Bites for Dinner

Bites for Dinner - เรื่องต้องรู้ก่อนเทรดคืนนี้ 18 ธ.ค. 2568

18 Dec 25 5:31 PM
Bites for Dinner - เรื่องต้องรู้ก่อนเทรดคืนนี้
สรุปสาระสำคัญ

1.ฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัว กลุ่มชิป Micron ช่วยพยุง
2.จับตา CPI คืนนี้ คาดพุ่งแตะ 3.1% สูงสุดในรอบปีครึ่งจากผลนโยบายภาษีนำเข้า
3.Micron กู้หน้ากลุ่ม AI คาดการณ์กำไร Q2 พุ่งแรงจากดีมานด์ Data Center 
4.ลุ้นประชุมแบงก์ชาติคืนนี้ เริ่มที่ BoE จ่อหั่นดอกเบี้ยเหลือ 3.75% ขณะที่ ECB มีแนวโน้มคงดอกเบี้ยที่ 2%
5.น้ำมันขยับขึ้นหนุนจากการสั่งปิดล้อมเรือน้ำมันเวเนซุเอลาของทรัมป์
6.SET ปิด -0.54% กดดันจากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ ตลาดสลับเข้าหุ้นกลุ่ม Domestic-Dividend เพื่อเลี่ยงความเสี่ยง

🌙 เรื่องต้องรู้ก่อนเทรดคืนนี้ 18 ธันวาคม 2568

 

1. ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ล่วงหน้า (Futures) เคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (18 ธ.ค.) โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีที่ได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของ Micron Technology ทั้งนี้ ดัชนีหลักทั้ง S&P 500 และ Dow ต่างปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ขณะที่ Nasdaq Composite ร่วงหนักสุดถึง 1.8% จากแรงขายในหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์และ Oracle ที่ถูกกดดันจากรายงานข่าวว่านักลงทุนรายใหญ่ถอนตัวจากโครงการศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่

 

2. จับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พฤศจิกายนในคืนนี้ ซึ่งเป็นการรายงานเงินเฟ้อครั้งแรกหลังจากเหตุการณ์ชัตดาวน์รัฐบาลสิ้นสุดลง นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (Headline CPI) จะเร่งตัวขึ้นสู่ระดับ 3.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบปีครึ่ง เพิ่มขึ้นจาก 3.0% ในเดือนกันยายน ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) คาดว่าจะทรงตัวอยู่ที่ 3.0% ข้อมูลชุดนี้มีความสำคัญอย่างมากต่อ Fed ในการตัดสินใจนโยบายการเงินปี 2026 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ตลาดแรงงานเริ่มส่งสัญญาณอ่อนแอลง

 

3. Micron Technology (MU) กลายเป็นความหวังใหม่ของกลุ่มเทคโนโลยี AI หลังจากประกาศคาดการณ์ผลกำไร Q2 ที่สูงกว่าคาดอย่างมากหลังปิดตลาดเมื่อวานนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการชิปหน่วยความจำในศูนย์ข้อมูลที่พุ่งสูงขึ้นจากการลงทุนของกลุ่มผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ ซีอีโอ Sanjay Mehrotra ระบุว่าบริษัทจะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าหลักได้เพียงครึ่งหนึ่งถึงสองในสามเท่านั้นจนถึงปี 2026 ซึ่งสะท้อนถึงภาวะอุปสงค์ที่ล้นหลาม

 

4. คืนนี้มีการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสำคัญหลายแห่ง โดยจุดสนใจอยู่ที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 3.75% จาก 4.0% หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อของอังกฤษชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญเหลือ 3.2% ในเดือนพฤศจิกายน ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวอ่อนแอเพียง 0.1% ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากไว้ที่ระดับ 2.0% ต่อไป

 

5. ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งปิดล้อมเรือบรรทุกน้ำมันของเวเนซุเอลาที่อยู่ภายใต้การคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ทั้งหมด ซึ่งเป็นการยกระดับความกดดันต่อรัฐบาลของนิโคลัส มาดูโร และสร้างความกังวลต่อการหยุดชะงักของอุปทานน้ำมันดิบจากสมาชิกโอเปกรายนี้ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันภาพรวมในรอบสัปดาห์ยังมีแนวโน้มติดลบเกือบ 2% เนื่องจากตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาดในปีหน้า

 

6. ตลาดหุ้นไทย SET ปิดที่ 1,250.07 จุด ลดลง 6.78 จุด (-0.54%) มูลค่าการซื้อขาย 4.0 หมื่นล้านบาท ดัชนีได้รับแรงกดดันจากความกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ปะทุขึ้นอีกครั้ง ส่งผลให้นักลงทุนมีการปรับเปลี่ยนกลุ่มการลงทุน (Sector Rotation) โดยหลีกเลี่ยงหุ้นที่มีความเสี่ยงและหันเข้าหาหุ้นกลุ่ม Domestic-Dividend ที่มีความปลอดภัยมากกว่า

 

-----
ที่มา: Investing.com และ InnovestX Research
แปลและเรียบเรียง: Content Team, InnovestX

 

ดาวน์โหลดแอป InnovestX วันนี้ เพื่อเข้าถึงโอกาสการลงทุนในหุ้นสหรัฐและตลาดทั่วโลก
📱 ดาวน์โหลดแอป: https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b

 

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5