
1. S&P 500 ทำนิวไฮ รับความหวัง “Santa Rally”
2. PBOC คงท่าทีผ่อนคลายแต่เน้นเสถียรภาพระยะยาวมากกว่ากระตุ้นแรงระยะสั้น
3. ญี่ปุ่น–สหรัฐฯเร่งเดินหน้าโครงการลงทุน $550 พันล้าน
4. ศาลสหรัฐฯ ไฟเขียวค่าธรรมเนียม H-1B ใหม่ $100,000
5. พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามหนุน “โต ลัม” นั่งเลขาฯ ต่อ พร้อมชิงตำแหน่งปธน.ควบ
6. BP ขายหุ้น 65% ใน Castrol ให้ Stonepeak มูลค่า $6 พันล้าน
7. ม. หอการค้าไทยชี้ว่าเทศกาลปีใหม่ 2569 จะมีเงินสะพัด 1.12 แสนลบ.
Bites for Breakfast
By INVX Investment Products & Strategy
25 December 2025
1. ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้นในวันก่อนคริสต์มาส โดย S&P 500 ปิดทำนิวไฮ ท่ามกลางความหวัง “Santa Rally” และสัญญาณว่าแรงงานสหรัฐฯ ยังไม่ได้อ่อนแรงลงเร็ว ส่วน bond yield 10 ปี สหรัฐฯ ลดลงสู่ระดับ 4.13% ขณะที่ดัชนี VIX แตะระดับต่ำสุดในปีนี้ นักกลยุทธ์จาก UBS และ Piper Sandler ประเมินว่าความกว้างของตลาดดีขึ้น (improving breadth) สนับสนุนโอกาสปรับขึ้นต่อ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ตามการสำรวจของ Bloomberg ยังคาดเฟดจะลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปี 2026 หากเงินเฟ้อยังอยู่ในทิศทางชะลอตัวลง
2. ธนาคารกลางจีน (PBOC) ส่งสัญญาณคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย แต่ยังหลีกเลี่ยงมาตรการกระตุ้นเชิงรุก โดยระบุว่าจะรักษาต้นทุนกู้ยืมให้อยู่ในระดับต่ำและเดินหน้าใช้นโยบาย “ข้ามวัฏจักร” (cross-cyclical) เพื่อพยุงเสถียรภาพระยะยาว แม้อุปสงค์ภายในอ่อนแรง โดยยอดค้าปลีกเติบโตต่ำสุดตั้งแต่ช่วงโควิด และการลงทุนสินทรัพย์ถาวรมีแนวโน้มติดลบทั้งปีเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1998 PBOC ชี้ว่าจะ “ปรับแรง–จังหวะ–เวลา” ของนโยบายตามสภาพเศรษฐกิจ และจะดูแลเสถียรภาพเงินหยวนต่อไป การระมัดระวังของ PBOC สะท้อนการรักษาพื้นที่นโยบายในอนาคต
3. ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ เห็นพ้องเร่งเดินหน้าโครงการภายใต้แผนลงทุนร่วม Strategic Investment Initiative มูลค่า $550 พันล้าน หลังสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่าอาจขึ้นภาษีนำเข้าญี่ปุ่น หากความคืบหน้าล่าช้า เดิมทรัมป์เคยขู่เก็บภาษี 25% ต่อสินค้าญี่ปุ่น ก่อนลดเหลือ 15% เมื่อญี่ปุ่นตกลงเพิ่มการลงทุน การประชุมที่วอชิงตันระหว่างรัฐมนตรีการค้าญี่ปุ่น เรียวเซ อาคาซาวะ และรัฐมนตรีสหรัฐฯ ระบุว่าสหรัฐฯ จะเป็นผู้เลือกโครงการลงทุนแรกของแผนนี้ และหลังจากนั้นญี่ปุ่นจะต้องอนุมัติโครงการภายใน 45 วัน เพื่อให้เดินหน้าได้ตามกำหนด มิฉะนั้นอาจเสี่ยงถูกนำประเด็นภาษีกลับมาพิจารณาอีกครั้ง
