Aster (ASTER) จะเป็นผู้นำตลาด Perpetual DEX ที่เติบโตเร็วที่สุดในปี 2025 แต่ทั้งสองต่างเผชิญความเสี่ยงสำคัญในสามด้านหลัก ได้แก่ ความปลอดภัยของระบบ, กลไกการล้างพอร์ต (liquidation) ในภาวะตลาดผันผวน และ การกำกับดูแล (regulation) ที่เริ่มเข้มงวดขึ้น

 

Hyperliquid มีความเสี่ยงจากการถูก manipulation และ historical exploits เนื่องจากมุ่งเน้นความเร็วและการทำงานบนเชนเฉพาะของตนเอง ซึ่งแม้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแต่ก็ลดการพึ่งพา external security layers อย่างไรก็ตาม โครงสร้างการกำกับดูแลและระบบ incentive ที่ยั่งยืนของโปรโตคอลช่วยลดความเสี่ยงระยะยาวได้บางส่วน

 

ในทางกลับกัน Aster ต้องเผชิญความเสี่ยงด้าน oracle failure และ regulatory exposure มากกว่า โดยเฉพาะจากการเปิดเทรด Stock Derivatives (เช่น NVIDIA Perps) ซึ่งแม้ช่วยขยายตลาดแต่เพิ่มความเสี่ยงด้านกฎหมายในหลายประเทศ รวมถึงความผันผวนจากแรงจูงใจของผู้ใช้ (high incentive-driven growth) ที่อาจกระทบเสถียรภาพของระบบ

 

 

 

กรณีใช้งานและกลุ่มเป้าหมายของ Hyperliquid และ Aster

 

Hyperliquid และ Aster เป็นแพลตฟอร์มเทรดแบบกระจายศูนย์ (DEX) ที่ให้บริการตลาด Perpetual Futures แต่มีแนวทางพัฒนาและกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

 

Hyperliquid มุ่งเน้นกลุ่ม เทรดเดอร์มืออาชีพและสถาบัน ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง ด้วยระบบ HyperBFT ที่รองรับคำสั่งจำนวนมากในเวลาอันสั้น พร้อมโครงสร้าง order book แบบ on-chain ซึ่งให้ประสบการณ์ใกล้เคียง CEX แต่ยังคงความโปร่งใสในแบบ DeFi รองรับฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น stop-loss, take-profit, cross margin และระบบ liquidator แบบ permissionless รวมถึง Vault สำหรับสร้างรายได้จากค่าธรรมเนียมและการชำระบัญชี

 

Aster เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการความยืดหยุ่น โดยเป็น DEX แบบ multi-chain ที่รวมการเทรด Spot และ Perpetual ไว้ในแพลตฟอร์มเดียว รองรับ Ethereum, BNB Chain, Solana และ Arbitrum โดยไม่ต้อง bridge ข้ามเครือข่าย จุดเด่นคือการใช้ yield-bearing collateral ที่เปิดให้ผู้ใช้นำสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนมาใช้เป็นหลักประกันในการเทรด พร้อมยังสร้าง yield ได้ต่อเนื่อง อีกทั้งยังรองรับการเทรด stock perpetuals เช่น TSLA และ AAPL เพื่อดึงดูดนักลงทุนจากตลาดการเงินแบบดั้งเดิม (TradFi) เข้าสู่โลก DeFi

 

 

 

 

สนใจลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซี และหุ้นเติบโตอื่น ๆ

 

เปิดประสบการณ์ลงทุนไร้ขีดจำกัดกับแอป InnovestX! เข้าถึง 23 ประเทศ 31 ตลาดทั่วโลกได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว เปิดบัญชีลงทุน คลิกเลย! 👉 https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b

 

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน

คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้