ETFs

เลือก Time Frame ผิด ชีวิตอาจเปลี่ยน! เจาะลึก L&I ETF ควรเทรดด้วย Time Frame ไหน ถึงได้เปรียบ

31 Oct 25 5:30 PM
รู้จักผลิตภัณฑ์ลงทุน1
สรุปสาระสำคัญ

บทความนี้จะโฟกัสที่ Leveraged & Inverse ETFs (L&I ETFs) ซึ่งเป็นเครื่องมือเพิ่มโอกาสทำกำไรทั้งขาขึ้นและขาลงแบบทวีคูณรายวัน แต่จะเน้นย้ำถึง 'กับดัก' ของการถือครองระยะยาวที่เรียกว่า "Compounding Effect" หรือ "ผลกระทบจากการทบต้น" ที่ทำให้อัตราผลตอบแทนเบี่ยงเบนจากที่คาดหวังอย่างมาก โดยเฉพาะในตลาด Sideway ข้อสรุปคือ L&I ETF เหมาะสำหรับการเทรดระยะสั้นไม่เกิน 1 วัน เท่านั้น

ลงแข่งวิ่ง 100 เมตร...แต่ดันวิ่งแบบมาราธอน

ลองนึกภาพคุณลงแข่งวิ่ง 100 เมตร (Time Frame สั้น) ที่ต้องการความเร็วสูงสุด แต่คุณดันใช้อัตราการวิ่งแบบมาราธอน (Time Frame ยาว) ผลคือคุณจะแพ้ตั้งแต่ต้น L&I ETFs ก็มีลักษณะแบบนี้เช่นกัน โดยมันถูกออกแบบมาเพื่อ 'เร่งผลตอบแทน; Leverage' หรือ 'ให้ผลตอบแทนตรงข้าม; Inverse' กับดัชนีอ้างอิงในระดับ 'รายวัน' (Daily Reset)

แต่ถ้าคุณถือ L&I ETF นานเกิน 1 วัน กลไกของมันจะเกิด "Compounding Effect" หรือ "ผลกระทบจากการทบต้น" ที่ทำให้ผลตอบแทนสะสมของคุณเริ่มเบี่ยงเบนจากความคาดหวัง และอาจจบด้วยการขาดทุนที่หนักกว่าที่คิด นี่คือสิ่งที่นักลงทุนต้องรู้เพื่อเลือก Time Frame สำหรับการเทรดให้ถูกตั้งแต่แรก

 

L&I ETF กับ 'Daily Reset' ที่ทำให้ Time Frame เป็นเรื่องสำคัญ

L&I ETFs คืออะไร?

L&I ETFs คือกองทุน ETF พิเศษที่ใช้ตราสารอนุพันธ์เพื่อให้อัตราผลตอบแทนเป็นไปตามอัตราทด (Leverage) เช่น +2 เท่า (Leveraged ETF) หรือ -1 ถึง -2 เท่า (Inverse ETF) ของการเปลี่ยนแปลงรายวันของดัชนีอ้างอิง คือ “SET50 TRI” ในปัจจุบัน (ณ วันที่ 31 ต.ค. 2568) มี L&I ETF ดังกล่าวทั้งหมด 3 ตัว คือ

  • 2X01BSET50: Leverage 2X (ทิศทางเดียวกับดัชนีอ้างอิง; อัตราทด 2 เท่า)
  • 1I01BSET50: Inverse 1X (ทิศทางตรงข้ามกับดัชนีอ้างอิง; อัตราทด 1 เท่า)
  • 2I01BSET50: Inverse 2X (ทิศทางตรงข้ามกับดัชนีอ้างอิง; อัตราทด 2 เท่า)

โดย ETF ทั้งสามตัวนี้สามารถเทรดได้บนกระดาน SET ทั้งหมด

 

หัวใจสำคัญ: 'Daily Reset' และ 'Compounding Effect'

