Bites for Dinner

Bites for Dinner - เรื่องต้องรู้ก่อนเทรดคืนนี้ 14 พ.ย. 2568

14 Nov 25 5:45 PM
เรื่องต้องรู้ก่อนเทรดคืนนี้
สรุปสาระสำคัญ

1.ฟิวเจอร์สสหรัฐฯ ดิ่งต่อ ตลาดเทขายหนักสุดรอบเดือน หวั่น Tech Bubble
2.AMAT เตือนรายได้จีนลด จากข้อจำกัดส่งออกชิปของสหรัฐฯ
3.ตัวเลขว่างงานสหรัฐฯ แม้ลดลงเล็กน้อย แต่ยังไม่แรงพอหนุน Fed ลดดอกเบี้ย
4.Bitcoin หลุด $100,000 ร่วงตามแรงขายหุ้นเทคฯ
5.ผลผลิตโรงงานจีนต่ำคาด เศรษฐกิจโลกชะลอตัวและดีมานด์ในประเทศอ่อนแอลง
6.SET ร่วงหนักตามทิศทางโลก นักลงทุนเทขายหลังงบ Q3/68 ออกมามากแล้ว

🌙 เรื่องต้องรู้ก่อนเปิดตลาดสหรัฐ คืนนี้ 14 พฤศจิกายน 2568

 

1. ฟิวเจอร์ส Dow ลดลง 0.2% S&P 500 Futures ลดลง 0.3% และ Nasdaq 100 Futures ลดลง 0.4% ซึ่งสะท้อนถึงการลดลงของตลาดหลักวอลล์สตรีทเมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นการปรับลงที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอย่างหนัก ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความยั่งยืนของมูลค่าหุ้นที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมากจากกระแสปัญญาประดิษฐ์ (AI) หุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI เช่น Nvidia และ Broadcom ต่างปรับตัวลง โดยเฉพาะหุ้น Oracle ที่ลดลงกว่าหนึ่งในสามของมูลค่าตั้งแต่ช่วงทำสถิติสูงสุดเมื่อเดือนกันยายน นักวิเคราะห์ชี้ว่าตลาดกำลังเผชิญกับการเทขายทำกำไรครั้งใหญ่ เนื่องจากนักลงทุนเริ่มหมดความเชื่อมั่นในโอกาสที่ตลาดจะปรับขึ้นในช่วงสิ้นปี

 

2. หุ้น Applied Materials (AMAT) ผู้ผลิตอุปกรณ์ผลิตชิปชั้นนำ ร่วงลงในการซื้อขายช่วงหลังตลาดปิดทำการ หลังจากบริษัทเตือนว่าการใช้จ่ายในอุปกรณ์ผลิตชิปในประเทศจีนคาดว่าจะลดลงในปีหน้า เนื่องจากการควบคุมการส่งออกที่เข้มงวดขึ้นของสหรัฐฯ Applied Materials ระบุว่ารายได้ในปีงบประมาณ 2569 ของบริษัทอาจได้รับผลกระทบถึง 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากข้อจำกัดที่ขยายวงกว้างขึ้น นอกจากนี้ บริษัทระบุว่าสินค้ามูลค่า 110 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไม่สามารถจัดส่งได้ในไตรมาสที่ 4 ของปีงบประมาณ เนื่องจากข้อจำกัดดังกล่าว แม้ว่าข้อจำกัดนี้จะถูกระงับชั่วคราวหลังการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดี Donald Trump และ Xi Jinping แต่ Applied Materials ยังคงเชื่อว่าการใช้จ่ายของภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ AI น่าจะช่วยหนุนยอดขายในครึ่งหลังของปีหน้าได้

 

3. รายงานข่าวอ้างอิงข้อมูลระดับรัฐชี้ว่าจำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ ลดลงเล็กน้อยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยตัวเลขที่ปรับตามฤดูกาลอยู่ที่ประมาณ 227,543 ราย ซึ่งใกล้เคียงกับการคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญ อย่างไรก็ตาม การลดลงนี้ยังไม่ถือว่ามากพอที่จะเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนให้ Fed ลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคม การขาดข้อมูลเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการจากภาวะ Government Shutdown ทำให้การตัดสินใจของ Fed มีความไม่แน่นอนสูง โดยตลาดคาดการณ์ว่าโอกาสในการลดดอกเบี้ยครั้งต่อไปอยู่ที่ประมาณ 50-50

 

4. ราคา Bitcoin ร่วงลงต่ำกว่าระดับสำคัญที่ $100,000 ในวันนี้ ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงการปรับตัวลงในตลาดสินทรัพย์เสี่ยง (Risk-driven Markets) เนื่องจากความไม่แน่นอนในเรื่องทิศทางอัตราดอกเบี้ยของ Fed และการเทขายหุ้นเทคโนโลยีอย่างหนัก Bitcoin มีแนวโน้มที่จะลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่สาม โดยกระแสเงินทุนจากกองทุนขนาดใหญ่ กองทุน ETF และเงินสำรองของบริษัทต่างๆ เริ่มส่งสัญญาณของการหยุดชะงัก มูลค่าตลาดของ Bitcoin ได้ลดลงกว่า 4.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นับตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม

 

5. ข้อมูลจากรัฐบาลจีนในวันนี้แสดงให้เห็นว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเพียง 4.9% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนตุลาคม ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 5.5% อย่างมาก นอกจากนี้ การบริโภคภายในประเทศก็ยังคงซบเซา โดยยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นเพียง 2.9% ซึ่งเป็นการขยายตัวที่อ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว แม้จะมีการสนับสนุนจากช่วงวันหยุด Golden Week ข้อมูลเหล่านี้แสดงถึงแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นต่อรัฐบาลปักกิ่งในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อรับมือกับภาวะเงินฝืดและอุปสงค์ภายในประเทศที่ยังคงอ่อนแอ

 

6. SET Index ปิดวันนี้ที่ 1,274.61 จุด ลดลง 16.85 จุด (-1.30%) ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศทั้งในเอเชียและยุโรป โดยมีแรงกดดันหลักมาจากความกังวลว่าโอกาสในการลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed ในเดือนธันวาคมอาจลดลง เนื่องจากความไม่แน่นอนในการกลับมารายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างสมบูรณ์ แม้จะยุติภาวะ Shutdown ไปแล้ว ตลาดหุ้นไทยจึงเผชิญกับการเทขายทำกำไรหลังจากที่บริษัทจดทะเบียนหลายแห่งทยอยรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2568 ออกมา

 

ที่มา: Investing และ InnovestX Research
แปลและเรียบเรียง: InnovestX Content Team 

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5