Bites for Dinner

Bites for Dinner - เรื่องต้องรู้ก่อนเทรดคืนนี้ 13 พ.ย. 2568

13 Nov 25 5:33 PM
เรื่องต้องรู้ก่อนเทรดคืนนี้
สรุปสาระสำคัญ

1.ฟิวเจอร์สสหรัฐฯ พุ่ง รับข่าวยุติภาวะ Shutdown อย่างไรก็ตาม เมื่อคืนนี้ NASDAQ ร่วง สวน Dow Jones พุ่ง ตลาดเก็ง rotation
2.ทรัมป์เซ็นร่างกฏหมายผ่านงบฯ ยุติภาวะชัตดาวน์ยาวนานสุดในประวัติศาสตร์ 43 วัน
3.Cisco เพิ่มเป้าปี รับกระแส AI และดีมานด์ Data Center คาดรายได้ AI แตะ $3 พันล้าน
4.OpenAI รายงานต้นทุนและ Cash Burn อาจมากกว่าคาด ส่งผลกระทบต่อ Sentiment หุ้น AI
5.ทองทะลุ $4,200 ราคาเดินหน้าต่อ จากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจยังคงอยู่
6.SET ปิดบวก ตลาดรอตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ และเก็งกำไรหุ้นรายตัวต่อเนื่อง

🌙 เรื่องต้องรู้ก่อนเทรดคืนนี้ 13 พฤศจิกายน 2568

 

1. ฟิวเจอร์ส Dow เพิ่มขึ้น 0.2% S&P 500 Futures เพิ่มขึ้น 0.1% และ Nasdaq 100 Futures เพิ่มขึ้น 0.2% การปรับขึ้นนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ตลาดหลักวอลล์สตรีทปิดแบบผสมผสานเมื่อวานนี้ โดยดัชนี Dow Jones และ S&P 500 สามารถทำสถิติปิดสูงสุดใหม่ได้ แต่ Nasdaq Composite กลับปรับตัวลง ซึ่งสะท้อนถึงการเคลื่อนย้ายเงินทุนออกจากหุ้นเทคโนโลยีที่มีราคาสูงเกินไป การยุติภาวะ Shutdown นำมาซึ่งความหวังว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญจะกลับมาเปิดเผยได้ในไม่ช้า ซึ่งจะช่วยลดความไม่แน่นอนในตลาดได้ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยลบคือรายงานข่าวที่ชี้ว่าต้นทุนและอัตราการใช้เงินสด (Cash Burn) ของ OpenAI ผู้สร้าง ChatGPT อาจจะสูงกว่าที่คาดไว้ ซึ่งเพิ่มความกังวลต่อมูลค่าของหุ้นเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วย AI

 

2. Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ลงนามในร่างกฎหมายเพื่อจัดสรรงบประมาณและยุติภาวะ Government Shutdown ที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ที่กินเวลานานถึง 43 วัน ร่างกฎหมายนี้ได้รับการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรที่ควบคุมโดยพรรครีพับลิกันเมื่อปลายวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้รัฐบาลมีเงินทุนสนับสนุนไปจนถึงวันที่ 30 มกราคม 2569 การลงนามนี้เป็นการรับประกันว่าพนักงานรัฐบาลกลางที่ถูกพักงานจะได้รับค่าจ้างคืน แต่ประเด็นความขัดแย้งหลักเกี่ยวกับเงินอุดหนุน Affordable Care Act (ACA) สำหรับชาวอเมริกันหลายล้านคนยังคงไม่ได้รับการแก้ไข สำหรับตลาดการเงิน การสิ้นสุดของ Shutdown ครั้งนี้เป็นสัญญาณบวกที่สำคัญ เนื่องจากคาดว่าการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น ตัวเลขการจ้างงาน จะกลับมาในต้นสัปดาห์หน้า ซึ่งจะช่วยให้ Fed มีข้อมูลเพียงพอสำหรับการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม

 

