ผลิตภัณฑ์

  1. หุ้น เป็นหุ้นส่วนบริษัท ด้วยเงินหลักร้อย
  2. DR (Depositary Receipt) ลงทุนหุ้นนอก เหมือนซื้อหุ้นไทย
  3. กองทุน เปิดพอร์ตแบบอีซี่.. มีมืออาชีพคอยดูแลให้
  4. Intelligent Portfolios เปิดโหมดอัตโนมัติสำหรับดูแลการลงทุน
  5. สินทรัพย์ดิจิทัล การลงทุนบนสินทรัพย์แห่งอนาคต
  6. ตราสารหนี้และหุ้นกู้ ลงทุนเพื่อผลตอบแทนระยะยาว
  7. ตราสารอนุพันธ์ไทย มองการณ์ไกล ด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
  8. ตราสารอนุพันธ์ต่างประเทศ มองการณ์ไกล ด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
  9. บริการยืมและให้ยืมสินทรัพย์ ปล่อยเช่า-ขอยืมหุ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุน
  10. กองทุนส่วนบุคคล มีผู้จัดการช่วยให้การลงทุนของคุณง่ายขึ้น
  11. คู่มือการใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา
  12. กลยุทธ์การลงทุน กลยุทธ์การลงทุนแนะนำ

แหล่งความรู้ด้านการลงทุน

  1. เริ่มลงทุนก้าวแรก เริ่มลงทุนก้าวแรก
  2. ลงทุนตามสินทรัพย์ ลงทุนตามสินทรัพย์
  3. บทวิเคราะห์การลงทุน บทวิเคราะห์การลงทุน
  4. แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน แหล่งความรู้ครอบจักรวาลการลงทุนเพื่อทุกคน

ข่าวสารและโปรโมชัน

  1. โปรโมชันและสิทธิพิเศษเพื่อคุณ
  2. อัปเดตข่าวสาร
  3. ประกาศ
  4. Point to invest
  5. INVX Point​
scbs image

โปรโมชันและสิทธิพิเศษ

พิเศษสำหรับลูกค้า Innovestx เท่านั้นใช้พอยต์แลกกองทุนรวมที่โดนใจ

ดูเพิ่มเติม

เกี่ยวกับเรา

  1. ร่วมงานกับเรา ก้าวไปข้างหน้าแบบมีสไตล์
ค้นหาล่าสุด
เคลียร์
{{GetHitSearchValue.keywordTitle}}

ลงทุนหุ้นนอกได้ง่าย ๆ เหมือนซื้อหุ้นไทย ไม่เสียภาษีหุ้นต่างประเทศผ่าน DR

DR (Depositary Receipt) คืออะไร ?

 

ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ (Depositary Receipt: DR) คือ ตราสารทางการเงินที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศได้สะดวกผ่านตลาดหุ้นไทย ผู้ถือครองDR หรือหุ้น DR จะมีสิทธิเสมือนกับการถือครองหลักทรัพย์ต่างประเทศ

โดยผู้ออก DR จะซื้อหุ้นหรือ ETF ต่างประเทศ หรือหลักทรัพย์อื่น ๆ ตามเกณฑ์ที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนด แล้วนำมาเป็นหลักทรัพย์อ้างอิง และเสนอขายให้กับนักลงทุนไทยในรูปสกุลเงินบาทผ่านตลาดหุ้นไทย ซึ่งผู้ถือครอง DR จะได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เสมือนการถือครองหลักทรัพย์ต่างประเทศโดยตรง

DR คืออีกหนึ่งมิติของการลงทุนในนตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์นักลงทุนหุ้นไทย และต้องการเริ่มต้นลงทุนหุ้นต่างประเทศแบบไม่ซับซ้อน เนื่องจากสามารถซื้อขายใน Streaming ได้เหมือนหุ้นไทย ให้นักลงทุนได้มีโอกาสกระจายความเสี่ยง และสร้างผลตอบแทนผ่านการลงทุนหุ้นชั้นนำทั่วโลกได้อย่างสะดวก

DR ดีอย่างไร ?

ลงทุนหุ้น/ETF ต่างประเทศ ง่ายเหมือนหุ้นไทย

     • ซื้อขายสะดวกผ่านบัญชีหุ้นไทย และกระดานหุ้นไทย (ไม่ต้องเปิดบัญชีใหม่หากมีบัญชีหุ้นไทยอยู่แล้ว)
     • เงินลงทุนเริ่มต้นน้อยกว่าลงทุนตรงในหุ้นต่างประเทศ

ช่วยกระจายความเสี่ยงการลงทุน

     • เหมาะกับผู้ที่มองหาโอกาสสร้างผลตอบแทนจากสินทรัพย์ในตลาดต่างประเทศ แต่ไม่คุ้นเคยกับการลงทุนในตลาดต่างประเทศโดยตรง
   

ใช้เงินบาทซื้อได้
 

 • ไม่ต้องแลกเงินเป็นสกุลต่างประเทศ โดยสามารถใช้เงินบาทซื้อขายได้เลย และได้เงินปันผลเป็นเงินบาท
   

ไม่เสียภาษี Capital Gains
 

     • เนื่องจากเป็นหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย

ค่าธรรมเนียมต่ำ
 

     • เท่าการลงทุนในหุ้นไทย และหากลงทุนใน DR ที่เป็น ETF จะเสียค่าธรรมเนียมต่ำกว่ากองทุนหุ้นปันผล (เสียค่าธรรมเนียมการจัดการเพียงต่อเดียว)

เปรียบเทียบการลงทุน DR กับหุ้นต่างประเทศ

ประเด็นDR (Depositary Receipt)หุ้นต่างประเทศ (ลงทุนตรง)

สกุลเงิน

บาทสกุลเงินต่างประเทศ

ช่วงเวลาซื้อขาย

ตามเวลาตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตามเวลาตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ
บัญชีที่ใช้ซื้อขายบัญชีหุ้นไทยบัญชีหุ้นต่างประเทศ
ค่าธรรมเนียม0.15% (ขึ้นอยู่กับแต่ละโบรกเกอร์)ขึ้นอยู่กับประเทศนั้นๆ
ภาษีได้รับยกเว้นภาษี กำไรจากการขายหลักทรัพย์ (Capital Gains)นำเงินได้ไปคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

 

 

ลงทุน DR กับ InnovestX ดีอย่างไร ?

