- ตลาดหุ้นทั่วโลกฟื้นตัวดีหลังภาพรวมเศรษฐกิจไม่ได้แย่อย่างที่ตลาดคาด ส่งผลให้ตลาดปรับความคาดหวังต่อท่าทีการลดดอกเบี้ยของ Fed นอกนั้นมีแรงหนุนจากกลุ่มเทคฯที่มีแรงซื้อกลับ
- กระแสเงินในวันที่ 16 ส.ค. 2024 1) กระแสเงินในตราสารหนี้ผันผวน 2) เมื่อตลาดย่อตัวกระแสเงินเริ่มเห็นแรงซื้อกลับในตลาดหุ้นโลกเพื่อกระจายความเสี่ยง 3) เริ่มเห็นแรงซื้อกลับในกลุ่มเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ก 4) มีเงินไหลเข้ากลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมและ Consumer Discretionary 5) กระแสเงินในตลาดหุ้นจีนค่อนข้างผันผวน 6) กลุ่มพลังงานมีแรงขายจากความคืบหน้าในการเจรจาหยุดยิงในตะวันออกกลาง 7) มีแรงขายในหุ้นกลุ่มเชิงรับอย่างกลุ่มการแพทย์และสาธารณูปโภคมองว่าตลาดเปลี่ยนไปเล่นในกลุ่ม High beta ช่วงตลาดฟื้นตัว
- นโยบายเศรษฐกิจของ Kamala Harris มีความชัดเจนขึ้นซึ่งไม่เป็นมิตรกับตลาด โดยเฉพาะการปรับเพิ่มภาษีนิติบุคคลเป็น 28% เรามองว่าหากว่า Harris ชนะการเลือกตั้งอาจจะไม่ดีกับตลาดในกรณีภาษีและ Antitrust แต่กลุ่มที่เป็นผู้ชนะได้แก่ EV และพลังงานสะอาด (TSLA, ENPH, SEDG, FSLR) รวมถึงกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (LOW, HD)
- ความคาดหวังต่อการประชุมที่ Jackson Hole คือ 1) เงินเฟ้อที่ลดลง 2) เศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง และ 3) การลดดอกเบี้ย เรามองว่าตลาดคงจะไม่มีอะไรที่คาดไม่ถึงแต่จะจับสัญญาณท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐ คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐจะส่งสัญญาณการลดดอกเบี้ยที่ชัดเจนมากขึ้น จากสถิติพบว่า 5 วันหลังจากการประชุมนั้นตลาดหุ้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% และ 0.9% สองสัปดาห์หลังจากการประชุม
- PAMW เผยงบและให้คาดการณ์ดีกว่าคาด หนุนจาก RPO และ Next-Gen Security ARR ที่เติบโตแกร่ง สะท้อนความต้องการ AI ที่ดี ด้วยภาพคาดการณ์ที่สะท้อนการเติบโตในระดับสูง,แนวโน้มความต้องการผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยไซเบอร์ยังคงเพิ่มขึ้นและการได้รับประโยชน์จากอุปสงค์ AI ที่เพิ่มขึ้น ด้วยภาพนี้ทำให้เราแนะลงทุนต่อเนื่องและหาจังหวะการลงทุนในช่วงที่ราคาหุ้นย่อตัว
- AMD เผยดีลซื้อกิจการ ZT Systems ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเสริมแกร่งธุรกิจ AI ซึ่งเสร็จสิ้นในช่วง 1H25 เรามองว่าดีลนี้จะช่วยให้ AMD มีความสามารถทางการแข่งขันเพิ่มขึ้น รวมถึงใช้จุดเด่นในด้านราคาที่ถูกกว่าสู้กับ NVDA ได้ แต่อย่างไรก็ดีส่วนแบ่งการตลาดที่มีสัดส่วนเยอะมากและแผนการดำเนินงานที่ชัดเจนของ NVDA ทำให้เรามองว่า AMD อาจจะยังมีความท้าทายอยู่มาก
- Sand China งบ 1H24 ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยมีการเติบโตในทุกส่วนธุรกิจหลัก และการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว อย่างไรก็ดีเรามองเป็นหุ้น Turn Around ด้วยที่ผ่านมาราคาหุ้นได้ปรับตัวลงจากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นรวามถึงประเด็นการป้องกันการฟอกเงิน จึงมองเป็นจังหวะเข้าซื้อในช่วงราคาที่ต่ำกว่า 15 HKD
- จีนได้ประกาศนโยบาย "เงินสดแลกซากรถ" เพื่อกระตุ้นยอดขายรถยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในช่วงที่ตลาดรถยนต์ชะลอตัวในครึ่งปีแรกของปี 2024 คาดว่าอาจกระตุ้นยอดขายตลาดรถยนต์โดยรวมได้ถึง 2 ล้านคัน เรายังคงแนะนำหลีกเลี่ยงกลุ่ม EV จีนรายเล็กที่สถานะทางการเงินไม่มั่นคงนัก แนะมอง BYD ที่ฐานะทางการเงินและแบรนด์แกร่ง
- ACT ผู้ดำเนินกิจการร้านสะดวกซื้อ Circle K ได้ยื่นข้อเสนอเพื่อซื้อกิจการของ Seven & I Holdings Co. จะเกิดผู้ประกอบการร้านสะดวกซื้อที่ใหญ่ที่สุดในโลก ดีลการซื้อกิจการนี้เราไม่ได้มีมุมมองทั้งบวกและลบจากประเด็นดังกล่าวสำหรับหุ้นทั้ง 2 บริษัทนี้ ทั้งนี้ต้องติดตามนโยบายของ ACT ในการดำเนินงานในอนาคต ส่วนผู้ที่ได้อาจประโยชน์จากการแข่งขันภายในประเทศที่ลดน้อยลงเป็น Lawson
- ภาพตลาดที่ผันผวนในระยะสั้น ทำให้เราแนะนำหุ้นที่มีความผันผวนต่ำอย่าง WMT ($73.9) รวมถึงแนะมอง TSM ($212.0) ที่ยังคงมีแนวโน้มฟื้นตัวดีจากอุปสงค์ AI ที่เติบโตและการลงทุนของกลุ่มลูกค้าบริษัทใหญ่ที่เพิ่มขึ้น
|
|