ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดทั่วโลกปรับเพิ่มขึ้น 0.6% โดยตลาดได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคม (โอกาสปรับขึ้นกว่า 90%) หลังจากข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชน (ADP) ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์อย่างมาก ซึ่งตอกย้ำมุมมองเศรษฐกิจชะลอตัว ประกอบกับข่าวที่โดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณเสนอชื่อ Kevin Hassett เป็นตัวเต็งประธาน FED คนใหม่ และความเชื่อมั่นในสินทรัพย์เสี่ยงที่ฟื้นตัวสะท้อนผ่าน Bitcoin ที่เริ่มฟื้นตัว
ภาพรวม – ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดยังคงให้น้ำหนักกับปัจจัยมหภาคเป็นหลัก โดยตลาดมีความคาดหวังเชิงบวกว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคม (โอกาสปรับขึ้นเป็นราว 90%) หลังจากข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชน (ADP) ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์อย่างมาก ซึ่งตอกย้ำมุมมองเศรษฐกิจชะลอตัว นอกจากนี้มีข่าวที่ Kevin Hassett ก้าวขึ้นเป็นตัวเต็งประธาน FED คนใหม่ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีมุมมองต่อนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย (Dovish) มากกว่าผู้นำ Fed คนปัจจุบันอย่าง Jerome Powell ประกอบกับความเชื่อมั่นในสินทรัพย์เสี่ยงเริ่มฟื้นตัวสะท้อนผ่าน Bitcoin ที่เริ่มฟื้นตัว
กลยุทธ์ – สัปดาห์นี้ (8– 12 ธ.ค.) เราแนะติดตาม 1) การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ที่เราแนะติดตามผลการประชุมและ Dot Plot 2) ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ เช่น PPI ตัวเลขตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน (ADP) และ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ 3) ข้อมูลเศรษฐกิจจีน เช่น CPI PPI รวมถึงตัวเลขนำเข้าและส่งออก 4) ผลประกอบการที่จะประกาศได้แก่ Adobe, Broadcom, Costco, Oracle, Synopsys
เราประเมินว่าตลาดในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มผันผวน โดยตลาดจะให้น้ำหนักกับปัจจัยมหภาคมากกว่าจุลภาคและให้ความสำคัญกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของ Fed โดยเฉพาะซึ่งงเราเชื่อว่า มีแนวโน้มที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ในการประชุมสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ แม้ว่าผลประกอบการของ กลุ่มเทคโนโลยี โดยรวมจะมีแนวโน้มเติบโตได้ดี แต่ด้วยระดับความคาดหวังของตลาดที่สูงมาก อาจส่งผลให้เกิดความผันผวนในราคาหุ้นกลุ่มนี้ได้
ด้วยภาพนี้แนวโน้มตลาดที่มีทิศทางผันผวน ทำให้เราแนะนำอยู่ในหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตดีและเก็งกำไรกลุ่มหุ้นที่คาดผลประกอบการออกมาดีและแนวโน้มเติบโต อย่าง ORCL AVGO SNPS และ DR อย่าง COSTCO19 XIAOMI23