ครบทุกเรื่อง ทั้งข้อมูล เครื่องมือ เพื่อคว้าทุกโอกาสการลงทุนทั่วโลก

ข้อมูล

• ข้อมูลมุมมอง บทวิเคราะห์การลงทุน จาก InnovestX Research เพื่อจับจังหวะการลงทุน

เครื่องมือ

• เทรดได้ผ่านหลากหลาย Platform ทั้ง Streaming, InnovestX WebTrade, TradingView
• ดูพอร์ตภาพรวมการลงทุนในทุกสินทรัพย์ได้ในที่เดียว

DR23 หรือ DR ที่ออกโดย InnovestX (ชื่อ DR ลงท้ายด้วยเลข 23)

scbs image

ความน่าสนใจของ DR23

ผู้นำธนาคารเอกชนรายใหญ่ของจีน

เด่นด้าน Retail Banking & Wealth Management ด้วยฐานลูกค้ากลุ่มมั่งคั่ง คุณภาพสูงและเติบโตต่อเนื่อง

ลงทุนในหุ้น 50 ตัว ที่มีรายได้สม่ำเสมอ มุ่งเน้นการจ่ายปันผลให้กับนักลงทุน

โดยดัชนีมีประวัติการจ่ายปันผลสูงและสม่ำเสมอ ผลตอบแทนชนะตลาด มูลค่าไม่แพง
ตลาดหุ้นฮ่องกง ศูนย์กลางการลงทุนชั้นนำ

เชื่อมจีนสู่ตลาดโลก ที่ Valuation น่าสนใจเป็นอันดับดับต้นๆของโลก
โอกาสเติบโตไปพร้อมกับผู้นำด้านประกันที่ใหญ่สุดในเอเชีย

ที่ดูแลชีวิตและสุขภาพของคนทั้งเอเชีย

• ผู้นำด้าน Retail Banking และ Wealth Management ของจีน ด้วยฐานลูกค้าคุณภาพสูง ในกลุ่ม Private Banking
• เงินฝากต้นทุนต่ำ–ฐานลูกค้ามั่นคง ช่วยคงเสถียรภาพรายได้ดอกเบี้ย แม้ในภาวะอัตราดอกเบี้ยผันผวน
• คุณภาพสินทรัพย์แข็งแกร่ง อัตราหนี้เสีย (NPL) ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม ด้วยมาตรฐานปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวด

• ETF ที่เน้นลงทุนหุ้นที่จ่ายปันผลสูง ที่อยู่ใน Hang Seng Index ซึ่งจ่ายปันผลเฉลี่ย 6-8% ต่อปี
• Valuation ยังไม่แพงเมื่อเทียบกับดัชนีหุ้นโลกอื่นๆ
• Outperform Hang Seng Index ถึง 8 ปี จาก 12 ปี (2013-2024)

• พอร์ตผลิตภัณฑ์ครบครัน หุ้น, อนุพันธ์, สินค้าโภคภัณฑ์ (LME), ETF และสินทรัพย์ดิจิทัล
• กำไรและเงินปันผลสูง EBITDA margin สูงกว่า 70% ในช่วงที่ผ่านมา พร้อมจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอเกือบ 90% ของกำไร
• ดึงดูด IPO รายใหญ่ เป็นตลาดอันดับหนึ่งในโลกด้านการระดมทุนผ่าน IPO โดยเฉพาะบริษัทจีน เทคโนโลยี
• รายได้หลากหลาย กระจายความเสี่ยง ธุรกิจครอบคลุมประกันชีวิต สุขภาพ การลงทุน และอื่นๆ สร้างความมั่นคงในทุกสภาพตลาด
• พอร์ตการลงทุนคุณภาพสูง บริหารสินทรัพย์กว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ เน้นพันธบัตรรัฐบาลเเละ องค์กรเกรด A เพื่อความมั่นคงทางการเงิน
• ทุนมั่นคงและกระเเสเงินสดแข็งแรง อัตราเงินกองทุนผู้ถือหุ้นสูง พร้อมกระแสเงินสดเติบโตต่อเนื่อง

 

 

Tech Platform

บริษัทเป็นผู้ประกอบธุรกิจแพลตฟอร์มเทคโนโลยี เช่น E-commerce, Cloud, หรือ OTA ซึ่งเป็นรายได้ประจำ (Recurring Income) และมีเติบโตตามการพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ๆ เพื่อการขยายฐานลูกค้า และเพิ่มโอกาสการเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

ผู้นำแพลตฟอร์มเพลงดิจิทัลอันดับ 1 ของจีน

ภายใต้ Tencent Ecosystem เชื่อมต่อผู้ฟัง–ศิลปิน–คอนเทนต์ครบวงจร ผ่านแพลตฟอร์ม อาทิ Wechat, QQ Music, WeSing

แพลตฟอร์มท่องเที่ยวออนไลน์ครบวงจรอันดับต้นของโลก

เจ้าของ Trip.com, Ctrip, Skyscanner และ Qunar ขับเคลื่อนประสบการณ์ท่องเที่ยวด้วย AI & Big Data
ผู้นำซอฟต์แวร์และคลาวด์ของจีน

เจ้าของ “WPS Office” และผู้พัฒนา “Kingsoft Cloud” โครงสร้างพื้นฐาน AI ชั้นนำ เป็นพันธมิตรสำคัญของ Xiaomi Ecosystem และหน่วยงานรัฐจีน

