Bites for Dinner - เรื่องต้องรู้ก่อนเทรดคืนนี้ 6 ส.ค. 2568

🌙 เรื่องต้องรู้ก่อนเทรดคืนนี้ 6 สิงหาคม 2568

 

1. ฟิวเจอร์ส Dow เพิ่มขึ้น 0.5%, S&P 500 Futures เพิ่มขึ้น 0.5% และ Nasdaq 100 Futures เพิ่มขึ้น 0.3% ตลาดหลักปรับตัวลงเมื่อวานนี้ ส่วนหนึ่งได้รับแรงกดดันจาก Yum! Brands (YUM) เจ้าของ KFC ที่ระบุว่ามาตรการภาษีเริ่มส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคและผลประกอบการรายไตรมาส นอกจากนี้ Caterpillar (CAT) ผู้ผลิตอุปกรณ์ก่อสร้างยังเตือนว่าภาษีเป็นปัจจัยลบสำหรับช่วงครึ่งหลังของปี และอาจทำให้ธุรกิจเสียหายถึง 1,500 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ฤดูกาลรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ใกล้จะสิ้นสุดนี้ยังถือว่าแข็งแกร่ง โดยบริษัทกว่า 80% ที่รายงานผลมาแล้วสามารถทำกำไรได้ดีกว่าคาด สิ่งนี้ช่วยบรรเทาความกังวลบางส่วนเกี่ยวกับทิศทางของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งถูกกระตุ้นให้แย่ลงจากรายงานการจ้างงานเดือนกรกฎาคมที่อ่อนแอเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตัวเลขกิจกรรมภาคบริการก็ออกมาน่าผิดหวังเช่นกัน ขณะที่ตัวชี้วัดต้นทุนที่บริษัทต้องจ่ายพุ่งสูงสุดในรอบเกือบสามปี ทำให้เกิดความกังวลว่าสหรัฐฯ อาจเข้าสู่ช่วงการเติบโตต่ำและเงินเฟ้อสูง หรือที่เรียกว่า "Stagflation"

 

2. หุ้น Advanced Micro Devices (AMD) ร่วงลงในการซื้อขายช่วงหลังตลาดปิด หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้จากธุรกิจศูนย์ข้อมูลที่น่าผิดหวัง รายได้ของหน่วยงานนี้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของชิป AI ที่สำคัญของ AMD ซึ่งถูกมองว่าเป็นหัวใจหลักของการเติบโตในอนาคต เพิ่มขึ้น 14% เป็น 3,200 ล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 3,220 ล้านดอลลาร์ ในทางตรงกันข้าม Nvidia (NASDAQ:NVDA) ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญของ AMD รายงานรายได้จากศูนย์ข้อมูลพุ่งขึ้นถึง 73% เป็น 39,110 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณนี้ Lisa Su ซีอีโอของ AMD กล่าวกับนักลงทุนว่ารายได้จากชิป AI ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากข้อจำกัดของสหรัฐฯ ในการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ไปยังจีน และการเปลี่ยนผ่านไปยังชิปรุ่นใหม่ MI350 ผลงานของศูนย์ข้อมูลและความเห็นของ Lisa Su ได้บดบังแนวโน้มรายได้ไตรมาสที่สามที่สูงกว่าคาดซึ่งอยู่ที่ประมาณ 8,700 ล้านดอลลาร์ โดย AMD ระบุว่าตัวเลขดังกล่าวไม่รวมรายได้จากการส่งมอบชิป AI รุ่น MI308 ให้กับจีน ซึ่งกำลังรอการพิจารณาอนุญาตจากรัฐบาลสหรัฐฯ

 

3. แม้ว่าฤดูกาลรายงานผลประกอบการจะเริ่มซาลง แต่ยังมีสมาชิกสำคัญของดัชนี Dow Jones บางรายที่ยังต้องรายงาน ในวันนี้ จะมีการเปิดเผยตัวเลขจาก McDonald’s และ Walt Disney นักลงทุนจะจับตาดูผลประกอบการไตรมาสที่สองของ McDonald’s (NYSE:MCD) อย่างใกล้ชิด ว่ายักษ์ใหญ่ฟาสต์ฟู้ดรายนี้จะสามารถรักษาโมเมนตัมไว้ได้หรือไม่ ท่ามกลางเทรนด์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปและการแข่งขันที่ดุเดือด ส่วนที่ Disney ตลาดจะจับตาดูการอัปเดตเกี่ยวกับบริการสตรีมมิ่ง สตูดิโอภาพยนตร์ และสวนสนุกต่างๆ นอกจากนี้ ผู้บริหารอาจต้องตอบคำถามเกี่ยวกับบริการสตรีมมิ่ง ESPN ที่กำลังจะเปิดตัวในฤดูใบไม้ร่วงนี้ นอกจากนี้ ลีกฟุตบอลอเมริกัน NFL ได้บรรลุข้อตกลงในการเข้าถือหุ้น 10% ใน ESPN เพื่อแลกกับการที่ ESPN จะเข้าควบคุม NFL Network และสินทรัพย์สื่ออื่นๆ จากลีก

