Global Morning Routine

INVX Global Morning Routine - 30 ก.ค. 2567

30 Jul 24 9:00 AM
Global81b2986e-94b6-4ef6-848a-61dffc6dd868-20240911170244

บทสรุป

- ตลาดหุ้นทั่วโลกทรงตัวในแดนบวกหลัง PCE ออกมาเป็นไปตามคาดและยังคงอยู่ในทิศทางที่สะท้อนถึงแนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed อย่างไรก็ดีเราประเมินตลาดในสัปดาห์นี้ยังคงมีความผันผวนหลัง 1) มีการเผยผลประกอบการหุ้นใหญ่ใน  Magnificent 7 2) การประชุมของ Fed ที่ตลาดมองว่ามีท่าทีคงอัตราดอกเบี้ยในระดับเดิม แต่เตรียมติดตามท่าทีและแนวโน้มในระยะถัดไปมากกว่า

- กระแสเงินในวันที่ 26 ก.ค. 2024 1) กระแสเงินในตราสารหนี้ผันผวน 2) มีแรงซื้อในตลาดหุ้น EM จากแรงเก็งกำไรบนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนและการฟื้นตัวของแนวโน้มกำไร 3) มีแรงซื้อในกลุ่มการเงินและธีม Value 4) กระแสเงินในตลาดหุ้นจีนค่อนข้างผันผวน 5) เริ่มมีแรงซื้อกลับในหุ้นขนาดเล็กและหุ้นธีม Value แต่กระแสเงินค่อนข้างผันผวน 6) มีแรงขายในกลุ่ม Consumer Discretionary จากความกังวลด้านกำลังซื้อโดยเฉพาะรถยนต์ ท่องเที่ยวและสินค้าหรูหรา รวมไปถึงกลุ่ม Consumer Staples จากกำลังซื้อที่ลดลง

- MCD เผยงบผิดคาดและหดตัว แต่หุ้นขึ้นหลังมีความคาดหวังเชิงบวกต่อแผนธุรกิจและมองกำไรผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว แต่ด้วยแรงกดดันจาก 1) ตลาดจีนและตะวันออกกลาง 2) แรงซื้อที่ชะลอตัวลง ทำให้เรามองว่าการเติบโตผ่านการทำโปรโมชั่นยังคงไม่ Sustain มากพอเท่ากับแรงซื้อของผู้บริโภคที่กลับมาดีขึ้น เราจึงประเมินการฟื้นตัวในระยะถัดไปยังไม่ชัดเจนเท่ากับกลุ่มสินค้าจำเป็นที่ยังคงมีแรงซื้ออยู่ต่อเนื่อง

- Alibaba หุ้นขึ้นแรงราว 6% หลังมีแผนเก็บค่าบริการซอฟต์แวร์เพิ่มจากร้านค้าซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีแหล่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นในระยะถัดไป อย่างไรก็ดีด้วยภาพแรงกดดันจาก 1) การแข่งขันในอุตฯที่ยังคงรุนแรง 2) เศรษฐกิจจีนที่ยังฟื้นตัวไม่สม่ำเสมอ 3) การปรับเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจ ทำให้เรามองหุ้นจะยังคงมีความผันผวนในระยะสั้นและจะเห็นภาพการฟื้นตัวที่ชัดเจนได้ต่อเมื่อเศรษฐกิจจีนมีการฟื้นตัวที่ดี

- ผลประกอบการไตรมาส 2 ของ ON Semiconductor สูงกว่าคาดหนุนจากสินค้า Analog Solution ที่ลดผลกระทบจากสินค้าในกลุ่มยานยนต์และสินค้าอุตสาหกรรมที่ลดลงได้ ขณะที่ให้คาดการณ์รายได้ต่ำกว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อย ซึ่งออกมาในทิศทางเดียวกันกับบริษัทชิปอื่นๆ เช่น STMicroelectronics และ NXP ประสบปัญหาจากคำสั่งซื้อที่ลดลงในกลุ่มยานยนต์ ซึ่งอาจจะส่งผลกับ Infineon ที่อาจจะออกมาต่ำกว่าที่คาดเช่นกัน นอกจากนั้นเรามองว่ากลุ่มยานยนต์มีความเสี่ยงจากอุปสงค์รถยนต์ทั้ง ICE และ EV ที่ยังอ่อนแอ รวมไปถึงการระบายสินค้าคงคลังที่อาจจะส่งผลในระยะสั้นต่อผลประกอบการใน 2H24

- ผลประกอบการไตรมาส 2 ของ CATL ดีกว่าคาด แต่มีแรงกดดันจากปัจจัยภายนอกของธุรกิจ Battery ค่อนข้างผันผวนจาก ราคาวัตถุดิบที่ลดลงทำให้ราคาแบตเตอรี่ลดลง และความต้องการ EV ที่ชะลอตัวลงทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐฯ และยุโรป ส่งผลให้เกิดสงครามราคาในอุตสาหกรรม อย่างไรก็ดีมอง CATL สามารถควบคุมต้นทุนได้ดี ช่วยรักษาอัตรากำไรไว้ได้ทำให้คาดว่ายอดขายจะฟื้นตัวใน 4Q24 เนื่องจากราคาแบตเตอรี่มีเสถียรภาพและปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้น (จากเดิมที่คาดว่าจะเป็น 3Q24 เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้ามียอดขายที่อ่อนแอกว่าที่คาดและสินค้าคงคลังค่อนข้างสูง)

- Heineken และ Mercedes-Benz รายงานผลประกอบการใน 1H24 ยอดขายต่ำกว่าคาด โดยยังคงได้รับผลกระทบจากการบริโภคของจีนอ่อนแอ ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซา ประกอบกับบริษัทปรับลดคาดการณ์ในปี 2024 ลงสะท้อนความเปาะบางของผู้บริโภคและค่าใช้จ่ายด้านการตลาดเพิ่มขึ้น ช่วงสั้นเราให้ระมัดระวังในกลุ่มนี้เนื่องจากมองว่ายังฟื้นตัวได้ยาก

- ในภาพรวมนี้ ทำให้เราแนะนำลงทุนในหุ้นในกลุ่ม Defensive  ที่สามารถลดความผันผวนตลาดในช่วงนี้ได้ทั้ง PFE ($32.4) ที่มองมีภาพการฟื้นตัวจากบานต่ำและยามะเร็ง และ WMT ($73.4) ที่มองยังคงมีแรงซื้อในกลุ่มสินค้าจำเป็นที่แกร่งอยู่

 

ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก Global morning routine_240730_T

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5