Bites for Breakfast

Bites for Breakfast - เรื่องต้องรู้ ก่อนเทรด วันนี้ 28 ต.ค. 2568

28 Oct 25 7:30 AM
Bites-Thumbnail-01
สรุปสาระสำคัญ

1. หุ้นโลกพุ่งทำสถิติใหม่ รับความคืบหน้าการค้าสหรัฐฯ–จีนและคาดเฟดลดดอกเบี้ย

2. PBOC เตรียมกลับมาซื้อขายพันธบัตรรัฐบาล หลังหยุดดำเนินการเกือบ 10 เดือน

3. กำไรภาคอุตสาหกรรมจีนพุ่ง 21.6% สูงสุดรอบเกือบ 2 ปี รับอานิสงส์นโยบายลดกำลังการผลิตเกิน

4. เบสเซนต์เผยรายชื่อ 5 ตัวเต็งเก้าอี้ประธานเฟดคนใหม่ “ทรัมป์” คาดเลือกได้ภายในสิ้นปี

5. ราคาทองคำร่วงหลุด $4,000 หลังตลาดอยู่ในโหมด risk-on

6. Amazon เตรียมปลดพนักงานกว่า 30,000 ตำแหน่งในหลายหน่วยธุรกิจหลัก

7. โตโยต้า มอเตอร์ เผยยอดขายรถยนต์ทั่วโลกช่วง เม.ย.-ก.ย. 2568 เพิ่มขึ้น 4.7%YoY

8. มูลค่าส่งออกไทยใน ก.ย. 2568 ขยายตัว 19.0%YoY สูงกว่าที่ตลาดคาด

Bites for Breakfast
By INVX Investment Products & Strategy
28 October 2025

 

1. ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับขึ้นแรงจากความหวังว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ–จีนจะบรรลุผลในสัปดาห์นี้ โดย S&P 500 พุ่ง 1.2% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ Nasdaq 100 บวก 1.8% นำโดยกลุ่ม “Magnificent Seven” ที่พุ่ง 2.6% ก่อนรายงานผลประกอบการของ Microsoft, Alphabet, Meta, Amazon และ Apple ด้านทองคำร่วงลง 3% สู่ $3,989 ต่อออนซ์ และบอนด์ยีลด์ 10 ปีสหรัฐฯ ลดลงเล็กน้อยสู่ 3.99% นักลงทุนยังคงคาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม โดยนักกลยุทธ์จาก HSBC, UBS และ Morgan Stanley ต่างมองตลาดอยู่ในโหมด “risk-on” ต่อเนื่องถึงปี 2026 จากแรงหนุนเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังแข็งแกร่งและสภาพคล่องสูง

 

2. ธนาคารกลางจีน (PBOC) เตรียมกลับมาดำเนินการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลในตลาดเปิดอีกครั้ง หลังระงับมาตั้งแต่เดือนมกราคม เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดตราสารหนี้และสภาพคล่องในระบบ โดย ผู้ว่าการ Pan Gongsheng ระบุว่าตลาดกลับมามีเสถียรภาพเพียงพอให้ดำเนินการได้อีกครั้ง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีปรับลดลง 5 bps สู่ 1.80% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่ต้นกันยายน นักวิเคราะห์จาก CITIC Securities ชี้ว่ามาตรการนี้จะช่วยสร้างเส้นอัตราผลตอบแทนที่มีสุขภาพดี และ Credit Agricole CIB มองว่าการกลับมาซื้อขายจะช่วยคงสภาพคล่องแบบผ่อนคลายและกระตุ้นการทำ carry trade ในตลาดพันธบัตรภายในประเทศ

 

3. สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า กำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 21.6% จากปีก่อนหน้า สูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี และดีกว่าคาดการณ์ของ Bloomberg Economics ที่ 3.9% หลังการผลิตภาคอุตสาหกรรมเร่งตัวและราคาหน้าโรงงาน (PPI) ลดลงช้าลง ขณะที่กำไรภาคอุตสาหกรรมช่วง 9 เดือนแรกของปี (YTD) ขยายตัว 3.2% สะท้อนผลของนโยบายรัฐบาลจีน ในการลดกำลังการผลิตส่วนเกินและการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง แม้อุปสงค์ในประเทศยังอ่อนแรงและการจ้างงาน–การลงทุนยังไม่ฟื้นเต็มที่