• ฐานผู้ใช้งานครอบคลุมที่สุดในจีน ด้วยการเชื่อมต่อกับระบบนิเวศ Tencent เช่น WeChat และ QQ ทำให้ TME เข้าถึงผู้ฟัง–ศิลปิน–คอนเทนต์ได้ครอบคลุม พร้อมสร้างประสบการณ์แบบไร้รอยต่อ
 เติบโตด้วยกลยุทธ์บริการพรีเมียม (SVIP) และโมเดล“Fan Economy” ที่แข็งแรง ช่วยเพิ่ม ARPU และ Engagement ต่อเนื่อง
• รายได้เติบโตจากโมเดลหลากหลาย ทั้ง Subscription, Advertising และ Fan Economy ที่กระจายความเสี่ยง และสร้างการเติบโตระยะยาว

• ผู้นำ Online Travel Agency (OTA) จีน–สากล ครอบคลุมโรงแรม เที่ยวบิน รถไฟ รถเช่า กิจกรรม และแพ็กเกจท่องเที่ยวทั่วโลก
• การเติบโตแข็งแกร่งในตลาดต่างประเทศ ใช้กลยุทธ์ Cross-sell ดึงลูกค้าให้ใช้บริการโรงแรมและท่องเที่ยวเพิ่มเติม
• นักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัวเด่น ช่วยหนุนการเติบโตของบริษัท

• ครองตลาด Productivity Software จีน ผ่าน WPS Office ด้วยฐานลูกค้าภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ หนุนโดยนโยบายสนับสนุนเทคโนโลยีท้องถิ่น
• ธุรกิจองค์กร (ToB) เติบโตโดดเด่น รายได้เพิ่มกว่า 62% YoY จากดีมานด์ด้านความปลอดภัยข้อมูลและระบบคลาวด์ในประเทศ
• Kingsoft Cloud ได้แรงหนุนจาก AI Infrastructure รองรับงานเทรนนิ่ง LLM ของพันธมิตรสำคัญ เช่น Xiaomi และ WPS Copilot

 

 

ผู้นำเทคโนโลยี AI ของจีน เจ้าของเสิร์ชเอนจินอันดับ 1

พร้อม AI Cloud และระบบยานยนต์ไร้คนขับชั้นนำของประเทศ
ผู้นำตลาด E-Commerce และ Cloud & AI

พื้นฐานดี ศักยภาพทำกำไรสูง เป็นหัวใจของเศรษฐกิจจีน
แพลตฟอร์ม Social ผู้ท้าชิง Tiktok ในจีน

ที่มีผู้ใช้งานกว่า 400 ล้านคนต่อวัน
• ครองตำแหน่งเสิร์ชเอนจินอันดับ 1 ของจีน ด้วยฐานผู้ใช้งานขนาดใหญ่ทั่วประเทศ
• ได้รับแรงหนุนจากนโยบายเทคโนโลยีจีน ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลและโครงสร้างพื้นฐาน AI
• ระบบนิเวศอินเทอร์เน็ตแข็งแกร่ง รวมถึง Baidu App, iQIYI, Baidu Baike, Baidu Tieba
• Tech Giant ที่มี Ecosystem ที่แข็งแกร่ง
• ศักยภาพกำไรสูงกว่าคู่แข่ง สะท้อนถึงประสิทธิภาพการดำเนินงานและบริหารต้นทุนที่ดีกว่า
• เป็นผู้นำตลาด AI จีน หลังเปิดตัว AI ของตัวเอง ชื่อ "Qwen" และเติบโตดีจากการใช้งาน AI เพิ่มและคุมต้นทุนได้ดี
• ระบบนิเวศครบวงจร ผสานคอนเทนต์ โซเชียล ไลฟ์สตรีม และอีคอมเมิร์ซในแพลตฟอร์มเดียว เพิ่มการมีส่วนร่วมและรายได้
• มีนวัตกรรม Kling AI ใช้ AI สร้างวิดีโอจากข้อความ ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มคุณภาพเนื้อหา
• ขยายตลาดต่างประเทศ รุกตลาดบราซิล ตะวันออกกลาง และเเอฟริกา เน้นกลยุทธ์เนื้อหาท้องถิ่น และ social commerce

 

 

Lifestyle Consumer

บริษัทดำเนินธุรกิจเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ โดยมุ่งเน้นขายสินค้าและบริการที่สร้างประสบการณ์และคุณค่าใหม่ที่แตกต่าง ช่วยยกระดับความรู้สึกของผู้บริโภคที่มีต่อภาพลักษณ์ของ แบรนด์ เพื่อสร้างรายได้ที่เติบโตอย่างสม่ำเสมอ

ผู้นำตลาดของเล่นสะสม (Designer Toys)

และผู้สร้างกระแส “Blind Box” ที่ครองใจนักสะสมทั่วเอเชียและทั่วโลก

เจ้าของลิขสิทธิ์ Hello Kitty และผู้นำธุรกิจ Character Licensing ระดับโลก

ที่เชื่อมโยงแฟนคลับข้ามเจน ผ่าน “Kawaii Culture”
ตำนานวงการเกมระดับโลก ผู้สร้างแฟรนไชส์ระดับไอคอน

อย่าง Super Mario, Zelda, และ Pokémon พร้อมโมเดลธุรกิจที่ผสานฮาร์ดแวร์–ซอฟต์แวร์ครบวงจร

• เจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา (IP) แข็งแกร่ง เช่น MOLLY, DIMOO, SKULLPANDA และ Monsters ที่มียอดขายเติบโตแรงกว่า +214% YoY ในครึ่งปีแรก (2025)
• หมวดตุ๊กตาผ้าเติบโตแรง ยอดขายเพิ่มขึ้นเกือบ 13 เท่า YoY (2025) ครองสัดส่วนกว่า 44% ของรายได้รวม
• ขยายสู่ตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง ทั้งเอเชีย ยุโรป และอเมริกา ผ่านแฟล็กชิปสโตร์ pop-up และเครื่องขายอัตโนมัติ