L&I ETFs มีกลไกการ "รีเซ็ตผลตอบแทนรายวัน" (Daily Reset) เพื่อให้มั่นใจว่าผลตอบแทนจะตรงกับอัตราทดที่กำหนดในวันนั้นๆ นี่จึงกลายเป็นเหตุผลที่เหมาะกับการเทรดไม่เกิน 1 วัน แต่เมื่อคุณถือเกิน 1 วัน การคำนวณแบบทบต้นรายวันจะเข้ามามีบทบาทและอาจเป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนการลงทุน:

  • ตลาด Sideways (ขึ้นๆ ลงๆ ในกรอบ): Compounding Effect จะ "กัดกิน" มูลค่า ETF ทำให้ผลตอบแทนสะสมติดลบ ถึงแม้ว่าดัชนีอ้างอิงจะกลับมาที่จุดเดิม
  • ตลาดเป็น Trend ชัดเจน: Compounding Effect อาจช่วย 'เร่ง' ผลตอบแทนได้มากกว่าอัตราทดที่กำหนด

 

L&I ETF จึงเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับนักลงทุนที่:

  1. ต้องการเก็งกำไรเร็ว: ทำกำไรจากการเก็งทิศทางตลาดในระยะเวลาอันสั้นได้อย่างถูกต้อง
  2. มีเวลาติดตามสถานะ: ต้องติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด และควรปิดสถานะภายในวันที่ลงทุน
  3. ต้องการทำกำไรขาลง: Inverse ETF ช่วยให้สร้างกำไรได้เมื่อดัชนีอ้างอิงปรับตัวลง

จุดเด่นของ L&I ETF: เน้นผลตอบแทนทวีคูณ (Leverage) หรือสวนทาง (Inverse) รายวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เหมาะกับกลยุทธ์ Day Trade ที่ต้องการใชประโยชน์จากความเร็วและ Leverage สูงสุด

 

Compounding Effect ในตลาด Sideways

ตัวอย่างการคำนวณเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่า การถือ L&I ETF เกิน 1 วัน ในภาวะที่ตลาดผันผวนแบบ Sideways จะทำให้ผลตอบแทนเกิดความคลาดเคลื่อนอันเนื่องมาจาก Compounding Effect

วันที่

ดัชนีอ้างอิง

% เปลี่ยนรายวัน

Leveraged ETF (2X)

% เปลี่ยนรายวัน (2X)

ผลตอบแทนสะสมดัชนี

ผลตอบแทนสะสม L&I ETF

0

100.00

-

100.00

-

-

-

1

110.00

+10.00%

120.00

+20.00%

+10.00%

+20.00%

2

100.00

-9.09%

98.18

-18.18%

0.00%

-1.82%

3

110.00

+10.00%

117.82

+20.00%

+10.00%

+17.82%

4

100.00

-9.09%

96.22

-18.18%

0.00%

-3.78%

*ตัวอย่างข้างตนเป็นกรารแสดงการคำนวณเพื่อให้เห็นผลจาก Compounding Effect เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน

 

ข้อสรุปจากการคำนวณ: ณ สิ้นวันที่ 4 ดัชนี SET50 กลับมาที่จุดเดิม (100 จุด) แต่เงินลงทุนใน Leveraged ETF (2X) กลับ ขาดทุนสะสมถึง -3.78% นี่คือผลกระทบจากการทบต้นที่ทำให้ L&I ETF ไม่เหมาะกับการถือยาว

 

ประเภทนักลงทุน

ระยะการถือครอง L&I ETF ที่เหมาะสม

เหตุผลหลัก

Day Trader

ไม่เกิน 1 วัน (รายวัน)

สอดคล้องกับกลไก Daily Reset

Swing Trader/Position Trader

ไม่เหมาะสม

ผลตอบแทนเกิดความคลาดเคลื่อนอันเนื่องมาจาก Compounding Effect

 

Case Study: ล้อมกรอบโอกาสทำกำไรด้วย Time Frame สั้น

สถานการณ์: มีข่าวสำคัญของประเทศในช่วงเที่ยงวันทำให้นักลงทุนมั่นใจว่าตลาด SET50 จะปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรงในช่วงบ่าย

