Keyword
Bites for Breakfast

Bites for Breakfast - เรื่องต้องรู้ ก่อนเทรด วันนี้ 19 ก.ย. 2568

19 Sep 25 7:30 AM
Bites-Thumbnail-01
สรุปสาระสำคัญ

1. ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ทำสถิติสูงสุดพร้อมกัน 4 ตัว หลังเฟดลดดอกเบี้ย

2. อียูเตรียมเสนอมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่

3. ธนาคารอังกฤษคงดอกเบี้ยที่ 4% และชะลอการลดขนาดงบดุล

4. ทรัมป์–สี จิ้นผิง เตรียมคุยศุกร์นี้ โฟกัส TikTok–สงครามภาษี

5. เงินเฟ้อญี่ปุ่นชะลอจากมาตรการอุดหนุนพลังงาน ก่อน BOJ ประชุม

6. Nvidia ลงทุน 5 พันล้านดอลลาร์ใน Intel จับมือพัฒนาชิป

7. นายกฯ พร้อมทีมเศรษฐกิจไทย รับ 7 ข้อเสนอหอการค้า ฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย

8. คลังเผยรัฐบาลใหม่เตรียมอัดงบ ‘คนละครึ่ง – Easy e-Receipt’ กระตุ้น ศก. ครึ่งปีหลัง 68

Bites for Breakfast - เรื่องต้องรู้ ก่อนเทรด วันนี้ 19 ก.ย. 2568

 

Bites for Breakfast
By INVX Investment Products & Strategy
19 September 2025

 

1. S&P 500, Nasdaq 100, Dow Jones และ Russell 2000 ปิดที่ระดับสูงสุดใหม่พร้อมกันเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2021 นักลงทุนแห่ซื้อหุ้นหลังเฟดเริ่มวงจรลดดอกเบี้ย โดย S&P 500 +0.5%, Nasdaq 100 +1%, Dow Jones +0.3%, Russell 2000 +2.5% ขณะที่บอนด์ถูกขาย ยีลด์ 10 ปีขยับขึ้นสู่ 4.11% ดอลลาร์แข็ง 0.4% ยูโร–ปอนด์–เยนอ่อน น้ำมัน WTI -0.6% ปิด $63.68/บาร์เรล ทองคำ -0.4% ปิด $3,646/ออนซ์ Bitcoin +1.6% ที่ $117,488 นักลงทุนเชื่อดอกเบี้ยต่ำหนุนกำไรบริษัทและกระแสลงทุนในหุ้นใหญ่–หุ้นเล็ก

 

2. คณะกรรมาธิการยุโรปเตรียมเสนอมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียครั้งที่ 19 ให้ชาติสมาชิกพิจารณาภายในสัปดาห์นี้ หลังการหารือทางโทรศัพท์ระหว่างอุร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป และปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ มาตรการใหม่นี้จะครอบคลุมในด้านคริปโต ธนาคาร และพลังงาน รวมถึงบริษัทน้ำมันรัสเซียและเครือข่ายที่ช่วยส่งออกผ่านประเทศที่สาม ขณะเดียวกันสหรัฐฯ กดดัน G7 ให้เก็บภาษีนำเข้าจากจีนและอินเดียสูงสุด 100% เพื่อลดการซื้อน้ำมันรัสเซีย แม้หลายประเทศอียูยังไม่เห็นด้วย นอกจากนี้ อียูยังหารือการใช้ทรัพย์สินธนาคารกลางรัสเซียที่ถูกอายัดกว่า 300,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยยูเครน

 

3. ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 4% และชะลอความเร็วของมาตรการลดงบดุล (Quantitative Tightening) เพื่อตอบโจทย์ความท้าทายด้านเงินเฟ้อที่ยังดื้อด้านและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ซบเซา การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของ BoE ในการหาสมดุลระหว่างการกดดันเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมาย 2% และการหลีกเลี่ยงการกดดันเศรษฐกิจที่เปราะบางเกินไป คณะกรรมการมีมติ 7 ต่อ 2 เสียงให้คงดอกเบี้ย ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าท่าทีที่ระมัดระวังนี้บ่งชี้ว่า BoE อาจคงดอกเบี้ยในระดับสูงไปอีกระยะ

 