• ครองพอร์ต IP ตัวละครกว่า 400 ตัวระดับโลก อาทิ Hello Kitty, My Melody, Kuromi, Cinnamoroll ที่เป็น Global Icons
• โมเดลธุรกิจ Licensing คุณภาพสูง ทำกำไรหลักจากค่าลิขสิทธิ์และสินค้าพันธมิตรทั่วโลก พร้อม Gross Margin เด่น
• สร้างประสบการณ์แฟนคลับครบวงจร ผ่านสวนสนุก คาเฟ่ และ merchandise เชื่อมโยงชุมชนแฟนทั่วโลก
• ขยายต่างประเทศต่อเนื่อง โดยเฉพาะเอเชียและอเมริกา หนุนรายได้เติบโตระยะยาว

• พอร์ต IP ระดับโลก เช่น Super Mario, Zelda, Pokémon, Animal Crossing สร้างมูลค่าแบรนด์และความภักดีสูง
• รายได้ recurring จากดิจิทัล ผ่านการขายเกมออนไลน์และบริการสมาชิก Nintendo Switch Online (NSO)
• ขยายจักรวาล IP สู่สื่อและประสบการณ์ เช่น Super Nintendo World และภาพยนตร์ เพิ่ม monetization และ fan engagement ทั่วโลก

 

 

ผู้นำแบรนด์กีฬาและแฟชั่นจากจีน
เดินหน้ากลยุทธ์ Single-focus, Multi-brand, Globalization ครอบคลุมสินค้าตั้งแต่แมสถึงพรีเมียม พร้อมขยายสู่เวทีโลกผ่านการถือหุ้นใน Amer Sports
เจ้าของแบรนด์ “Sushiro” ผู้นำซูชิสายพานอันดับ 1 ของญี่ปุ่น

ขยายสู่ตลาดเอเชียต่อเนื่อง พร้อมบริหารพอร์ตแบรนด์ร้านอาหารหลายเซกเมนต์
ผู้นำเทคโนโลยีจากจีน

ที่พัฒนา Ecosystem เชื่อมโยงชีวิตคนยุคใหม่ผ่าน AIoT
• พอร์ตแบรนด์ครบทุกเซกเมนต์ ตั้งแต่ ANTA, FILA (China), DESCENTE และ KOLON SPORT รองรับผู้บริโภคตั้งแต่แมสถึงพรีเมียม
• ถือหุ้น Amer Sports เจ้าของแบรนด์ไอคอนระดับโลก เช่น Arc’teryx, Salomon, Wilson หนุนการเติบโตในตลาดนานาชาติ
• ฐานะการเงินแข็งแรง อัตรากำไรขั้นต้นกว่า 60% พร้อมแผนซื้อหุ้นคืน HK$10 พันล้าน ในปี 2025 และจ่ายปันผลสม่ำเสมอ
• ครองตำแหน่งซูชิสายพานอันดับ 1 ของญี่ปุ่น ด้วยแบรนด์ Sushiro ที่มียอดขายสูงสุดในประเทศ หนุนความแข็งแกร่งของแบรนด์และการขยายสาขา
• พอร์ตแบรนด์อาหารครบวงจร เช่น Kyotaru, Kaisen Misakiko, และ Sugidama ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า
• ขยายธุรกิจสู่ต่างประเทศต่อเนื่อง ครอบคลุม เกาหลีใต้ ไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ และไทย
• สมาร์ตโฟน ครองใจผู้บริโภคด้วยคุณภาพเกินราคา พร้อมเดินหน้าสู่ตลาดพรีเมียม
• AIoT Ecosystem ครอบคลุมกว่า 200 ประเภทสินค้า เชื่อมโยงชีวิตผู้บริโภคในทุกมิติ
• รุกตลาดรถ EV ผ่าน Xiaomi SU7 ส่งมอบเฉลี่ยกว่า 8,000 คัน/สัปดาห์ ในปี 2025 เดินหน้าขยายกำลังผลิตรองรับดีมานด์ที่แข็งแกร่ง

 

 

Advanced Robotics

บริษัททีทำธุรกิจเกี่ยวกับหุ่นยนต์ กำลังกลายเป็นเมกะเทรนด์แห่งอนาคต โดยเฉพาะในจีนที่กำลังก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีนี้ด้วยต้นทุนการผลิตที่แข่งขันได้และห่วงโซ่อุปทานครบวงจร ทำให้บริษัทจีนสามารถส่งมอบเทคโนโลยีหุ่นยนต์คุณภาพสูงในราคาที่จับต้องได้

ผู้นำหุ่นยนต์ Humanoid และหุ่นยนต์อัจฉริยะของจีน

พัฒนาเทคโนโลยี Vision-Language-Action (VLA) และ AI ในระดับลึกเพื่อใช้งานจริงทั้งภาคการศึกษาและอุตสาหกรรม

ผู้นำชิป AI สำหรับรถยนต์อัจฉริยะของจีน

พัฒนาแพลตฟอร์ม “Journey Series” และซอฟต์แวร์ขับขี่อัตโนมัติให้ผู้ผลิตรถชั้นนำในจีนและญี่ปุ่น

• อุปสงค์ Humanoid Robot เพิ่มขึ้นชัดเจน ความต้องการใช้ทดแทนแรงงานในภาคบริการ–โลจิสติกส์–ดูแลผู้สูงอายุ
 ผลิตได้เองในประเทศ ต้นทุนแข่งขันได้ Walkers 2 เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุน ~40% YoY
• แรงหนุนเชิงนโยบาย จากโครงการ Made in China 2025 และแนวคิด Digital Labor/AI Workforce

• เติบโตแรงจากดีมานด์รถอัจฉริยะ ยอดส่งมอบเกิน 2 ล้านหน่วยใน 1H25 (+100% YoY)
• แผนลงทุน R&D ต่อเนื่อง เพื่อเร่งลงทุนในน Cloud Computung, AI Driving, Robotaxi
• ได้รับแรงหนุนจากนโยบายจีนด้าน Smart EV และ AI Infrastructure ดันอุตสาหกรรมรถยนต์อัจฉริยะสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ (mass adoption)

