Kuaishou Technology: แพลตฟอร์มวิดีโอสั้น ไลฟ์สตรีมอีคอมเมิร์ซ คู่แข่ง Tiktok ที่มาพร้อมนวัตกรรม Kling AI ที่ขับเคลื่อนยุคใหม่และขวัญใจชนบทจีน
Kuaishou Technology (1024.HK) บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติจีน ที่จดทะเบียนใน Hong Kong Stock Exchange ไม่ได้เป็นเพียงแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นธรรมดา แต่คือผู้นำที่ผลักดันขอบเขตของการสร้างสรรค์คอนเทนต์ ด้วยเทคโนโลยี AI อย่าง Kling AI โมเดลสร้างวิดีโอที่ครองใจนักสร้างสรรค์ (Creators) ทั่วโลก บริษัทมีรายได้จากการโฆษณาออนไลน์ Live Streaming และ E-commerce อย่างแข็งแกร่ง โดยมีฐานลูกค้าเป็นชนบทของจีนที่มีจำนวนชั่วโมงต่อวันในการใช้ Social media สูง ทั้งนี้มีฐานผู้ใช้งานรายวันเฉลี่ยกว่า 400 ล้านคนและผู้ใช้งานรายเดือนกว่า 700 ล้านคน ทำให้ Kuaishou กลายเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มดิจิทัลที่มีอิทธิพลที่สุดในจีน และกำลังขยายไปสู่ตลาดต่างประเทศ
ต้นกำเนิดและวิวัฒนาการธุรกิจ
Kuaishou ก่อตั้งขึ้นในปี 2011 โดย Su Hua และ Cheng Yixiao ในช่วงแรกเป็นเพียงแอปพลิเคชันสร้าง GIF อย่างง่าย ก่อนจะปรับเปลี่ยนมาเป็นแพลตฟอร์มแชร์วิดีโอสั้นในปี 2013 การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นเมื่อบริษัทค้นพบว่าผู้ใช้งานในเมืองเล็กและพื้นที่ชนบทของจีนต้องการพื้นที่ในการแสดงออกและแบ่งปันชีวิตประจำวัน
ในปี 2014-2016 Kuaishou เริ่มโฟกัสการพัฒนาชุดคำสั่งการแนะนำเนื้อหาที่เข้าใจความต้องการของผู้ใช้งานแต่ละคน และสร้างความเท่าเทียมในการกระจายการเข้าถึงเนื้อหา ไม่ใช่การผลักดันเฉพาะคอนเทนต์ไวรัลเหมือนแพลตฟอร์มอื่น การตัดสินใจนี้ทำให้ Kuaishou แตกต่างจากคู่แข่งและสร้างฐานลูกค้าประจำในพื้นที่ชนบท
ช่วงปี 2017-2019 บริษัทเริ่มเจาะตลาดเมืองใหญ่และขยายสู่ธุรกิจ E-commerce Live Streaming พร้อมทั้งพัฒนาระบบ Monetization System ซึ่งหมายถึงการสร้างกลไกที่เปลี่ยนกิจกรรมของผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มให้สามารถสร้างรายได้ ผ่านการโฆษณาและซื้อของขวัญเสมือนจริงให้กับสตรีมเมอร์ ปี 2021 Kuaishou เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง และตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นมา บริษัทได้เร่งการพัฒนาเทคโนโลยี AI โดยเฉพาะ Kling AI ที่สามารถสร้างวิดีโอคุณภาพสูงจากข้อความธรรมดา ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ Kuaishou ก้าวสู่การเป็นผู้นำด้าน AI ระดับโลก
โครงสร้างรายได้และธุรกิจหลัก
Kuaishou มีโครงสร้างรายได้ที่หลากหลาย แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มธุรกิจหลัก
- Online Marketing Services - 57% ของรายได้รวม
ธุรกิจการโฆษณาออนไลน์ที่เป็นแกนหลักของบริษัท ครอบคลุมการโฆษณาในรูปแบบ Short Video Ads, Live Streaming Ads และ Smart Marketing Solutions ที่ใช้ AI ในการเพิ่มประสิทธิภาพการวางโฆษณา กลุ่มธุรกิจนี้มีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งจากการเพิ่มขึ้นของงบโฆษณาดิจิทัลในจีน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเกม e-commerce และ Short Drama ที่กำลังได้รับความนิยม
- Live Streaming - 29% ของรายได้รวม