 

4. รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ สก็อตต์ เบสเซนต์ เผยรายชื่อ 5 ผู้เข้าชิงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คนใหม่ แทน เจอโรม พาวเวล ซึ่งครบวาระเดือนพฤษภาคมปีหน้า ประกอบด้วย คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ และ มิเชล โบว์แมน สองกรรมการเฟด, เควิน วอร์ช อดีตผู้ว่าการเฟด, เควิน แฮสเสตต์ ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ และ ริก รีเดอร์ ผู้บริหารจาก BlackRock โดยทรัมป์ระบุว่าจะตัดสินใจภายในสิ้นปี เบสเซนต์ซึ่งเป็นผู้สัมภาษณ์หลักกล่าวว่าต้องการเสนอ “รายชื่อที่ดีที่สุด” หลังวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving)

 

5. ราคาทองคำร่วงแรง 3.4% หลุดระดับ $4,000 ต่อออนซ์ แตะต่ำสุดราว $3,980 ต่อออนซ์ หลังตลาดคลายกังวลความเสี่ยงจากความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ–จีน ซึ่งทำให้นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย ด้าน Ole Hansen หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์จาก Saxo Bank ระบุว่าทองคำกำลังเข้าสู่การปรับฐานที่สมเหตุสมผล ขณะที่นักวิเคราะห์จาก Citigroup คาดราคาทองอาจร่วงแตะ $3,800 ในสามเดือนข้างหน้า ท่ามกลางแรงขายจากนักเก็งกำไรและตลาดหุ้นที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง

 

6. Amazon วางแผนปรับลดพนักงานองค์กรครั้งใหญ่ ครอบคลุมหน่วยธุรกิจโลจิสติกส์ ระบบชำระเงิน เกม และคลาวด์คอมพิวติ้ง (AWS) โดยคาดว่าการปลดอาจกระทบพนักงานสูงสุดราว 30,000 ตำแหน่ง ซึ่งจะเป็นการลดครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2022–2023 ที่ปลดรวมกว่า 27,000 คน การปรับโครงสร้างนี้เกิดขึ้นภายใต้ยุทธศาสตร์ของซีอีโอ Andy Jassy ที่ต้องการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) หลังจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วงโควิด-19 ปัจจุบัน Amazon มีพนักงานทั้งหมดราว 1.55 ล้านคน โดย 350,000 คนอยู่ในสายงานองค์กร

 

7. โตโยต้า มอเตอร์ เผยยอดขายรถยนต์ทั่วโลกช่วง เม.ย.-ก.ย. 2568 เพิ่มขึ้น 4.7%YoY ที่ 5,267,216 คัน ทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หนุนจากความต้องการรถ Hybrid ที่แข็งแกร่งในอเมริกาเหนือและจีน แม้กำลังเผชิญแรงกดดันจากมาตรการภาษีศุลกากรสหรัฐฯ

 

8. มูลค่าส่งออกไทยใน ก.ย. 2568 ขยายตัว 19.0%YoY สูงกว่าที่ตลาดคาดและสูงที่สุดในรอบ 42 เดือน หนุนจากการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม คาดได้อานิสงส์จากความชัดเจนของมาตรการภาษีศุลกากรสหรัฐฯ ทำให้มูลค่าส่งออกช่วง 9M68 ขยายตัว 13.9%YoY กระทรวงพาณิชย์ประเมินการส่งออกทั้งปีนี้จะขยายตัว 9.4-10.4% ทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
 
ประเด็นที่ต้องติดตาม: S&P/Case-Shiller Home Price YoY ของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาดว่าจะออกมาที่ 2.1% จากก่อนหน้าที่ 1.8%

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5