 

 

AI & Semiconductor

อุตสาหกรรมหัวใจของเทคโนโลยีโลก ตั้งแต่ AI Chips อุปกรณ์การผลิต ไปจนถึงซอฟต์แวร์ AI ที่ใช้ในอุตสาหกรรม — ได้แรงส่งจาก AI Adoption, Data Center Expansion และเมกะเทรนด์ Digital Infrastructure

ผู้นำอุปกรณ์ทดสอบชิป (ATE) ระดับโลกจากญี่ปุ่น

ที่ได้อานิสงส์ตรงจากเทรนด์ AI และ High-Performance Computing
บริษัทญี่ปุ่นชั้นนำในอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์การผลิตชิปผู้นำ AI รายใหญ่ของจีน พัฒนา Foundation Model “SenseNova”

และแพลตฟอร์ม AI Solutions ครบวงจรสำหรับภาครัฐและองค์กร

เติบโตตามคลื่น AI & HPC ความต้องการเครื่องทดสอบชิปขั้นสูงพุ่งตามการผลิต AI chips / HPC processors ของผู้ผลิตชั้นนำ

ฐานลูกค้าระดับโลก ได้แรงหนุนจากผู้ผลิตชิปชั้นนำ เช่น TSMC และ ecosystem เซมิคอนดักเตอร์เต็มวงจร

กำไรและ Margin ปรับตัวดีขึ้น จาก mix สินค้า high-end ที่ขับเคลื่อนด้วยดีมานด์ AI & advanced semiconductors



ผู้นำในกระบวนการผลิตชิปครบวงจร ครอบคลุม 4 ขั้นตอนหลักของการสร้างวงจรบนเวเฟอร์ (Coater/Developer, Etching, Deposition, Cleaning)

ส่วนแบ่งตลาดแข็งแกร่งทั่วโลก Top 1-2 ในหลายเซกเมนต์ เช่น Coater/Developer และ Etching

เร่งลงทุนด้าน R&D เพื่อเทคโนโลยีชิปรุ่นใหม่ เช่น AI, 3D NAND, advanced logic และ EUV-related solutions


โมเดล AI ระดับใหญ่ “SenseNova 6.5” รองรับ multi-modal reasoning (ภาพ เสียง ข้อความ) และการใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม

แพลตฟอร์มคอมพิวต์ “SenseCore” ประสิทธิภาพสูง รองรับงาน AI ขนาดใหญ่ ใช้โดยภาครัฐและองค์กรชั้นนำ

ได้รับเลือกทำโครงการ Gen-AI ขนาดใหญ่ในจีน ครอบคลุมในเมืองสำคัญหลายแห่ง เช่น China Mobile Kunming


 

 

โฮลดิ้งเทคโนโลยีรายใหญ่ของญี่ปุ่น

ผู้ก่อตั้ง Vision Fund ที่ลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกและเทรนด์แห่งอนาคต
ผู้นำเซมิคอนดักเตอร์อันดับ 1 ในจีน

ที่รองรับการผลิตชิปให้กับภาคอุตสาหกรรมระดับโลก
ผู้ผลิตชิปพิเศษเฉพาะทาง

ผลิตชิปบนแผ่นเวเฟอร์ 12 นิ้ว และ 8 นิ้ว
• เข้าถึง Tech Leaders ระดับโลกผ่าน Vision Fund ลงทุนใน AI, Robotics, Semiconductor, IoT และ Consumer Tech
• ถือหุ้น Arm Holdings ผู้พัฒนาเทคโนโลยีชิปสถาปัตยกรรม Arm ซึ่งเป็นฐานสำคัญของอุปกรณ์เคลื่อนที่และ AI
• ได้รับกระแสเงินสดจากธุรกิจโทรคมนาคมของ SoftBank ช่วยเสริมเสถียรภาพให้โครงสร้างธุรกิจโดยรวม
• บริษัทเทคยักษ์ใหญ่ระดับโลกอาทิ Huawei, Qualcomm, TI ใช้
• ได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุน เทคโนโลยี และบุคลากรจากภาครัฐของจีน
• โอกาสจากความต้องการที่เพิ่มขึ้น ความต้องการเซมิคอนดักเตอร์ที่เติบโตต่อเนื่อง เปิดโอกาสขยายตลาดในระยะยาว
• ใช้ในอุตสาหกรรม EV, loT และพลังงานสะอาด พร้อมรองรับทุกเทรนด์การเติบโตโลก
• แข่งขันในตลาดเซมิคอนดักเตอร์เฉพาะทาง โฟกัสการผลิตชิปพิเศษที่มีความซับซ้อนสูงและทนต่อ สภาพแวดล้อมได้ดี แตกต่างจากคู่แข่งที่เน้น mass production

 

 

Next Generation Manufacturing

บริษัทที่เป็นผู้พัฒนา หรือ ผู้ใช้งานเทคโนโลยีการผลิตยุคใหม่ (Advanced Manufacturing) เพื่อจัดการขั้นตอนการผลิตให้มีประสิทธิภาพ ไปจนถึงการควบคุมคุณภาพของสิปนค้า เพื่อลดต้นทุนและสร้างผลกำไรที่สูงขึ้น

ผู้นำเทคโนโลยี Automation, Sensors และ Vision Systems

สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมทั่วโลก

ผู้นำเทรนด์ EV ด้านแบตเตอรี่อันดับ 1 ของโลก

ราคาไม่แพง เติบโตแกร่งระยะยาว

• อัตรากำไรและประสิทธิภาพสูงโดดเด่น ธุรกิจแบบ Fabless ทำให้ไม่ต้องลงทุนโรงงานผลิตเอง → ต้นทุนต่ำกว่าอุตสาหกรรม และ Margin สูงกว่าค่าเฉลี่ย
• านะการเงินแข็งแกร่ง หนี้ต่ำมากและมีเงินสดสูง ช่วยรองรับการเติบโตระยะยาว
• ได้ประโยชน์จากเทรนด์ Automation และ Smart Factory ทั่วโลก ความต้องการระบบเซ็นเซอร์และการตรวจวัดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หนุนการเติบโตระยะยาว

