Strategy
PDF Available  
Global Morning Routine

Global Morning Routine - 19 ก.ย. 2567

By สิทธิชัย ดวงรัตนฉายา|19 Sep 24 11:31 AM
บทสรุป
  • ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงเล็กน้อยหลัง Fed มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ซึ่งเหมือนจะมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์แต่ก็มีการเตรียมการมาแล้วระดับหนึ่งทำให้ตลาดมีการตกใจในระยะสั้น ขณะที่สินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวเพิ่มขึ้นระดับหนึ่งแต่ก็มีการย่อตัวมาในช่วงท้ายของตลาด แต่ก็ถือว่าความผันผวนไม่สูงมากและไม่ได้มองว่าการลดดอกเบี้ย 50bps จะทำให้ตลาดมี Downside มาก
  • กระแสเงินในวันที่ 17 ก.ย. 2024 1) กระแสเงินในตราสารหนี้ผันผวนเห็นแรงขายในพันธบัตรรัฐบาลก่อนหน้าที่ธนาคารกลางจะปรับลดดอกเบี้ย 2) มีแรงซื้อในกลุ่ม Value และหุ้นขนาดเล็กจากความคาดหวังในการลดดอกเบี้ยและการเปลี่ยนกลุ่มเล่นของตลาด 3) กระแสเงินในกลุ่มเทคโนโลยีเริ่มผันผวนหลังตลาดเปลี่ยนกลุ่มเล่น 4) มีแรงซื้อกลับในตลาดญี่ปุ่นหลังตลาดมองว่า BOJ จะไม่ขึ้นดอกเบี้ยในระยะสั้น 5) มีแรงขายในกลุ่มเชิงรับหลังราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นมาในระดับหนึ่งและเผชิญกับการเปลี่ยนกลุ่มเล่น 6) กระแสเงินในตลาดหุ้นจีนผันผวนล่าสุดมีแรงซื้อ
  • ธนาคารกลางสหรัฐมีมติปรับลดดอกเบี้ย 50bps นั้นเป็นการลดทอนผลกระทบจากเศรษฐกิจ ซึ่งมีความสำคัญมากกว่าปริมาณและจำนวนในการลดดอกเบี้ย ทำให้ในภาพรวมมองว่าการส่งสัญญาณการลดดอกเบี้ย 50bps ยังทำให้สินทรัพย์เสี่ยงสามารถลงทุนได้ เช่น หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จาก Sentiment การลดดอกเบี้ย HD, LOW, FSLR, ENPH และกลุ่มเทคฯที่แนวโน้มดี MSFT, AMD, CRM, PANW, NVDA
  • Salesforce เปิดตัว Agentforce ซึ่งเป็น AI ที่สามารถตอบคำถามและแก้ปัญหาของลูกค้าได้ โดยเปิดให้ใช้ในต.ค.นี้ ซึ่งเรามองว่าบริษัทมีความจำเป็นต้องออกสินค้าใหม่เพื่อให้แข่งขัน Peers ได้ รวมถึงคาดเยียวยา IT Spending ที่ชะลอตัวลงได้ ขณะที่ในระยะถัดไปมองลงทุน CRM ได้หลังมองการลดดอกเบี้ยของ Fed จะส่งผลบวกต่อการใช้จ่าย IT Spending ให้ฟื้นตัวดีขึ้นได้หนุนการเติบโตงบต่อจาก AI
  • การส่งออกจากญี่ปุ่นในเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 5.6% YoY โดยยังคงเห็นการเติบโตของอกลุ่มเซมิฯ สะท้อนถึงความต้องการในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ AI ยังคงดีอยู่ แต่ยอดส่งออก Transport Equipment โดยได้รับการกดดันจากการส่งออกรถยนต์ ผู้ที่ได้ประโยชน์มากที่สุดจากภาพความต้องการยังมีสูง Tokyo Electron ส่วนผู้ที่ได้ประโยชน์ทางอ้อมคือ Screen Holding, Advantest
  • YouTube ร่วมมือครั้งสำคัญกับ Shopee ธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ของ Sea Ltd. ในประเทศอินโดนีเซีย จะเพิ่มฟีเจอร์ช้อปปิ้งในแพลตฟอร์มของตน โดยผู้สร้างคอนเทนต์สามารถโปรโมทและแท็กสินค้าในวิดีโอได้ โดยผู้ชมสามารถคลิกลิงก์เพื่อทำการซื้อสินค้าบน Shopee ได้โดยตรง เรามองว่าความร่วมมือนี้อาจเป็นประโยชน์กับทาง GOOGL มากกว่า SEA
  • การใช้จ่ายเดินทางช่วงวันที่ 15-17 ที่ผ่านมาตัวเลขการใช้จ่ายต่างๆช่วงวันหยุดจีนที่ผ่านมาที่ยังคงไม่ดีนัก แม้แต่การท่องเที่ยวภายในประเทศเองยังมีสัญญาณของการชะลอตัวลงค่อนข้างชัดเจน ทำให้เราเห็นภาพมากขึ้นว่าหุ้นจีนในช่วงเวลานี้ยังเล่นยาก แนะลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว มีปัจจัยพื้นฐานที่ดีอย่าง Trip.com, Tencent, Xioami
  • FDA ได้อนุมัติการใช้ยา Fasenra ของ AstraZeneca สำหรับการรักษาโรค EGPA ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยบวกต่อ AstraZeneca ทั้งในแง่ของรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการขยายตลาดและความสามารถในการแข่งขัน อย่างไรก็ดี เราชอบ Novo Nordisk และ Eli Lilly มากกว่า เนื่องจากมีอัตราการเติบโตและแนวโน้มที่ดีกว่าในระยะกลางถึงยาว
  • ภาพตลาดในสัปดาห์นี้คาดยังคงผันผวนจากทิศทางการปรับลดดอกเบี้ยของ Fed รวมถึงธนาคารกลางใหญ่หลายแห่ง ทำให้เรายังแนะนำหุ้นที่มีความผันผวนต่ำอย่าง Walmart (TP: $80.3) และมองอีกทางหนึ่งหากใครรับความเสี่ยงได้มาก เรามองว่ามูลค่าหุ้นกลุ่มเทคฯตอนนี้น่าสนใจและแนวโน้มอุปสงค์ AI ยังคงโตดี แนะมอง MSFT (TP:$499.0)
Author
Slide4
สิทธิชัย ดวงรัตนฉายา

นักกลยุทธ์อาวุโสตลาดหุ้นไทยและต่างประเทศ

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5