นักลงทุน C (สาย Day Trade เน้น L&I ETF): ตัดสินใจซื้อ Leveraged L&I ETF (+2X) ในช่วงเปิดตลาดภาคบ่าย เพื่อเก็งกำไรขาขึ้นแบบเร่งผลตอบแทน

  1. Time Frame: กราฟราย 5-10 นาที เพื่อเล่นเก็งกำไรจบภายในวัน
  2. เปิดสถานะ (บ่าย): ดัชนี SET50 ขึ้น +5% ในช่วงบ่าย
  3. ช่วงปิดตลาด: นักลงทุนเห็นว่าตลาดได้ตอบสนองต่อข่าวจนราคาอยู่ในจุดทำกำไรสูงสุดของวันแล้ว จึงตัดสินใจปิดสถานะ L&I ETF ทันทีก่อนปิดตลาด
  4. ผลลัพธ์: ได้รับผลกำไรตามอัตราทดของวันนั้น ซึ่งควรจะอยู่ที่ประมาณ +3% (ก่อนหักค่าธรรมเนียม) โดย หลีกเลี่ยงผลกระทบจาก Compounding Effect ที่จะเกิดขึ้นในวันถัดไป

 

ข้อดีของการใช้ L&I ETF ใน Case นี้ คือ นักลงทุนสามารถใช้ Leverage ของ L&I ETF ใน Time Frame ที่สั้นมาก (กราฟราย 5-10 นาที สำหรับ Day Trade) เพื่อเร่งผลตอบแทนตามความมั่นใจในทิศทางตลาดที่ชัดเจนของวันนั้นๆ และสามารถควบคุมความเสี่ยงด้วยการปิดสถานะในวันเดียวกัน เพื่อให้ผลตอบแทนที่ได้รับมีความใกล้เคียงกับอัตราทดที่กองทุนกำหนดมากที่สุด

 

จัด Time Frame ให้เข้ากับ L&I ETF แล้วเตรียมไปคว้ากำไรอย่างสบายใจ

L&I ETF คือสุดยอดเครื่องมือเพิ่มพลังการลงทุนที่ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลงแบบทวีคูณ แต่ต้องเคารพกฎเหล็กที่ชื่อว่า "เวลาการถือครอง" ด้วย เพื่อไม่ให้ผลตอบแทนที่คาดหวังคาดเคลื่อนจนเกินไป

 

Key Takeaways:

  1. L&I ETF ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับ "Day Trade"
  2. ระวัง “Compounding Effect” ที่จะลดทอนผลตอบแทนของคุณอย่างรุนแรงเมื่อตลาดผันผวนแบบ Sideways และถือเกิน 1 วัน
  3. เลือกใช้ Time Frame ที่เหมาะสมเพื่อกำหนดกรอบเวลาลงทุนที่ชัดเจน และอย่าลืมตั้งจุดตัดขาดทุนเพื่อให้คุณใช้ประโยชน์จาก L&I ETF ได้อย่างเต็มที่และปลอดภัย

 

Reference:

 

📌 ซื้อ DR ก็ต้องเข้าใจหุ้นแม่
เราเพิ่มข้อมูลหุ้นแม่ให้ครบ ทั้งงบการเงิน ข่าวสาร และกราฟเทคนิค
ดูได้ง่ายในแอปเดียวก่อนตัดสินใจลงทุน DR


✅ กดดูหุ้น DR ในไทยจากหุ้นแม่ (Offshore) ได้ทันที
✅ เปรียบเทียบ Daily Change ของ DR หลายตัวในแอปเดียว
✅ ข้อมูล DR และหุ้นแม่ครบจบในหน้าเดียว

 

📱 ดาวโหลดและเปิดบัญชีกับ InnovestX คลิก https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b

📱 อ่านรายละเอียดข้อมูล DR และค่าธรรมเนียม คลิก https://www.innovestx.co.th/products/depositary-receipt/dr

 

⚠️ คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ผลงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งที่รับประกันผลงานในอนาคต เงินลงทุนอาจสูญหาย และควรศึกษาความเสี่ยงก่อนลงทุน

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5