• ผู้นำตลาดแบตเตอรี่ ครองส่วนแบ่งตลาดกว่า 1/3 ของโลกในปี 2025
• แนวโน้มรายได้และกำไรเติบโตดี ได้รับแรงหนุนจากความต้องการแบตเตอรี่ในภาคยานยนต์
• มีพันธมิตรที่แข็งแกร่งกับค่ายรถยนต์ระดับโลก เช่น Tesla, BMW, Mercedes-Benz, Volkswagen, Nio

 

 

ETF ที่มุ่งลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในจีน

ครอบคลุมถึงธุรกิจตั้งแต่การออกแบบไปจนถึงการผลิตและตรวจสอบ โดยคัดเลือกเฉพาะบริษัทที่มีธุรกิจหลักเกี่ยวข้องโดยตรงกับเซมิคอนดักเตอร์ สะท้อนการลงทุนที่ครอบคลุมและเป็นระบบ

ETF ที่ลงทุนในบริษัทชั้นนำในจีนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาและการใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ (AI)

โดยคัดเลือกหุ้นที่มีฐานอยู่ในจีนและฮ่องกง และจัดอันดับตามมูลค่าตลาดภายในอุตสาหกรรมย่อย พร้อมเกณฑ์สภาพคล่องขั้นต่ำ
หุ้นจีนขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ ศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งเอเชีย พลังแห่งการเติบโตที่โลกต้องจับตา

รวม 50 บริษัทยักษ์ใหญ่ใน New Economy ตั้งแต่ EV Battery, FinTech, Automation, Medical Equipment ถึง Solar Energy ซึ่งเป็นเสาหลักการเติบโตของจีนยุคใหม่ จากกระดาน ChiNext (Shenzhen)

• ความต้องการเซมิคอนดักเตอร์ในจีนยังคงอยู่ในระดับสูง หนุนให้การผลิตภายในประเทศยังคงขยายตัวได้
• อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในปี 2023 และแนวโน้มฟื้นตัวชัดเจนในปี 2025
• ได้แรงหนุนจากการสนับสนุนของรัฐบาลจีนเพื่อสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมภายในประเทศ รวมกว่า 500,000 ล้านหยวนในปี 2024 - ต้นปี 2025

• Humanoid Robot เข้าสู่ตลาดแรงงานมากขึ้น ทดแทนแรงงานมนุษย์มูลค่าหลายล้านดอลลาร์
• ศักยภาพ AI จีนเพิ่มขึ้นสร้างโอกาสรายได้ใหม่และเพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุนให้กับบริษัทในหลากหลายอุตสาหกรรม
• การขับขี่อัตโนมัติ (Autonomous Driving) ในจีนที่กำลังเข้ากระแสหลัก (Mass Market)

• นโยบายรัฐบาลจีนหนุนแรง ผลักดัน New Quality Productive Forces เปลี่ยนจาก Old Economy สู่เศรษฐกิจนวัตกรรมเต็มรูปแบบ
• ศักยภาพแซงดัชนีหลักในจีน ผลตอบแทนย้อนหลังเหนือ CSI300 และ FTSE A50 และ Forward P/E ราว 26 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว
• ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่กระจุกตัวแต่เพียง Semiconductors ประวัติการดำเนินงานยาวนาน ดัชนี ChiNext จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2014

 

 

ลงทุน DR ที่ออกโดย InnovestX ดีอย่างไร

 

ลงทุนหุ้นนอก เหมือนซื้อหุ้นไทย ในราคาเข้าถึงง่าย
• ราคาใกล้เคียงกับลงทุนตรงในหุ้นอ้างอิงปรับด้วยอัตราส่วนและอัตราแลกเปลี่ยน (Fair Price)*
*เฉพาะช่วงเวลาที่ตลาดหลักทรัพย์ไทยและตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ เปิดทำการพร้อมกัน (ไม่นับรวมวันหยุดของตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ)

มีบทวิเคราะห์ที่ออกโดย InnovestX Research
• มีทั้งบทวิเคราะห์ด้านปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยเทคนิค พร้อมคำแนะนำการลงทุน

 

สภาพคล่องสูง / Spread แคบ
• มี Market Maker ดูแลสภาพคล่อง ทำให้ซื้อขายได้ง่าย และมั่นใจได้ใน Market Stability
• ราคาซื้อขาย ใกล้เคียงกับสินทรัพย์อ้างอิง ลดความเสี่ยงจากส่วนต่างราคา ปรับด้วยอัตราส่วนและอัตราแลกเปลี่ยน

อัตราแลกเปลี่ยน (FX) ดี
• ได้เปรียบกว่าด้วยเรทค่าเงินที่ดีกว่าจากบริษัทในกลุ่ม SCBX
ความน่าเชื่อถือสูง
• ออกโดย InnovestX ภายใต้กลุ่ม SCBX ที่ได้ Rating AA จาก Fitch Ratings

วิธีอ่านชื่อสินทรัพย์ (Ticker)

ตัวอย่าง BABA23 อ่านว่า BABA23 โดยที่ BABA จะสื่อถึงหลักทรัพย์อ้างอิง ในขณะที่ 23 จะสื่อถึงหมายถึงผู้ออก DR

ค่าธรรมเนียม

ค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์คำนวณจากมูลค่าซื้อขายต่อวันตามจริง

อัตราค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2560

มูลค่าการซื้อขายต่อวันกรณีการซื้อขายผ่านเจ้าหน้าที่กรณีซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ต
บัญชีวงเงิน (Cash Account)บัญชีเติมเงิน (Cash Balance)
มูลค่า ≤ 5 ล้านบาท0.25%0.20%0.15%
5 ล้านบาท < มูลค่า ≤ 10 ล้านบาท0.22%0.18%0.13%
10 ล้านบาท < มูลค่า ≤ 20 ล้านบาท0.18%0.15%0.11%
มูลค่า > 20 ล้านบาท0.15%0.12%0.10%

