
1.ฟิวเจอร์สสหรัฐฯ เขียว ตลาดเมิน Tech Sell-Off หลัง Trump ลดภาษีอาหาร คาด Fed ลดดอกเบี้ย
2.ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ กลับมาแล้ว รอตัวเลขจ้างงานสำคัญ หลังภาวะ Shutdown ยุติ
3.ตลาดจับตา Nvidia รายงานงบสัปดาห์นี้ หาทิศทางตลาดโลก
4.GDP ญี่ปุ่น Q3/68 ลดลง 1.8% จากผลกระทบภาษีต่อภาคยานยนต์
5.ทองคำ-น้ำมัน ปรับลง ตลาดคลายกังวลอุปทานรัสเซีย และลดความคาดหวังการลดดอกเบี้ย
6.SET ฟื้นตัว หุ้นพลังงานและกลุ่ม Domestic Plays หนุนดัชนีขึ้น
1. ฟิวเจอร์ส Dow เพิ่มขึ้น 0.2% S&P 500 Futures เพิ่มขึ้น 0.6% และ Nasdaq 100 Futures เพิ่มขึ้น 0.9% ตลาดได้รับแรงหนุนจากสัญญาณที่ว่า Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อาจผ่อนคลายท่าทีต่อมาตรการภาษี โดยทำเนียบขาวประกาศลดภาษีสินค้าอาหารบางประเภท ซึ่งทรัมป์ยอมรับว่าราคาอาหาร เช่น เนื้อวัว ผลไม้ และกาแฟ "ค่อนข้างสูง" นอกจากนี้ สหรัฐฯ และ สวิตเซอร์แลนด์ ได้บรรลุข้อตกลงลดภาษีนำเข้าเหลือ 15% แลกกับการลงทุน 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในสหรัฐฯ ภายในปี 2571
2. ความสนใจของตลาดกลับมาสู่ปฏิทินเศรษฐกิจ หลังจากภาวะ Government Shutdown ที่ยาวนานที่สุดเป็นประวัติการณ์สิ้นสุดลง ซึ่งเปิดทางให้มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รายงานการจ้างงานเดือนกันยายน ที่จะออกมาในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่ Fed ใช้ในการประเมินตลาดแรงงาน การขาดข้อมูลในช่วงที่ผ่านมาทำให้ Fed ต้อง "บินแบบไร้ทิศทาง" (Flying Blind) และนำไปสู่การคาดการณ์ว่า Fed อาจจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในการประชุมเดือนธันวาคม
3. Nvidia ยักษ์ใหญ่ด้านเซมิคอนดักเตอร์และเป็นสัญลักษณ์ของกระแส AI เตรียมรายงานผลประกอบการรายไตรมาสในคืนวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งอาจมีความสำคัญมากกว่ารายงานตลาดแรงงานเสียอีก เนื่องจากราคาหุ้น Nvidia ได้พุ่งขึ้นกว่า 1,000% นับตั้งแต่ปี 2565 ทำให้บริษัทมีมูลค่าตลาดสูงเกิน 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งผลประกอบการนี้จะเป็นตัวชี้วัดสำคัญของความเชื่อมั่นในกระแส AI โดยรวม นอกจาก Nvidia แล้ว ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ เช่น Home Depot, Target และ Walmart ก็มีกำหนดรายงานผลในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มการจับจ่ายในช่วงวันหยุด
4. ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของญี่ปุ่นในไตรมาส 3 ปี 2568 หดตัวลง 1.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 6 ไตรมาส แม้จะน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ การหดตัวนี้เป็นผลมาจากอุปสงค์ในการส่งออกที่ลดลงอย่างรุนแรง โดยเฉพาะจาก อุตสาหกรรมยานยนต์ ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีสหรัฐฯ แม้ว่าญี่ปุ่นจะบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐฯ แล้ว แต่บริษัทญี่ปุ่นยังคงเผชิญกับภาษีที่สูงอยู่ ความหวังของเศรษฐกิจญี่ปุ่นจึงมุ่งไปที่แผนการกระตุ้นทางการคลังและการใช้จ่ายของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ Sanae Takaichi
5. ราคาทองคำปรับตัวลงต่อเนื่องจากวันก่อนหน้า เนื่องจากนักลงทุนลดความคาดหวังว่า Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้าลง ราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ส่วนราคาน้ำมันปรับตัวลงหลังจากท่าเรือ Novorossiysk ของรัสเซียกลับมาบรรทุกน้ำมันดิบอีกครั้ง ซึ่งช่วยบรรเทาความกังวลเรื่องอุปทานที่หยุดชะงักหลังยูเครนโจมตีเมื่อวันศุกร์
6. SET Index ปิดวันนี้ที่ 1,280.07 จุด เพิ่มขึ้น 10.81 จุด (+0.85%) มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 33,899.70 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวตามบรรยากาศการลงทุนในภูมิภาค โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้น กลุ่มพลังงาน ที่ดีดตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ และแรงซื้อใน กลุ่ม Domestic Plays เนื่องจากนักลงทุนมองว่า GDP ของไทยในไตรมาส 3/2568 น่าจะเป็นจุดต่ำสุดแล้วและมีโอกาสฟื้นตัวในไตรมาส 4/2568 อย่างไรก็ตาม ปริมาณการซื้อขายยังเบาบาง และนักลงทุนยังคงรอดูความชัดเจนทั้งสถานการณ์ข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาล
ที่มา: Investing และ InnovestX Research
แปลและเรียบเรียง: InnovestX Content Team
ดาวน์โหลดแอป InnovestX วันนี้ เพื่อเข้าถึงโอกาสการลงทุนในหุ้นสหรัฐและตลาดทั่วโลก
📱 ดาวน์โหลดแอป: https://innovestx.onelink.me/23if/appfbcontent