 

4. สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า OpenAI กำลังเจรจาเบื้องต้นเพื่อขายหุ้นรอบสอง ซึ่งอาจทำให้มูลค่าของสตาร์ทอัพ AI แห่งนี้พุ่งสูงถึง 5 แสนล้านดอลลาร์ มูลค่า 5 แสนล้านดอลลาร์นี้ถือเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากรายงานก่อนหน้านี้ที่ประเมินมูลค่า OpenAI ไว้ที่ 3 แสนล้านดอลลาร์ รายงานระบุว่า OpenAI จะพิจารณาการขายหุ้นรอบสองสำหรับพนักงานปัจจุบันและอดีตพนักงาน รายงานดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่บริษัท AI รายใหญ่แห่งนี้ระบุว่าจะมีผู้ใช้งาน ChatGPT หลัก 700 ล้านคนต่อสัปดาห์ในสัปดาห์นี้ เพิ่มขึ้นจากประมาณ 500 ล้านคนในเดือนมีนาคม เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บริษัทได้ระดมทุนใหม่ 8,300 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนรายใหญ่หลายราย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการระดมทุนรอบ 40,000 ล้านดอลลาร์ที่นำโดย SoftBank

 

5. Novo Nordisk ผู้ผลิตยา Wegovy ได้ประกาศจะผลักดันการลดต้นทุน เนื่องจากบริษัทต้องเผชิญกับการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นและแรงกดดันจากยาเลียนแบบ บริษัทสัญชาติเดนมาร์กแห่งนี้ซึ่งเคยเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในยุโรป กำลังต่อสู้เพื่อรักษาตำแหน่งที่เคยครองในตลาดขายยาโรคอ้วนและเบาหวาน วันนี้ Novo ยังคงยืนยันแนวโน้มสำหรับทั้งปี หลังจากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ได้ปรับลดแนวโน้มยอดขายปี 2025 ลง, ออกคำเตือนด้านผลกำไร และประกาศปรับเปลี่ยนผู้บริหารเพื่อกระตุ้นความต้องการและรับมือกับความท้าทายจากคู่แข่งอย่าง Eli Lilly (LLY) และผู้ผลิตยาแบบผสม ในไตรมาสที่สอง ยอดขาย Wegovy เติบโตขึ้น 67% จากปีก่อนหน้าเป็น 19,530 ล้านโครนเดนมาร์ก ขณะที่รายได้ทั่วทั้งกลุ่มเพิ่มขึ้น 18% เป็น 76,860 ล้านโครนเดนมาร์ก แต่พลาดเป้าที่ประมาณการไว้ หุ้นของ Novo ที่จดทะเบียนในโคเปนเฮเกนเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ในช่วงเช้า แต่มูลค่าของหุ้นได้ลดลงกว่า 52% แล้วในปีนี้

 

6. SET Index ปิดที่ 1264.47 จุด (+17.51จุด / +1.40%) ในวันที่ 6 ส.ค. 2568 ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.5 หมื่นล้านบาท ดัชนี SET ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากกระแสเงินทุน (Fund Flow) ที่ไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง และการเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568 ที่คาดว่าจะดีกว่าคาด มูลค่าการซื้อขายก็โดดเด่น แรงซื้อมาจากกลุ่มขนส่ง ประกัน ปิโตรเคมี ไฟแนนซ์ และค้าปลีก โดยไม่มีกลุ่มใดที่เผชิญกับแรงขายอย่างมีนัยสำคัญ

 

-----
ที่มา: Investing.com และ InnovestX Research
แปลและเรียบเรียง: Content Team, InnovestX

 

ดาวน์โหลดแอป InnovestX วันนี้ เพื่อเข้าถึงโอกาสการลงทุนในหุ้นสหรัฐและตลาดทั่วโลก
📱 ดาวน์โหลดแอป: https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b