- ตลาดหุ้นทั่วโลกฟื้นตัวดีหลังกลุ่มเทคฯและเซมิฯปรับตัวขึ้นนำตลาดอานิสงส์จากงบในกลุ่มที่โตดี ขณะที่ Fed มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมในเดือนนี้แต่เริ่มส่งสัญญาณการปรับลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย.
- กระแสเงินในวันที่ 30 ก.ค. 2024 1) กระแสเงินในตราสารหนี้ผันผวน 2) มีแรงซื้อในตลาดหุ้น EM จากแรงเก็งกำไรบนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนและการฟื้นตัวของแนวโน้มกำไร 3) มีแรงซื้อในธีม Value มองว่าเป็นผลจากการเปลี่ยนกลุ่มเล่นจากธีม Growth ส่วนกระแสเงินในกลุ่มเทคโนโลยีค่อนข้างผันผวน 4) มีเงินไหลเข้ากลุ่มพลังงานเก็งกำไรบนเรื่องความขัดแย้งเชิงภูมิรัฐศาสตร์ 5) กระแสเงินในตลาดหุ้นจีนค่อนข้างผันผวน 6) มีแรงขายในกลุ่ม Consumer Discretionary จากความกังวลด้านกำลังซื้อ รวมไปถึงกลุ่ม Consumer Staples จากกำลังซื้อที่ลดลง 7) กลุ่มที่อิงกับเศรษฐกิจอย่างสินค้าอุตสาหกรรมและ Materials มีแรงขายจากความกังวลเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง
- FOMC คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 5.25-5.5% ตามที่คาดการณ์ ให้ข้อมูลโดยสรุปความเสี่ยงต่อเป้าหมายการจ้างงานและเงินเฟ้อมีความสมดุลมากขึ้น เศรษฐกิจกำลังกลับสู่ภาวะปกติ ไม่ได้อ่อนแอหรือร้อนแรงเกินไป จากท่าทีของ FED มองออกไปในทิศทางที่ Dovish และมีความน่าจะเป็นในการลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. มากขึ้น ขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีกับสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น
- META เผยงบดีกว่าคาดในทุกมิติโดยมีแรงหนุนหลักจาก Ads ที่ดีขึ้นหลังมีการนำ AI มาพัฒนาแพลตฟอร์มอย่าง IG Reels ซึ่งทำให้ตรงเป้าหมายลูกค้ามากขึ้นซึ่งเราเชื่อว่าภาพนี้จะยังดำเนินต่อไปในช่วง 2H24 ประกอบกับแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของ Fed ที่จะยิ่งเร่งภาพการฟื้นตัวอุตฯ Ads ได้เช่นกัน อย่างไรก็ดีสิ่งที่ต้องติดตามและยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงของบริษัทคือแนวโน้มธุรกิจ Metaverse Reality Labs
- ถึงแม้งบและคาดการณ์จะออกมาดีทั้ง QCOM และ ARM แต่อย่างไรก็ดีด้วยรายได้จากค่าลิขสิทธิ์ ARM ที่ออกมาต่ำกว่าคาดและยอดขายสมาร์ทโฟนของ ARM ที่ทรงตัวด้วยภาพนี้ทำให้ตลาดตอบสนองเชิงลบและหุ้นปรับตัวลง ซึ่งในภาพรวมหากตัดความคาดหวังตลาดออก เรามองว่างบและแนวโน้มที่ออกมายังคงอยู่ในทิศทางการฟื้นตัวที่ดี ทำให้เรามองว่ารคาหุ้นที่ปรับตัวลงอาจจะเป็นโอกาสในการลงทุนที่ดี
- งบของ eBay และ Etsy ออกมาในทิศทางเดียวกัน โดยมีแรงหนุนหลักที่เหมือนกันจากการลงทุน AI มาใช้พัฒนาแพลตฟอร์ม ประกอบกับกลยุทธ์เฉพาะตัว แต่ด้วยการแข่งขันในอุตฯคอมเมิซที่รุนแรง ประกอบกับแรงซื้อผู้บริโภคที่เปราะบาง ทำให้เรายังคงแนะนำลงทุนและอยู่ในหุ้นขนาดใหญ่ที่มีผลกระทบจำกัด โดยเราชอบ AMZN
- แนวโน้มผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนจีนQ2 ยังอ่อนแอโดยรวมคาดกำไรลดลง 4.6% จากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจแนะนำลงทุนบริษัทขนาดใหญ่ที่คาดมีกำไรเติบโตอย่าง Xiaomi, Baidu, AIA, Tencent
- PMI จีนยังหดตัว แต่กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าเริ่มเห็นการฟื้นตัวจากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านการอุดหนุนเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ผลลัพธ์อาจต้องใช้เวลาถึงจะช่วยให้ภาพเศรษฐกิจดีขึ้นด้วยภาพนี้แนะนำ Haier
- สหรัฐกำลังพิจารณาข้อจำกัดในการเข้าถึงชิปหน่วยความจำ AI และอุปกรณ์ที่จำเป็นในการผลิตของจีน โดย ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ และเกาหลีใต้ จะไม่ถูกควบคุมภายใต้กฎใหม่ ด้วยภาพนี้ เรามองว่า ASML, Tokyo Electron, SK Hynix และ Samsung มีความน่าสนใจจากผลประกอบการ 2Q24 แข็งแกร่งใน แนวโน้มที่ดีและคลายความกังวลเกี่ยวกับการควบคุมชิปลดลง
- ADS 2Q24 ไตรมาสแห่งการแข่งขันกีฬา หนุนงบเติบโตแข็งแกร่ง โดดเด่นสุดในกลุ่ม แต่อย่างไรก็ดี กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยยังคงมีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจที่อ่อนแอและแรงซื้อที่ชะลอตัว รวมถึงการแข่งขันด้านราคาจากคู่แข่ง เราแนะหลีกเลี่ยงการลงทุนในกลุ่มนี้ไปก่อน และแนะมองอีกทีในช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัวดี ขณะที่ในตอนนี้แนะมองกลุ่มสินค้าจําเป็นอย่าง WMT และ COST ที่ยังคงมีแรงซื้อที่มันคงอยู่
- ในภาพรวมนี้ ทำให้เราแนะนำลงทุน 1) AMZN($223.9) ที่มีการควบคุมต้นทุนที่ดีและได้รับประโยชน์จากอุปสงค์ AI ที่เติบโต 2) ARM ($131.6) ที่หากตัดความคาดหวังตลาดออกเรามองว่างบและแนวโน้มยังคงดีโดยเฉพาะจากความต้องการ AI ที่เพิ่มขึ้น ทำให้เรามองราคาหุ้นที่ปรับตัวลงในตอนนี้เป็นโอกาสในการลงทุนที่ดี
|
