Keyword
Bites for Breakfast

Bites for Breakfast - เรื่องต้องรู้ ก่อนเทรด วันนี้ 24 ก.ย. 2568

24 Sep 25 7:30 AM
Bites-Thumbnail-01
สรุปสาระสำคัญ

1. ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลง นักลงทุนพิจารณาถ้อยแถลงของประธานเฟด
2. พาวเวลล์ ย้ำเฟดเผชิญความเสี่ยงทั้งด้านเงินเฟ้อ และตลาดแรงงาน
3. OECD ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจทั่วโลกขึ้นเป็น 3.2% ระบุหลายประเทศฟื้นตัวดีกว่าคาด
4. Eurozone Composite PMI สูงสุดใน 16 เดือน ชี้กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังขยายตัว แต่ภาคการผลิตยังถูกกดดัน
5. อินเดียดัน “Semiconductor Mission” หวังเป็นศูนย์กลางผลิตชิปโลก
6. ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 40% ในปีนี้ ถือว่าทำผลงานได้ดีที่สุดในรอบ 45 ปี

Bites for Breakfast - เรื่องต้องรู้ ก่อนเทรด วันนี้ 24 ก.ย. 2568

 

Bites for Breakfast
By INVX Investment Products & Strategy
24 September 2025

1. ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบ โดย Dow ลดลง -0.19%, S&P 500 ลดลง -0.55% และ Nasdaq ลดลง -0.95% หลังเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดเน้นความจำเป็นต้องสมดุลระหว่างความกังวลเรื่องเงินเฟ้อกับตลาดแรงงานที่อ่อนแอ โดยยังไม่ให้สัญญาณชัดเจนเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งถัดไป แม้เฟดเพิ่งลดดอกเบี้ยครั้งแรกในปีนี้ ด้านหุ้น Nvidia ร่วง 2.8% ขณะที่ Boeing บวก 2% จากดีลกับ Uzbekistan Airways ส่วน Micron Technology ปรับขึ้นหลังประกาศผลประกอบการและแนวโน้มสดใส ตลาดยังคงเผชิญแรงขายหลังทำสถิติสูงสุดต่อเนื่อง 3 วันก่อนหน้า


2. เจอโรม พาวเวลล์ ระบุว่า เฟดอยู่ในสถานการณ์ที่ท้าทาย โดยต้องเผชิญความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่อาจสูงกว่าคาด และตลาดแรงงานที่อ่อนแอ โดยระบุว่า  “ไม่มีเส้นทางที่ปราศจากความเสี่ยง” (no risk-free path) ในการจัดการสมดุลเงินเฟ้อและตลาดแรงงาน ทั้งนี้พาวเวลล์ไม่ได้ส่งสัญญาณชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในระยะถัดไป แต่เตือนว่าการลดดอกเบี้ยเร็วเกินไปอาจกระตุ้นเงินเฟ้อ ขณะที่ลดช้าเกินไปอาจทำให้อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น นักวิเคราะห์มองว่า เฟดยังมีแนวโน้มลดดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป (modest cuts) และรอข้อมูลในการตัดสินใจ


3. OECD ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจทั่วโลกขึ้นเป็น 3.2% ในปี 2025 (จากเดิม 2.9% ที่คาดการณ์ไว้ในเดือนมิถุนายน 2025) โดยระบุว่าหลายประเทศมีความแข็งแกร่งและฟื้นตัวดีกว่าที่คาดไว้ โดยคาดการณ์เศรษฐกิจประเทศ สหรัฐฯ, จีน และญี่ปุ่น ขึ้นเป็น 1.8% (+0.2%), 4.9% (+0.2%) และ 1.1% (+0.4%) ตามลำดับ ส่วนปี 2026 คาดการณ์สหรัฐฯ โตเพียง 1.5% ปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนคือการลงทุนใน AI และนโยบายคลัง ขณะที่จีนยังมีนโยบายกระตุ้นแต่ผลกระทบจากภาษีและความไม่แน่นอนเชิงนโยบายยังสร้างความเสี่ยงต่อไป OECD เตือนยังมีความเสี่ยงจากอัตราภาษีสูง การชะลอตัวตลาดแรงงาน และแรงกดดันเงินเฟ้อ ส่วนการฟื้นตัวที่เหนือคาดนี้เป็นผลจากบริษัทเร่งผลิตและค้าขายก่อนถูกเก็บภาษีเพิ่ม


4. กิจกรรมทางเศรษฐกิจของยุโรปปรับตัวสูงสุดในรอบ 16 เดือนในเดือนกันยายน 2025 แต่คำสั่งซื้อใหม่ทรงตัว โดย Eurozone Composite PMI แตะ 51.2 จุด ในเดือนกันยายน สูงสุดใน 16 เดือน ขึ้นจาก 51.0 จุด ในเดือนก่อนหน้า และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ 51.1 จุด นำโดย Service PMI ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 51.4 จุด จาก 50.5 จุดในเดือนก่อน ชี้ว่าภาคการบริการยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ Manufacturing PMI ลดลงเหลือ 49.5 จุด ชี้ว่าภาคการผลิตกลับเข้าสู่ภาวะหดตัว ส่งผลให้นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรปยังคงมีความเปราะบาง


5. อินเดียกำลังเดินหน้าทุ่มงบประมาณมหาศาล 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 660,000 ล้านบาท) เพื่อสร้างอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์หรือชิปแบบครบวงจรในประเทศ ตั้งเป้าลดการพึ่งพาการนำเข้าและเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานโลกท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่กดดันให้ประเทศต่าง ๆ เร่งกระจายแหล่งผลิต อินเดียอนุมัติ 10 โครงการใน 6 รัฐ นำโดยโรงงานผลิตของ Tata Electronics มูลค่า 11,000 ล้านดอลลาร์ ร่วมกับบริษัทไต้หวันในรัฐคุชราต โครงการนี้ถูกมองว่าเป็นการลงทุนเพื่อความมั่นคงและเตรียมตัวเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมแห่งใหม่ แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าความท้าทายใหญ่หลวงในด้านบุคลากร โครงสร้างพื้นฐาน และเทคโนโลยีขั้นสูง อาจทำให้การก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นหลักในวงการชิปโลกของอินเดียต้องใช้ทั้งเวลาและการปรับตัวเชิงโครงสร้างอีกมาก

6. ราคาทองคำในปี 2025 เพิ่มขึ้นกว่า 40% นับตั้งแต่ต้นปี ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง และถือเป็นปีที่ดีที่สุดของทองคำนับตั้งแต่ปี 1979 แรงหนุนสำคัญมาจากการคาดการณ์ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปีนี้และปีหน้า กระแสเงินทุนไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะจากธนาคารกลางเช่น ในรัสเซีย จีน และอินเดีย ซื้อทองคำต่อเนื่องเพื่อลดความเสี่ยงค่าเงิน  รวมถึงแรงซื้อจากกองทุน ETF ที่สูงสุดในรอบ 3 ปี ปัจจุบันราคาทองคำอยู่สูงกว่า $3,700 ต่อออนซ์


ประเด็นที่ต้องติดตาม: Ifo Business Climate ของเยอรมนี เดือน ก.ย. คาดการณ์ที่ 89.3 จุด ก่อนหน้าที่ 89 จุด

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5