Bites for Breakfast

Bites for Breakfast - เรื่องต้องรู้ ก่อนเทรด วันนี้ 30 ต.ค. 2568

30 Oct 25 7:30 AM
Bites-Thumbnail-01
สรุปสาระสำคัญ

1. ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผันผวนหลังพาวเวลส่งสัญญาณเฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง

2. เฟดลดดอกเบี้ยอีก 0.25% แต่พาวเวลส่งสัญญาณลดต่อในธันวาคม “ยังไม่แน่นอน”

3. ทรัมป์เตรียมลดภาษีสินค้าจีน แลกความร่วมมือแก้ปัญหายาเฟนทานิล

4. จีนกลับมาซื้อถั่วเหลืองสหรัฐฯ ครั้งแรกในรอบปี สัญญาณบวกก่อนดีลการค้าสหรัฐฯ–จีน

5. สหรัฐฯ–เกาหลีใต้บรรลุข้อตกลงการค้าใหม่ มูลค่าลงทุนรวมกว่า 350,000 ล้านดอลลาร์

6. Nvidia พุ่งทำนิวไฮ รับสัญญาณทรัมป์อาจเปิดทางขายชิป AI ให้จีน

7. OpenAI เตรียมเข้าตลาดหุ้นปี 2027 มูลค่าประเมินสูงสุด $1 ล้านล้าน

8. รมว. คลังไทยเผยความคืบหน้าการเจรจาข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ

Bites for Breakfast
By INVX Investment Products & Strategy
30 October 2025

 

1. ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผันผวนหลังประธานเฟด เจอโรม พาวเวล ส่งสัญญาณว่า “ยังไม่แน่นอน” ว่าจะมีการลดดอกเบี้ยอีกในเดือนธันวาคม แม้เฟดเพิ่งลดดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่สอง พร้อมประกาศยุติ quantitative tightening ในวันที่ 1 ธ.ค. ส่งผลให้บอนด์ยีลด์อายุ 2 ปีพุ่งขึ้น 11 bps สู่ 3.6% และยีลด์ 10 ปีแตะ 4.07% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดแทบไม่เปลี่ยนแปลง, Nasdaq 100 บวก 0.4%, และ Dow Jones ร่วง 0.2% หุ้นเทคโนโลยียังเป็นจุดสว่าง โดย Nvidia ขึ้นต่อแตะมูลค่าตลาด $5 ล้านล้าน ด้านนักวิเคราะห์จาก Renaissance Macro มองว่าความเห็นแตกต่างภายในเฟดอาจเพิ่มความผันผวนของตลาด แต่การอ่อนแรงของตลาดแรงงานยังหนุนโอกาสลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปีหน้า

 

2. เฟดมีมติ 10 ต่อ 2 เสียง ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่กรอบ 3.75%–4.00% เป็นการลดต่อเนื่องครั้งที่สอง พร้อมประกาศยุติ quantitative tightening ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. หลังลดขนาดงบดุลลงกว่า $2 ล้านล้านดอลลาร์ ตั้งแต่ปี 2022 อย่างไรก็ตาม ประธานเฟด เจอโรม พาวเวล ระบุว่าการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในเดือนธันวาคม “ยังไม่ใช่สิ่งที่แน่นอน” โดยนักเศรษฐศาสตร์ Stephen Juneau จาก BofA Securities มองว่าท่าทีของพาวเวล “แข็งกร้าวกว่าที่ตลาดคาด” สะท้อนความเห็นภายในเฟดที่แตกต่างเกี่ยวกับความจำเป็นในการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติม

 

3. ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่าจะลดภาษีสินค้าจีนที่เกี่ยวข้องกับวิกฤตยา เฟนทานิล โดยคาดว่าภาษีอาจถูกลดจาก 20% เหลือ 10% หากจีนร่วมมือสกัดการส่งออกสารตั้งต้นผลิตยาเฟนทานิล ขณะที่จีนส่งสัญญาณพร้อมให้ความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ และยินดีร่วมมือในด้านเฟนทานิลและเสถียรภาพห่วงโซ่อุปทาน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายคาดว่าจะลงนามกรอบข้อตกลงการค้าครอบคลุม ที่รวมการชะลอการเก็บภาษีใหม่และการผ่อนคลายข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี

 

