บทสรุป
- ตลาดหุ้นปรับตัวลงแรงหลังมีแรงกดดันจาก 1) ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ 2) การปรับฐานราคา 3) การปิดสถานะการลงทุน 4) ปัญหาในกลุ่มเทคฯ เช่น NVDA ส่งมอบชิป AI ช้า
- กระแสเงินในวันที่ 2 ส.ค. 2024
1) กระแสเงินในตราสารหนี้ผันผวน
2) กระแสเงินเริ่มลดความเสี่ยงในตลาด EM
3) มีแรงซื้อในธีม Value ส่วนกระแสเงินในกลุ่มเทคโนโลยีค่อนข้างผันผวน
4) มีเงินไหลเข้ากลุ่มเชิงรับอย่างกลุ่มการแพทย์ สินค้าจำเป็นและกลุ่มสาธารณูปโภคจากความผันผวนของตลาดที่เพิ่มขึ้น
5) กระแสเงินในตลาดหุ้นจีนค่อนข้างผันผวน
6) มีแรงขายในกลุ่ม Consumer Discretionary
- แม้ว่าการปรับฐานของตลาดหุ้นในปัจจุบันจะทำให้นักลงทุนรู้สึกไม่สบายใจ แต่เรามองว่าถือเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนในตลาดหุ้นการปรับฐานนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ตลาดหุ้นมีศักยภาพในการให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าในระยะยาวเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ทั้งนี้เรามองว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่มีความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง ด้วยปัจจัยพื้นฐานเรายังมองว่าตลาดหุ้นสหรัฐยังมีแนวโน้มที่สามารถฟื้นตัวได้
- ธนาคารเริ่มผ่อนปรนเงื่อนไขการปล่อยกู้สำหรับสินเชื่อบางประเภท เช่น สินเชื่อบ้านและรถยนต์ แต่ยังคงเข้มงวดกับสินเชื่อเชิงพาณิชย์และสินเชื่อผู้บริโภคที่ไม่มีหลักประกัน ซึ่งเรามองว่า 1) ภาพนี้อาจช่วยหนุนความต้องการสินเชื่อได้ 2) หากพิจารณาร่วมกับท่าทีของ Fed ที่ผ่อนปรนขึ้นสามารถ Imply ได้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯยังคงไม่ได้น่ากังวลมากเท่าที่ตลาดมองและปรับตัวลงแรง
- ยอดขายเดือนกรกฎาคมของ Hon Hai เพิ่มขึ้น 22% YoY และเพิ่มขึ้น 17% MoM ซึ่งจากภาพรวมนี้เราพบว่ายอดขายยังมีการเติบโตสูงและสินค้าหลักทั้ง Smartphone และ AI รวมถึง Cloud ยังเป็นตัวสนับสนุนหลัก จึงมองได้ว่าอุตสาหกรรมชิปและ Hardware ยังมีแนวโน้มที่ดี เราชอบ TSMC, ASML, Nvidia, Qualcomm, AMD, Lenovo, Apple
- มีรายงานจาก The Information ว่า สาเหตุการเลื่อนชิป AI รุ่น Blackwell ของ Nvidia ถูกเลื่อนการผลิตเนื่องจากข้อบกพร่องในการออกแบบอาจล่าช้าไปประมาณ 3 เดือนหรือมากกว่านั้น ซึ่งเรามองว่าส่งผลต่อบริษัทในระยะสั้น ทั้งนี้ต้องประเมินถึงการเปลี่ยนกลยุทธ์ที่อาจจะใช้ชิปตัวเดิมอย่าง H100/H200 เป็นเรือธงไปก่อน ซึ่งอาจเร็วไปที่จะประเมินว่ารายได้ใน 2H24 จะออกมาต่ำกว่าคาดจากประเด็นนี้
- ถึงแม้ในภาพรวมอุตฯจะมีแรงกดดันจากค่าใช้จ่ายการลงทุน AI เพิ่มขึ้น แต่ Palantir เผยงบ 2Q24 แกร่งและปรับเพิ่มประมาณการรายได้ปี 24 ขึ้นซึ่งมองว่าหนุนจาก 1) อุปสงค์ AI ที่เติบโตต่อเนื่อง 2) ความสัมพันธ์กับรัฐบาลสหรัฐฯที่ดีช่วยหนุนโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งเรามองว่าภาพนี้จะยังดำเนินต่อเนื่องไปยัง 2H24 ทำให้เราแนะยังคงหาจังหวะลงทุนหุ้นในช่วงที่ย่อตัวพร้อมคาดหวังการฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง
- รัฐบาลจีนประกาศแผนกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ การขยายการบริโภคพื้นฐาน: มุ่งเน้นในด้านการบริการอาหาร บริการบ้าน และการดูแลผู้สูงอายุส่งเสริมรูปแบบการใช้จ่ายใหม่ๆ เช่น ร้านค้าไร้พนักงาน และ live stream e-commerce การส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยมีหุ้นที่ได้ประโยชน์ คือ China Tourism Group Duty Free, Trip.com, Xiaomi, Tencent
- Yum China Q2 รายได้เพิ่มขึ้น 0.9%YoY แต่ต่ำกว่าคาด กำไรต่อหุ้นปรับปรุงแล้วเพิ่มขึ้น 17%YoY และสูงกว่าคาด แม้เห็นการฟื้นตัวแต่แนะนำติดตามเลขเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวชัดเจนจึงเป็นจังหวะเข้าลงทุน
- Infineon (IFX.GR) รายงานกำไร 3QFY24 เติบโตชะลอตัวและต่ำว่าคาด แนวโน้มยังคงถูกกดดันจากธุรกิจ Automotive และความท้าทายในการบริหารสินค้าคงคลัง เรามองว่าหุ้นในกลุ่ม Semiconductor อย่าง ASML NVIDIA AMD และ TSMC ยังคงมีความน่าสนใจจากผลประกอบการและแนวโน้มที่ยังเติบโตได้ เช่น Smartphone และ AI Processing เป็นต้น
- ในภาพรวมตลาดที่ผันผวนในระยะสั้น ทำให้เราแนะนำหุ้นที่มีความผันผวนต่ำและมีแนวโน้มดีใน 2H24 อย่าง COST ($891.0) และแนะเก็งกำไรในหุ้นที่คาดว่างบออกมาดีอย่าง NVO ($144.5)
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก Global morning routine_240806_T