 

ค่าธรรมเนียมตามตารางยังไม่รวมค่าธรรมเนียมและภาษี ดังนี้

• ค่าธรรมเนียมตลาดหลักทรัพย์ (SET Trading Fee) ที่ร้อยละ 0.005 ของมูลค่าซื้อขายต่อวัน

• ค่าธรรมเนียมการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ (TSD Clearing Fee) ที่ร้อยละ 0.001 ของมูลค่าซื้อขายต่อวัน

• ค่าธรรมเนียมการกำกับดูแล (Regulatory Fee) ที่ร้อยละ 0.001 ของมูลค่าซื้อขาย

• ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ของค่าธรรมเนียมทั้งหมด

ในวันที่ไม่มีการซื้อขายหรือส่งคำสั่งซื้อขายแล้วไม่เกิดการจับคู่ จะไม่มีค่าธรรมเนียมเกิดขึ้นในวันนั้น

 

FAQs

คำถามพบบ่อย
อ่านบทวิเคราะห์ DR ได้ที่ไหน?

ท่านสามารถอ่านบทวิเคราะห์ ไอเดีย และข่าวสารเกี่ยวกับ DR อย่างทันท่วงที

ได้บน InnovestX Cafe' Invest แหล่งรวมความรู้การลงทุน และบทวิเคราะห์จาก InnovestX

เลือก "INVEST SNACK" (ที่แถบด้านบน) > เลื่อนไปด้านล่างและเลือก "รู้จักผลิตภันฑ์ลงทุน" > คลิกกล่อง Dropdown และเลือก "DR" หรือ คลิกที่นี่ 

 

DR-Cafe invest

 

นักลงทุนที่ไม่เคยลงทุนในหุ้นต่างประเทศมาก่อน สามารถลงทุนในDR ได้หรือไม่ ?
ได้ การลงทุนในDR เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเริ่มต้นลงทุนในหุ้นต่างประเทศ เนื่องจากมีความสะดวกในการซื้อขายคล้ายกับหุ้นไทย ไม่ต้องกังวลเรื่องความแตกต่างของเวลาในแต่ละโซน และสามารถซื้อขายด้วยเงินบาท อีกทั้งยังได้รับผลตอบแทนและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เสมือนการไปลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศโดยตรง
DR แตกต่างจากการลงทุนในหุ้นต่างประเทศโดยตรงอย่างไร ?
DR ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ไทย ใช้สกุลเงินบาท และมีเวลาซื้อขายเดียวกับตลาดหุ้นไทย ทำให้สะดวกกว่าการลงทุนในหุ้นต่างประเทศโดยตรงที่ต้องเปิดบัญชีต่างประเทศ แลกเงินตราต่างประเทศ และซื้อขายตามเวลาของตลาดหุ้นนั้น ๆ นอกจากนี้ หากมีบัญชีหุ้นอยู่แล้ว ก็สามารถซื้อขาย DR ได้ทันทีบนกระดาน SET โดยไม่ต้องเปิดบัญชีใหม่
DR กับ ETF ต่างกันอย่างไร ?
DR และ ETF เป็นเครื่องมือการลงทุนที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงตลาดต่างประเทศได้ แต่มีความแตกต่างที่สำคัญคือ DR เป็นตราสารที่แสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศเพียงหนึ่งบริษัท ในขณะที่ ETF (Exchange Traded Fund) เป็นกองทุนที่ลงทุนในหลักทรัพย์หลายตัวตามดัชนีหรือธีมการลงทุน การลงทุนใน DR จึงมีความเสี่ยงเฉพาะของบริษัทนั้น ๆ แต่อาจให้ผลตอบแทนสูงหากบริษัทมีผลประกอบการดี ส่วน ETF มีการกระจายความเสี่ยงมากกว่า แต่ผลตอบแทนอาจถูกเฉลี่ยไปตามผลการดำเนินงานของหลักทรัพย์ทั้งหมดในกองทุน
ความเสี่ยงในการลงทุนDR มีอะไรบ้าง

การลงทุนใน DR มีความเสี่ยงที่นักลงทุนควรตระหนัก ดังนี้

  

• ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาหลักทรัพย์อ้างอิงในต่างประเทศ

• ความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน

• ความเสี่ยงทางการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศที่บริษัทอ้างอิงดำเนินธุรกิจ

• ความเสี่ยงด้านสภาพคล่องของ DR ในตลาดหลักทรัพย์ไทย

• ความเสี่ยงจากความแตกต่างของเวลาระหว่างตลาดหลักทรัพย์ไทยและตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ

 

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุนในDR อาจมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาหลักทรัพย์อ้างอิงในต่างประเทศ ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และการเมืองในประเทศของบริษัทอ้างอิง ผู้ลงทุนอาจได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรก

ปัจจัยที่ต้องพิจารณาก่อนเลือกซื้อ DR

ก่อนตัดสินใจลงทุนใน DR นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยสำคัญดังนี้

• ผลการดำเนินงานและศักยภาพการเติบโตของบริษัทอ้างอิง

• สภาพเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศที่บริษัทอ้างอิงดำเนินธุรกิจ

• ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน

• สภาพคล่องของ DR ในตลาดหลักทรัพย์ไทย

• ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนใน DR
สิทธิประโยชน์ของผู้ถือ DR มีอะไรบ้าง
ผู้ถือจะได้รับสิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในข้อกำหนดสิทธิ DR ซึ่งผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจก่อนลงทุนใน DR ถ้าตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศของหลักทรัพย์อ้างอิงใน DR นั้น ๆ มีการขึ้นเครื่องหมาย ผู้ออก DR จะขอให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยขึ้นเครื่องหมายเช่นเดียวกันเมื่อรับทราบ เพื่อให้ผู้ลงทุนในไทยได้รับทราบข่าวสารได้ทันที
มี Foreign Limit หรือไม่
DR ไม่มีการกำหนดสัดส่วนการถือครองของนักลงทุนต่างประเทศ
DR มีวันหมดอายุหรือไม่
ไม่มีวันหมดอายุ
ลักษณะการถือครอง
ถือเป็นใบ DR ซึ่งจดทะเบียนในรูปแบบไร้ใบหลักทรัพย์เท่านั้น
การเคลื่อนไหวของราคา DR เป็นอย่างไร
เคลื่อนไหวสอดคล้องตามราคาของหลักทรัพย์ต่างประเทศที่ DR นั้นอ้างอิง และปรับด้วยราคาของอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ ราคา DR อาจขึ้นกับ demand และ supply ของผู้ลงทุน ณ ขณะนั้นประกอบด้วย รวมถึงความสามารถในการดูแลสภาพคล่องของผู้ดูแลสภาพคล่อง DR นั้น
Tick Size และ Ceiling Floor อยู่ในอัตราเท่าไร
เหมือนหุ้นไทย ราคาสูงสุด/ต่ำสุด +-30%
จำนวนขั้นต่ำในการซื้อขาย DR DRx

จำนวนขั้นต่ำในการซื้อ ขาย DR ทำได้ตั้งแต่ 1 DR (Board Lot = 1)

 

ท่านสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จาก คลิก

บัญชีที่ใช้ในการซื้อขายต้องเปิดใหม่หรือไม่
ใช้บัญชีหุ้นไทย หากนักลงทุนมีบัญชีหุ้นไทยอยู่แล้ว ก็สามารถซื้อ DR ได้
เลือกลงทุนใน DR อย่างไร ?

• พิจารณาหลักทรัพย์อ้างอิงของ DR ว่ามีความสนใจ ปัจจัยพื้นฐานเป็นอย่างไร มูลค่าเหมาะสมหรือไม่ หากหลักทรัพย์อ้างอิงเป็นหุ้น ก็พิจารณาด้วยหลักการเดียวกับการลงทุนในหุ้นได้ แต่หากเป็น ETF ก็สามารถพิจารณาถึงบริษัทผู้ออก ETF นั้น ค่าธรรมเนียมการจัดการ performance ย้อนหลัง รวมถึง tracking error เป็นต้น

• พิจารณาผู้ออกDR ว่ามีความน่าเชื่อถือหรือไม่ มีการจัดอันดับเครดิตองค์กรเป็นอย่างไร

• พิจารณาสภาพคล่องของ DR ว่าสามารถบริหารจัดการให้ราคา DR เคลื่อนไหวสอดคล้องกับหลักทรัพย์อ้างอิงได้มากน้อยเพียงใด

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคา DR

• ราคาของหลักทรัพย์อ้างอิงในต่างประเทศ

• ราคาของหลักทรัพย์อ้างอิงในต่างประเทศ

• ความต้องการซื้อ-ขายของนักลงทุน

• ผู้ดูแลสภาพคล่อง โดยทั่วไปแล้วผู้ดูแลสภาพคล่องจะทำหน้าที่ได้ดีในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยเปิดตรงกับตลาดต่างประเทศที่หลักทรัพย์อ้างอิงของ DR จดทะเบียนอยู่
ผู้ถือ DR มีโอกาสได้รับเงินปันผลหรือไม่
ผู้ถือ DR มีโอกาสได้รับเงินปันผลหรือสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงในต่างประเทศ อย่างไรก็ดี กรณีสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ รวมถึงเงินปันผล ผู้ออก DR อาจมีหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยที่นักลงทุนสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามที่ระบุในสัญญารับฝาก
ผลตอบแทนจากการลงทุนใน DR
กำไรจากส่วนต่างราคา - หากราคา DR ขึ้นสูงกว่าตอนที่นักลงทุนซื้อไว้ นักลงทุนก็สามารถขายทำกำไรได้เหมือนหุ้น แต่หากทิศทางราคาไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ ก็มีโอกาสขาดทุนเช่นกัน
DR หุ้นต่างประเทศ ที่น่าสนใจมีอะไรบ้าง

⦁ DR หุ้นจีน – โอกาสลงทุนในตลาดหุ้นจีนผ่าน DR

DR หุ้นจีนในตลาดไทยประกอบด้วยบริษัทชั้นนำที่มีศักยภาพการเติบโตสูง เช่น บริษัทอีคอมเมิร์ซ เทคโนโลยี และการเงิน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจจีนที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว การลงทุนใน DR หุ้นจีนจึงเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนไทยได้มีส่วนร่วมในการเติบโตของเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลก

 

⦁ DR หุ้นเวียดนาม – โอกาสเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนาม

DR หุ้นเวียดนามเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสในตลาดเกิดใหม่ที่เติบโตสูง เวียดนามมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง มีประชากรวัยหนุ่มสาวจำนวนมาก และกำลังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว

 

⦁ DR หุ้นสหรัฐฯ – ลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีและนวัตกรรม

DR หุ้นสหรัฐฯ ให้โอกาสนักลงทุนไทยได้ลงทุนในบริษัทชั้นนำระดับโลกที่เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งมีศักยภาพการเติบโตสูงและสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว การลงทุนใน DR หุ้นสหรัฐฯ จึงเป็นการเพิ่มความหลากหลายให้กับพอร์ตการลงทุนและลดความเสี่ยงจากการลงทุนในตลาดเดียว

DR ในตลาดหุ้นไทยมีตัวไหนบ้าง
ปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์ไทยมี DR อยู่หลากหลายประเภท ครอบคลุมหุ้นจากหลายประเทศทั่วโลก โดยปัจจุบัน DR ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ DR หุ้นจีน และ DR หุ้นเวียดนาม ที่เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในตลาดเกิดใหม่ที่มีการเติบโตสูง
กลับด้านบน