4. จีนสั่งซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ อย่างน้อย 2 ล็อต เป็นครั้งแรกของฤดูกาล ส่งสัญญาณว่าการค้าระหว่างสองประเทศอาจกลับมาฟื้นตัว ก่อนการประชุมระหว่าง ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และ โดนัลด์ ทรัมป์ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่าจะบรรลุกรอบข้อตกลงทางการค้าครอบคลุม การสั่งซื้อนี้เกิดขึ้นหลังจากจีนหลีกเลี่ยงการนำเข้าจากสหรัฐฯ ตั้งแต่ต้นปี โดยหันไปพึ่งซัพพลายจากอเมริกาใต้แทน ส่งผลให้ต้นทุนสูงขึ้นและเสี่ยงต่อปัญหาสภาพอากาศ ด้านนักวิเคราะห์จากบริษัทการตลาดสินค้าเกษตรจากออสเตรเลียมองว่าดีลดังกล่าวอาจฟื้นการค้าถั่วเหลืองที่มีมูลค่ากว่า 12,000 ล้านดอลลาร์ ต่อปี แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจีนจะซื้อในปริมาณคงที่หรือไม่

 

5. สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ได้ข้อสรุปข้อตกลงการค้าฉบับใหม่ หลังเจรจายาวนานหลายเดือน โดยเกาหลีใต้จะลงทุน $150,000 ล้าน ในอุตสาหกรรมต่อเรือ และอีก $200,000 ล้าน ในโครงการร่วมทุนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ทั้งในรูปแบบเงินทุนและสินเชื่อ พร้อมข้อตกลงลดภาษีนำเข้าสินค้าเกาหลีใต้เหลือ 15% จากเดิม 25% ด้านประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่าเกาหลีใต้ยังตกลงซื้อพลังงานจากสหรัฐฯ ในปริมาณมาก และลงทุนในสหรัฐฯ รวมกว่า $600,000 ล้าน ทั้งสองฝ่ายยังตกลงให้เกาหลีใต้สามารถสร้างเรือดำน้ำนิวเคลียร์ในอู่ต่อเรือฟิลาเดลเฟีย ซึ่งทรัมป์ยกให้เป็น “ชัยชนะเชิงอุตสาหกรรม” ของทั้งสองประเทศ

 

6. หุ้น Nvidia Corp. พุ่งขึ้นสู่ระดับราว $207 หลังปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่าจะหารือกับ สี จิ้นผิง เกี่ยวกับการอนุญาตให้ส่งออกชิป AI รุ่น Blackwell ไปยังจีน ซึ่งอาจเป็นดีลผ่อนคลายข้อจำกัดทางเทคโนโลยีครั้งใหญ่ระหว่างสองประเทศ และผลักดันให้ Nvidia มีมูลค่าตลาดแตะ $5 ล้านล้านดอลลาร์ เป็นครั้งแรก ทรัมป์กล่าวว่า “เราจะพูดคุยกันเรื่อง Blackwells” โดยยกย่องชิปนี้ว่า “เป็นเทคโนโลยีขั้นสุดยอด” การคาดหวังการเข้าถึงตลาดจีน ซึ่งเป็นผู้ใช้รายใหญ่ของโลก ช่วยหนุนความเชื่อมั่นนักลงทุน แม้จีนยังคงส่งเสริมการพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยีและชิปขั้นสูงอย่างต่อเนื่อง

 

7. รายงานจาก Reuters ระบุว่า OpenAI กำลังเตรียมการเสนอขายหุ้น IPO ซึ่งอาจมีมูลค่าประเมินสูงถึง $1 ล้านล้าน โดยมีแผนระดมทุนอย่างน้อย $60,000 ล้าน และคาดว่าจะยื่นไฟลิ่งได้ในครึ่งหลังของปี 2026 ก่อนเข้าจดทะเบียนในปี 2027 การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลัง OpenAI บรรลุข้อตกลงกับผู้สนับสนุนหลัก Microsoft เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่โครงสร้างบริษัทเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบ หากสำเร็จ IPO ดังกล่าวจะกลายเป็นดีลที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมอบเงินทุนมหาศาลให้ซีอีโอ แซม อัลท์แมน เดินหน้าลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI และชิปประมวลผลขั้นสูง เพื่อบรรลุเป้าหมายระยะยาวในการพัฒนา “AI ระดับมนุษย์”

 

8. รมว. คลังไทยเผยความคืบหน้าการเจรจาข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ กับ USTR ว่ามีสัญญาณเชิงบวก แม้จะไม่มีการลดอัตราภาษีศุลกากรที่ 19% แต่สหรัฐฯ มีช่องทางเปิดโอกาสการลดหย่อนหรือยกเว้นอัตราภาษีสำหรับสินค้าบางรายการได้ผ่านการออก Executive Order
 
ประเด็นที่ต้องติดตาม: BoJ Interest Rate Decision คาดคงดอกเบี้ย และ ECB Interest Rate Decision คาดคงดอกเบี้ย

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5