4. ผู้พิพากษาสหรัฐฯ มีคำตัดสินสนับสนุนให้รัฐบาลทรัมป์เดินหน้าจัดเก็บ ค่าธรรมเนียมยื่นขอวีซ่า H-1B ใหม่สูงถึง $100,000 ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ถือเป็นความพ่ายแพ้ของบริษัทเทคฯ ที่พึ่งพาการจ้างแรงงานต่างชาติทักษะสูง และของสภาหอการค้าสหรัฐฯ ซึ่งยื่นฟ้องเพื่อระงับมาตรการ ผู้พิพากษาระบุว่าปธน.มีอำนาจตามกฎหมายในการประกาศขึ้นค่าธรรมเนียม โดยให้เหตุผลด้านความมั่นคงเศรษฐกิจและแรงงาน กลุ่มบริษัทและมลรัฐ 19 แห่งเตรียมยื่นอุทธรณ์ ขณะที่บริษัทเทคฯ รายใหญ่ที่พึ่งพาแรงงาน H-1B จำนวนมาก เช่น Amazon, Microsoft, Meta, Tata และ Apple อาจเผชิญต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
5. พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามมีมติหนุน โต ลัม ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคต่ออีกสมัย และเตรียมเสนอชื่อเขาให้ควบตำแหน่งปธน. ซึ่งหากได้รับความเห็นชอบจากสภา จะเป็นครั้งแรกในยุคปัจจุบันที่ผู้นำคนเดียวถือสองตำแหน่งพร้อมกันยาวต่อเนื่อง การตัดสินใจเกิดขึ้นหลังการประชุมคณะกรรมการกลางครั้งที่ 15 ก่อนการประชุมสมัชชาพรรคในฮานอยเดือนหน้า โดย โต ลัม ถือเป็นบุคคลสำคัญ เนื่องจากเป็นผู้ผลักดันการปฏิรูปรัฐครั้งใหญ่ ทั้งการลดจำนวนข้าราชการและจังหวัดลงครึ่งหนึ่ง พร้อมเร่งเสริมบทบาทภาคเอกชนภายใต้ Resolution 68
6. BP บรรลุข้อตกลงขายหุ้น 65% ในธุรกิจน้ำมันหล่อลื่น Castrol ให้บริษัทลงทุนสหรัฐฯ Stonepeak มูลค่าราว $6 พันล้าน ภายใต้แผนขายสินทรัพย์รวม $20 พันล้าน เพื่อลดหนี้และปรับกลยุทธ์ หลังผลการดำเนินงานอ่อนแอต่อเนื่องและถูกกดดันจากผู้ถือหุ้นอย่าง Elliott Investment Management ดีลนี้ประเมินมูลค่ากิจการที่ $10.1 พันล้าน โดย BP จะถือหุ้นที่เหลือผ่าน joint venture และมีสิทธิขายออกได้หลังครบ lock-up period 2 ปี นอกจากนี้ Castrol ยังมีธุรกิจเทคโนโลยีระบายความร้อนสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ AI ซึ่งมีโอกาสปิดดีลภายในสิ้นปีหน้า หากผ่านการอนุมัติตามกฎระเบียบ
7. ผลสำรวจ ม. หอการค้าไทยชี้ว่าเทศกาลปีใหม่ 2569 จะมีเงินสะพัด 1.12 แสนลบ. ขยายตัว 2.1%YoY สูงที่สุดในรอบ 6 ปี อานิสงส์ประชาชนมีเงินเหลือจาก “คนละครึ่งพลัส” และความต้องการคลายเครียดจากช่วงก่อนที่ประเทศไทยเผชิญสงครามและอุทกภัย
ประเด็นที่ต้องติดตาม: Housing Starts YoY ของญี่ปุ่น เดือน พ.ย. คาดว่าจะออกมาที่ 0.5% จากก่อนหน้าที่ 3.2%