4. ทำเนียบขาวยืนยันว่า ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ และปธน. สี จิ้นผิง จะสนทนาทางโทรศัพท์วันศุกร์ เวลา 9.00 น. ตามเวลาสหรัฐฯ ถือเป็นการพูดคุยครั้งแรกตั้งแต่เดือนมิถุนายน หัวข้อสำคัญคืออนาคต TikTok ในสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ระหว่างดีลขายกิจการให้กลุ่ม Oracle–Andreessen–Silver Lake รวมถึงการต่ออายุข้อตกลงพักรบภาษี 90 วัน ปัญหาการควบคุมแร่หายาก และคำสั่งซื้อเครื่องบิน Boeing จากจีนยังอยู่ในวาระ นอกจากนี้ คาดผู้นำสองฝ่ายจะหารือกรณีจีนสอบสวน Nvidia เรื่องผูกขาด และข้อตกลงให้ชิปบางรุ่นส่งออกจีนได้ หากรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ส่วนแบ่ง 15%

 

5. ดัชนี CPI ญี่ปุ่น (ไม่รวมอาหารสด) เดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 2.7% เทียบปีก่อน ต่ำกว่าเดือนก.ค. ที่ 3.1% และเป็นการชะลอแรงสุดตั้งแต่เดือนพ.ย. สาเหตุจากรัฐบาลกลับมาอุดหนุนค่าไฟและก๊าซธรรมชาติ อย่างไรก็ดี เงินเฟ้อพื้นฐานที่ไม่รวมพลังงานยังอยู่สูงที่ 3.3% แสดงถึงแรงกดดันด้านราคาที่ยังชัดเจน นักวิเคราะห์มองว่าข้อมูลนี้ไม่น่าจะทำให้ BOJ เปลี่ยนท่าที โดยคาดจะคงดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้ ขณะที่ตลาดจับตาสัญญาณจากผู้ว่าฯ อุเอดะ ว่าจะพร้อมขึ้นดอกเบี้ยราวต้นปี 2026 หรือไม่ แม้ความเสี่ยงเศรษฐกิจจากภาษียังเป็นปัจจัยกดดัน

 

6. Nvidia ประกาศลงทุน 5 พันล้านดอลลาร์ใน Intel และจะร่วมกันออกแบบชิปสำหรับพีซีและดาต้าเซ็นเตอร์ นับเป็นความร่วมมือที่ไม่คาดคิดระหว่างอดีตคู่แข่ง โดย Nvidia จะเข้าซื้อหุ้นสามัญของ Intel ที่ราคา 23.28 ดอลลาร์ต่อหุ้น และนำเทคโนโลยีกราฟิกมาใช้ในชิปรุ่นใหม่ของ Intel ขณะที่ Intel จะส่งมอบซีพียูสำหรับผลิตภัณฑ์ดาต้าเซ็นเตอร์ที่ทำงานร่วมกับฮาร์ดแวร์ของ Nvidia ข่าวนี้ส่งผลให้หุ้น Intel พุ่งสูงสุด 28% ส่วน AMD ร่วงเกือบ 6% และ ASML บวกกว่า 8% ความร่วมมือดังกล่าวสะท้อนการเปลี่ยนแปลงสมดุลอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ที่ Nvidia ก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้าน AI และ Intel ต้องหันมาพึ่งพันธมิตรเพื่อฟื้นธุรกิจ

 

7. นายกฯ พร้อมว่าที่ รมว. และ รมช. คลัง, รมว. พลังงาน และ รมว. พาณิชย์ เข้าหารือสภาหอการค้าไทยและรับ 7 ข้อเสนอฟื้นฟู ศก. ไทย ได้แก่ สร้างความเชื่อมั่น นลท., เพิ่มสภาพคล่อง, ลดค่าครองชีพ, ส่งเสริมการค้า-ลงทุน, ยกระดับความปลอดภัย, เตรียมรับผลกระทบสงครามการค้า และกระตุ้นกำลังซื้อ

 

8. แหล่งข่าวกระทรวงการคลังเผยรัฐบาลใหม่เตรียมจัดสรรงบเพื่อเร่งกระตุ้น ศก. ช่วง 2H68 ผ่านมาตรการ “คนละครึ่ง” ที่มีวงเงินจากงบกระตุ้น ศก. ที่เหลือจากปีงบ 2568 และของปีงบ 2569 ที่ 2.6 และ 2.5 หมื่นลบ. ตามลำดับ และมีงบกลางสำรองอีก 9.8 หมื่นลบ. และมาตรการ “Easy e-Receipt” ที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้ว

 

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม: BoJ Interest Rate Decision คาดคงดอกเบี้ยที่ 0.5% และ Retail Sales YoY ของสหราชอาณาจักร เดือน ส.ค. คาดว่าจะออกมาที่ 0.7% จากก่อนหน้าที่ 1.1%

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5