ธุรกิจ Live Streaming ผู้ใช้งานสามารถซื้อของขวัญเสมือนจริงให้กับสตรีมเมอร์ รวมถึงการขายสินค้าผ่าน Live Stream แม้ว่าสัดส่วนรายได้จะลดลงเล็กน้อย แต่ยังคงเป็นแหล่งรายได้ที่มั่นคงและมีกระแสเงินสดดี กลุ่มธุรกิจนี้ยังมีแนวโน้มเติบโตจากความนิยมของคอนเทนต์ที่เปิดโอกาสให้ผู้ชมมีส่วนร่วมโต้ตอบได้โดยตรง และการพัฒนาเครื่องมือสนับสนุนครีเอเตอร์ที่ช่วยกระตุ้นการมีส่วนร่วมและการจับจ่ายในระหว่างการถ่ายทอดสด
- Other Services - 14% ของรายได้รวม
ธุรกิจบริการอื่นๆที่ประกอบด้วย E-commerce, Local Services, Gaming และ Kling AI ที่เพิ่งเริ่มสร้างรายได้ กลุ่มธุรกิจนี้มีอัตราการเติบโตสูงที่สุด โดยเฉพาะอีคอมเมิร์ซที่มี Gross Merchandise Value เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ Kling AI ที่มีศักยภาพสร้างรายได้ใหม่ในอนาคต
กลยุทธ์การเติบโตและจุดแข็งที่โดดเด่น
Kuaishou วางกลยุทธ์การเติบโตผ่านการเป็น AI-First Platform ที่นำเทคโนโลยี AI มาใช้ในทุกมิติของธุรกิจ ตั้งแต่การแนะนำเนื้อหา การสร้างโฆษณา ไปจนถึงการสร้างวิดีโอด้วย Kling AI การลงทุนในการวิจัยและพัฒนา พร้อมกับวิดีโอสั้นจำนวนมหาศาลบนแพลตฟอร์ม ทำให้บริษัทเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีด้าน AI ที่ใช้ในการสร้างวิดีโออันดับต้นๆของโลก โดย Kling AI สามารถสร้างวิดีโอคุณภาพสูงจากข้อความ กำลังกลายเป็น Game Changer ในอุตสาหกรรม Content Creation ไม่เพียงแต่ช่วยลดต้นทุนการผลิตเนื้อหา แต่ยังเปิดโอกาสให้คนทั่วไปสามารถสร้างเนื้อหาคุณภาพระดับมืออาชีพได้ง่ายขึ้น
จุดแข็งที่โดดเด่นที่สุดคือระบบนิเวศที่เชื่อมต่อกันของ Content Creation, Social Interaction และ E-commerce ผู้ใช้งานสามารถสร้างเนื้อหา โต้ตอบกับชุมชน และซื้อขายสินค้าในแพลตฟอร์มเดียว การมีฐานผู้ใช้งานในพื้นที่ต่างจังหวัดและชนบทที่คู่แข่งเข้าถึงยาก โดยฐานลูกค้า E-Commerce ของ Kuaishou ราวครึ่งนึงมีอายุ 40 ขึ้นไป ถือว่าเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อ ทำให้ Kuaishou มีความได้เปรียบในการขยายธุรกิจ E-commerce สู่กลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น
เปรียบเทียบกับคู่แข่งระดับโลก
เทียบกับ Bilibili (9626.HK) ในจีน: Bilibili เริ่มจากชุมชนออนไลน์สายอนิเมะและวัฒนธรรมย่อย ก่อนขยายเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอครบวงจรที่รวมความบันเทิง เกม และ Live Streaming ปัจจุบันจดทะเบียนทั้งในตลาดหุ้นฮ่องกง และ NASDAQ สะท้อนบทบาทระดับโลกของแพลตฟอร์มคอนเทนต์ดิจิทัลจากจีน
Bilibili และ Kuaishou ทั้ง 2 บริษัทมีการแข่งขันในตลาดวิดีโอดิจิทัลโดยมีฐานผู้ใช้ขนาดใหญ่จากคอนเทนต์ที่ผู้ใช้สร้างเองและการไลฟ์สด อย่างไรก็ตามหากพิจารณาโครงสร้างรายได้และกลยุทธ์ที่ต่างกันอย่างชัดเจน Bilibili พึ่งรายได้จากเกมออนไลน์ ค่าสมาชิกรายเดือน และการผลิตเนื้อหาเฉพาะของตน มุ่งสร้างแพลตฟอร์มสำหรับชุมชนเฉพาะกลุ่มที่เน้นเนื้อหาคุณภาพ Kuaishou สร้างรายได้หลักจากของขวัญเสมือนจริงและการขายสินค้าผ่านไลฟ์สด โดยเน้นสนับสนุน Creators ในต่างจังหวัดและเจาะตลาดมวลชนผ่านวิดีโอสั้น
เปรียบเทียบกับธุรกิจในประเทศไทย
เทียบกับ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) (RS): บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทสื่อบันเทิงไทยที่เริ่มจากธุรกิจเพลง ก่อนขยายสู่สื่อครบวงจร และปัจจุบันพัฒนาเป็นธุรกิจ Entertainmerce ที่ขายของผ่านความบันเทิง ผ่านแพลตฟอร์ม RS Mall ทั้งออนไลน์ ไลฟ์สด และสื่อดิจิทัล โดยใช้ข้อมูลผู้บริโภคและระบบสมาชิกเพื่อเปลี่ยนผู้ชมให้กลายเป็นลูกค้า