3. หุ้น Cisco Systems ผู้ให้บริการอุปกรณ์เครือข่ายของสหรัฐฯ ปรับขึ้นกว่า 7% ในการซื้อขายช่วงหลังตลาดปิดทำการ หลังจากบริษัทได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ทางการเงินสำหรับทั้งปีงบประมาณ 2569 โดยอ้างถึงการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของความต้องการอุปกรณ์ที่จำเป็นในการสนับสนุนการขยายศูนย์ข้อมูลครั้งใหญ่ที่เกิดจากกระแส AI Cisco คาดว่ารายได้ทั้งปีจะอยู่ที่ระหว่าง 60,200 - 61,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสูงกว่าประมาณการเดิม และกำไรต่อหุ้นที่ปรับปรุงแล้วคาดว่าจะอยู่ที่ 4.08 - 4.14 ดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ Cisco ยังตั้งเป้าหมายที่จะทำรายได้จากโครงสร้างพื้นฐาน AI ให้ได้ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีปัจจุบัน ซึ่งตอกย้ำว่าบริษัทได้รับอานิสงส์อย่างมากจากการที่บริษัทต่างๆ เร่งอัปเกรดศูนย์ข้อมูลและหันไปใช้ Cloud Computing เพื่อรองรับ AI

 

4. ข้อมูลเศรษฐกิจจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของสหราชอาณาจักรที่เปิดเผยในวันนี้ แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหราชอาณาจักรมีการเติบโตเพียงเล็กน้อยที่ 0.1% ในไตรมาสที่ 3 (กรกฎาคม-กันยายน) ซึ่งชะลอตัวลงจาก 0.3% ในไตรมาสก่อนหน้า ที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือในเดือนกันยายนเศรษฐกิจสหราชอาณาจักร หดตัวลง 0.1% ซึ่งบ่งชี้ถึงความยากลำบากที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนที่รัฐบาลจะประกาศมาตรการด้านภาษีใหม่ๆ (Tax-raising budget) ในปลายเดือนนี้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบเพิ่มเติมต่อการเติบโตของประเทศ

 

5. ราคาทองคำปรับขึ้นเหนือระดับ $4,200 ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนต่อเนื่องหลังจากที่สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ ลงคะแนนเสียงเพื่อยุติภาวะ Government Shutdown ที่ยาวนานที่สุดเป็นประวัติการณ์ แม้ว่าภาวะ Shutdown จะจบลงแล้ว แต่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสุขภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงมีอยู่ ซึ่งทำให้นักลงทุนยังคงถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) ราคาทองคำได้รับแรงหนุนอย่างต่อเนื่องจากการคาดการณ์ว่า Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม และการเข้าซื้ออย่างสม่ำเสมอของธนาคารกลาง โดยเฉพาะธนาคารกลางจีนที่ซื้อทองคำต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12

 

6. SET Index ปิดวันนี้ที่ 1,287.44 จุด บวก 2.63 จุด (+0.20%) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 34,627.43 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนบวกในกรอบแคบๆ ซึ่งเป็นภาพของการรอดูปัจจัยสำคัญจากต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักลงทุนกำลังติดตามตัวเลขเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ประจำเดือนตุลาคมที่จะประกาศในคืนนี้ (ตามที่ Consensus คาดการณ์ว่า Core CPI จะอยู่ที่ +0.2% MoM และ +3.0% YoY) ข้อมูลนี้จะสะท้อนแรงกดดันเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่แต่เริ่มชะลอตัว ซึ่งจะใช้ในการประเมินทิศทางของ Fed ในการประชุมครั้งถัดไป นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยยังมีการเก็งกำไรในหุ้นรายตัวตามข่าวผลประกอบการไตรมาส 3/2568 ที่ทยอยออกมา 

 

-----
ที่มา: Investing.com และ InnovestX Research
แปลและเรียบเรียง: Content Team, InnovestX

 

ดาวน์โหลดแอป InnovestX วันนี้ เพื่อเข้าถึงโอกาสการลงทุนในหุ้นสหรัฐและตลาดทั่วโลก
📱 ดาวน์โหลดแอป: https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b

 

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5