
1.ฟิวเจอร์สบวกอ่อนๆ หลัง US CPI ออกมาต่ำคาด เพิ่มความหวังว่า Fed จะลดดอกเบี้ยต่อในปีหน้า
2.EU อัดฉีดเงินช่วยยูเครน 9 หมื่นล้านยูโร เน้นการกู้ยืมร่วมกันแทนการใช้สินทรัพย์รัสเซียที่ถูกอายัด
3.BoJ ปรับขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับ 0.75% สูงสุดตั้งแต่ปี 1995 และส่งสัญญาณปรับขึ้นอีกหากเศรษฐกิจ/ค่าจ้างโตตามเป้า
4.ทรัมป์ลงนามคำสั่งยุทธศาสตร์ตั้งเป้าส่งชาวอเมริกันกลับไปเหยียบดวงจันทร์ปี 2028
5.น้ำมันจ่อปิดรายสัปดาห์ -2% จากความกังวลอุปทานล้นตลาดและความหวังสงครามยูเครนจบลง
6.SET +0.17% ฟื้นตัวตามภูมิภาค รับข่าวเงินเฟ้อสหรัฐฯ ชะลอตัว
1. ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ล่วงหน้า (Futures) เคลื่อนไหวในแดนบวกเล็กน้อยในวันนี้ (19 ธ.ค.) สานต่อการฟื้นตัวจากเมื่อวานหลังจากตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภคที่ออกมาต่ำกว่าคาด ช่วยให้นักลงทุนมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะมีช่องว่างในการลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปี 2026 อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นยังคงถูกจำกัดโดยความอ่อนแอของหุ้น Nike ที่ร่วงลงอย่างรุนแรงในการซื้อขายก่อนเปิดตลาด สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจคืนนี้ นักลงทุนรอติดตามดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนและยอดขายบ้านมือสองเดือนพฤศจิกายนเพื่อประเมินทิศทางเศรษฐกิจต่อไป
2. สหภาพยุโรป (EU) ได้อนุมัติแพ็กเกจความช่วยเหลือใหม่สำหรับยูเครนมูลค่า 9 หมื่นล้านยูโร (ประมาณ 1.05 แสนล้านดอลลาร์) ในช่วงสองปีข้างหน้าเพื่อสนับสนุนด้านการป้องกันประเทศ โดยผู้นำยุโรปตัดสินใจใช้วิธีระดมทุนผ่านการกู้ยืมร่วมกันที่ค้ำประกันโดยงบประมาณของ EU แทนการนำสินทรัพย์ของรัสเซียที่ถูกอายัดไว้มาใช้โดยตรง ประธานสภายุโรประบุว่ายูเครนจะชำระคืนเงินกู้นี้ก็ต่อเมื่อรัสเซียจ่ายค่าปฏิกรรมสงครามแล้วเท่านั้น ขณะที่ประธานาธิบดีเซเลนสกีแสดงความขอบคุณต่อการตัดสินใจนี้ ซึ่งถือเป็นหลักประกันความมั่นคงทางการเงินให้กับยูเครนท่ามกลางความพยายามของยุโรปในการผลักดันการเจรจาสันติภาพที่นำโดยสหรัฐฯ เพื่อยุติความขัดแย้งในภูมิภาค
3. ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันนี้ตามที่ตลาดคาดการณ์ โดยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นสู่ระดับ 0.75% จากเดิม 0.5% ซึ่งถือเป็นระดับที่สูงสุดนับตั้งแต่ปี 1995 การปรับขึ้นครั้งนี้เป็นครั้งที่สองของปีต่อจากเดือนมกราคม โดย BoJ ให้เหตุผลว่าบริษัทในญี่ปุ่นมีแนวโน้มจะปรับขึ้นค่าจ้างอย่างต่อเนื่องในปี 2026 และผลกำไรภาคธุรกิจเริ่มดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เงินเฟ้อขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ตาม BoJ ตั้งข้อสังเกตว่าอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงยังคงอยู่ในระดับต่ำมาก และพร้อมจะปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อหากสภาวะเศรษฐกิจเป็นไปตามที่ประเมินไว้ เพื่อลดระดับการผ่อนคลายนโยบายการเงินลง
4. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งบริหารเชิงยุทธศาสตร์เพื่อผลักดันให้อเมริกากลับไปสู่ดวงจันทร์ภายในปี 2028 ภายใต้โครงการ Artemis ของ NASA และตั้งเป้าหมายในการสร้างฐานที่มั่นถาวรบนดวงจันทร์ภายในปี 2030 คำสั่งดังกล่าวเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการใช้นโยบายอวกาศเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของชาติและวางรากฐานสำหรับ "ยุคอวกาศใหม่" นอกจากนี้ยังสั่งการให้หน่วยงานของรัฐ รวมถึงเพนตากอนและหน่วยงานข่าวกรอง จัดทำยุทธศาสตร์ความมั่นคงในอวกาศ และลดบทบาทการกำกับดูแลของสภาอวกาศแห่งชาติเพื่อให้การดำเนินงานมีความคล่องตัวมากขึ้น ซึ่งถือเป็นการสานต่อแผนงานที่ทรัมป์เคยประกาศไว้ในวาระแรก
5. ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปิดลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่สอง เนื่องจากความกังวลเรื่องอุปทานส่วนเกินทั่วโลกและการคาดการณ์ว่าอุปทานจะมากกว่าความต้องการไปจนถึงปี 2026 ประกอบกับความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพรัสเซีย-ยูเครนที่อาจทำให้น้ำมันรัสเซียกลับเข้าสู่ตลาดมากขึ้น ปัจจัยเหล่านี้บดบังความกังวลเรื่องการปิดล้อมเรือบรรทุกน้ำมันของเวเนซุเอลาโดยสหรัฐฯ Brent และ WTI ปรับตัวลงเล็กน้อยในวันนี้และจ่อปิดลบกว่า 2% ในรอบสัปดาห์
6. ตลาดหุ้นไทย (SET) ปิดที่ 1,252.19 จุด เพิ่มขึ้น 2.12 จุด (+0.17%) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.4 หมื่นล้านบาท ดัชนีปรับตัวขึ้นตามทิศทางภูมิภาคหลังจากได้รับปัจจัยบวกจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่เริ่มชะลอตัว ซึ่งช่วยลดแรงกดดันต่อเศรษฐกิจและเพิ่มโอกาสที่ Fed จะเดินหน้าลดอัตราดอกเบี้ยต่อไป กลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นนำโดยกลุ่มอาหาร ประกัน การแพทย์ และค้าปลีก รวมถึงกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และท่องเที่ยว ขณะที่กลุ่มธนาคาร ขนส่ง และวัสดุก่อสร้าง ปรับตัวลดลงสลับกลุ่มการลงทุนในช่วงปลายสัปดาห์
ที่มา: Investing.com และ InnvestX Research
แปลและเรียบเรียง: Content Team, InnovestX
ดาวน์โหลดแอป InnovestX วันนี้ เพื่อเข้าถึงโอกาสการลงทุนในหุ้นสหรัฐและตลาดทั่วโลก
📱 ดาวน์โหลดแอป: https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b