ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ปิดแบบผสมผสาน โดยมีปัจจัยบวกจากความหวังในการยุติการปิดทำการของรัฐบาล (government shutdown) ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีถูกฉุดรั้งลงมาโดย Nvidia หลัง SoftBank Group ได้ขายหุ้น Nvidia ทั้งหมดที่ถือครองอยู่ และ Coreweave ปรับลดคาดการณ์รายได้ทั้งปีลง
Nebius เผยงบ 3Q25 รายได้ต่ำคาดเล็กน้อยจากกำลังการผลิตแตะจุดสูงสุด นอกจากนี้ META ลงนามสัญญามูลค่า $3 พันล้านกับบริษัท และบริษัทปรับเพิ่มรายได้ปี 2026 สูงกว่าตลาดคาด 30% ภาพข้างต้นสะท้อน การเติบโตดีของกลุ่ม Hyper Scaler เราชอบ GOOGL AMZN รวมไปถึงต้นน้ำ TSM NVDA
V และ MA เสนอข้อไกลเกลี่ยกับกลุ่มค้าปลีกในสหรัฐฯ 1) ลดค่าธรรมเนียมลง 0.1% เป็นเวลา 5 ปี 2) เพดานค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 1.25% 3) ผ่อนคลายกฎ Honor All Cards เรามอง V MA อาจขึ้นค่าธรรมเนียมส่วนอื่น ในขณะที่ความเสี่ยงด้านกฎหมายลดลง ช่วยให้ Valuations ดีขึ้น เราชอบทั้ง V MA
Sea Limited (SE) เผยงบรายได้โตดีทุกธุรกิจ แต่กำไรมีแรงกดดันจากการแข่งขันในตลาดอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรก็ดีบริษัทสามารถได้ market share เพิ่มขึ้น และจะเน้นคุณภาพบริการเพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง โดยรวม เรายังมอง SE มีการเติบโตสูง แนะนำเข้าสะสม
JD.com รายงานยอดคำสั่งซื้อ Singles’ Day 2025 +60% YoY และผู้ซื้อเพิ่ม 40% สะท้อนการฟื้นตัวของการบริโภคจีน มองภาพรวมนี้อาจ sentiment กลุ่ม E-commerce JD, Alibaba, Xiaomi แม้ควรจับตาผลขาดทุน Food Delivery ที่อาจกดดันหุ้นบางตัว ขณะที่ Tencent เสี่ยงต่ำสุดจากแรงหนุน AI
Grab และ GoTo กำลังเจรจาควบรวม เรามองมูลค่าหากต่ำกว่า US$6bn จะไม่เกิดผลกระทบเชิงลบมากนัก เป้าหมายคือการผูกขาดตลาดอินโดนีเซีย และเพิ่มผลกำไรในภูมิภาค ASEAN เรามองว่า Grab และ GoTo จะกลายเป็นผู้นำตลาดที่ชัดเจน มีโอกาสในการทำกำไรได้สูงขึ้น รวมไปถึงธุรกิจ Robotaxi
ยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) จีนเดือนต.ค. โตเพียง +7.3% YoY ชะลอลงจากผลจบมาตรการอุดหนุน โดยเรายังคงมุมมองเดิมแนะกลุ่ม EV แถว 2 อย่าง Geely, Zeeker, Xpeng ส่วน Xiaomi ยังได้แรงหนุนจาก SU7 และฐานลูกค้าเทคโนโลยี
