บทสรุป |
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลดลงปัจจัยกดดันตลาดมาจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวสูงขึ้น และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่มีแรงขายลดความเสี่ยงการก่อนประชุม Fed
กระแสเงินในวันที่ 21 ส.ค. 2024 1) กระแสเงินในตราสารหนี้ผันผวน 2) เมื่อตลาดย่อตัวกระแสเงินเริ่มเห็นแรงซื้อกลับในตลาดหุ้นโลกเพื่อกระจายความเสี่ยง 3) กระแสเงินในกลุ่มเทคโนโลยีเริ่มผันผวน กระแสเงินไม่มีเทรนด์บ่งชี้ว่ามีแรงเก็งกำไรค่อนข้างสูง 4) กระแสเงินในตลาด EM มีแรงซื้อจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า 5) กระแสเงินในตลาดหุ้นจีนผันผวน ดูเหมือนไม่ตอบสนองกับมาตรการช่วยเหลือภาค 6) มีแรงขายในกลุ่มเชิงรับบ่งชี้ว่าตลาดยอมรับความเสี่ยงได้สูงขึ้น 7) กลุ่มที่อิงกับเศรษฐกิจอย่างกลุ่มการเงิน Consumer Discretionary และสินค้าอุตสาหกรรม รวมไปถึงหุ้นธีม Growth บ่งชี้ว่าตลาดกังวลกับภาพการเติบโตของเศรษฐกิจ
คณะกรรมการ FED ส่วนใหญ่มองว่าจะมีการลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. PMI ยุโรป เพิ่มขึ้นนี้ได้รับการขับเคลื่อนโดยภาคบริการแต่กิจกรรมในภาคการผลิตยังคงอ่อนแอ PMI สหรัฐลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงต้นเดือนเงินเฟ้อญี่ปุ่นเร่งตัวขึ้นเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน ด้วยภาพเช่นนี้จะทำให้ FED และ ECB ลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. ส่วน BOJ ดำเนินนโยบายการเงินแบบตึงตัว ทำให้แนวโน้มค่าเงินเยนแข็งค่าซึ่งจะไม่ดีกับตลาดหุ้นญี่ปุ่น
Workday รายงานกำไร 1.75 ดอลลาร์ต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 22% YoY สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ 7% จากรายได้ที่เพิ่มขึ้น 17% YoY บริษัทจะเพิ่มความสามารถในการทำกำไรอย่างมากภายในสามปีข้างหน้าเรามองว่าแนวโน้มการเติบโตของ Workday ค่อนแข็งแกร่ง อาจจะมีแนวโน้มที่ถูกปรับประมาณการขึ้นได้หากว่าผลประกอบการยังมีอัตราการเติบโตในระดับ 15-20% ราคาของ Workday มีแนวโน้มกลับไปอยู่ในกรอบ US$280-300
Baidu รายงานงบไตรมาส 2 ปี 2024 รายได้รวมลดลง 0.4% YoY ประสบปัญหาการทำ AI ให้เป็นรายได้หลัก เผชิญการแข่งขันที่รุนแรงในตลาด AI จากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ iQIYI รายได้รวมลดลง 4.7% รายได้จากบริการสมาชิกลดลง 9.1% มีการลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ราคาหุ้นที่ยังคงเป็น trend ขาลงจนกว่าจะเห็นภาพธุรกิจ AI ที่เติบโตขึ้น เรายังไม่ชอบ Baidu ในช่วงเวลานี้นักยังคงมองเป็น Tencent
NetEase ผลประกอบการออกมาเห็นถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งในทุกกลุ่มธุรกิจหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเกมและบริการ เรามองว่าNetEase มีการเติบโตที่แข็งแกร่งในทุกกลุ่มธุรกิจหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเกมและบริการที่เกี่ยวข้อง ด้วยประเด็นนี้ยังส่งผลบวกในธุรกิจเกมอย่าง Tencent ที่ยังคงมี Momentum ดีกว่า
Ping An. รายงานผลกำไรในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 มีการเติบโตที่ดีโดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของตลาดหุ้นที่ช่วยเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน ด้วยภาพการฟื้นตัวของผลประกอบการ การเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการฟื้นตัวของ Ping An เรามองว่าเป็นหุ้นที่เติบโตได้เรื่อยๆ ในระยะยาวมากกว่าการเก็งกำไรในช่วงสั้น ซึ่งหากมองที่การเติบโตถือว่าเป็นบริษัทนึงที่ทนทานต่อเศรษฐกิจจีนได้
ภาพตลาดที่ผันผวนในระยะสั้น ทำให้เราแนะนำหุ้นที่มีความผันผวนต่ำอย่าง WMT ($73.9) รวมถึงแนะมอง TSM ($212.0) ที่ยังคงมีแนวโน้มฟื้นตัวดีจากอุปสงค์ AI ที่เติบโตและการลงทุนของกลุ่มลูกค้าบริษัทใหญ่ที่เพิ่มขึ้น
|
ท่าน สามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก Global morning routine_240823_T |