ทั้ง RS และ Kuaishou ต่างใช้คอนเทนต์และความบันเทิงเป็นเครื่องมือเชื่อมโยงผู้ชมกับการขายสินค้าและบริการ โดยผสานแพลตฟอร์มออนไลน์กับการใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตลาด
Kuaishou เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลวิดีโอสั้นและ Live Stream ขนาดใหญ่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI สร้างรายได้หลักจากของขวัญเสมือนจริง E-commerce และโฆษณา ขณะที่ RS มุ่งสู่โมเดล Entertainmerce โดยผสานธุรกิจสื่อแบบครบวงจรเข้ากับการขายสินค้าในไทย รายได้มาจากการขายสินค้าและบริการ โฆษณา ลิขสิทธิ์คอนเทนต์ บริการสมาชิก และอีเวนต์ พร้อมบทบาทการบริหารช่องทีวีและวิทยุ
อย่างไรก็ตามทั้ง 2 บริษัทถือว่ามีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในแง่ของการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดย Kuaishou มีการใช้แพลตฟอร์มวิดิโอสั้น Live Stream ผสมผสานเข้ากับธุรกิจ E-commerce รวมถึงมีการพัฒนาและใช้งาน AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มผลกำไร ในขณะที่ RS ยังคงพึ่งพาสื่อโทรทัศน์แบบดั่งเดิม ประกอบกับการใช้แพลตฟอร์ม E-Commerce ของผู้อื่น เช่น Lazada, TikTok เป็นตัวกลางในการเข้าถึงลูกค้าความแตกต่างดังกล่าว ส่งผล Kauishou มีผลกำไรที่มีแนวโน้มเติบโต
ความท้าทายและความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ
Kuaishou เผชิญความท้าทายจากการแข่งขันที่รุนแรงกับ ByteDance ที่มีทรัพยากรมากกว่าและมีการขยายตัวระดับโลก การเปลี่ยนแปลงนโยบายการควบคุมของรัฐบาลจีนต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีอาจส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้การพึ่งพาตลาดจีนเป็นหลักทำให้มีความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ธุรกิจ Live Streaming ที่เผชิญกับการควบคุมที่เข้มงวดขึ้นและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค รวมถึงการลงทุนใน AI ในขณะที่การขยายธุรกิจต่างประเทศที่ต้องใช้เงินทุนสูงและยังไม่แน่ใจเรื่องผลตอบแทน
อนาคตและโอกาสของ Kuaishou
อนาคตของ Kuaishou มีแนวโน้มสดใสจากการเป็นผู้นำด้าน AI Video Generation ที่มี Kling AI เป็นจุดแข็ง โดยคาดว่าจะสร้างรายได้อย่างก้าวกระโดดให้กับบริษัทในอนาคต การเติบโตของตลาด E-commerce ในเมืองเล็กและชนบทจีนยังมีศักยภาพสูง ขณะที่การขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะบราซิลเริ่มแสดงผลลัพธ์เชิงบวก การพัฒนา AI Technology อย่างต่อเนื่องจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและผลักดันผลกำไรของบริษัท นอกจากนี้การเติบโตของ Digital Transformation ในจีนและการเพิ่มขึ้นของการใช้งาน AI ในชีวิตประจำวันจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตระยะยาวของบริษัท
สนใจลงทุนในหุ้น Kuaishou (1024.HK) และหุ้นเทคโนโลยีอื่น ๆ เปิดประสบการณ์ลงทุนไร้ขีดจำกัดกับแอป InnovestX! เข้าถึง 23 ประเทศ 31 ตลาดทั่วโลกได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว เปิดบัญชีลงทุน คลิกเลย! 👉https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
