Macro Making Sense 2
PDF Available  
Macro Making Sense

Macro Making Sense – 29 ม.ค. 2568

By ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์|29 Jan 25 7:29 AM
สรุปสาระสำคัญ

สรุปประเด็นส่งออกไทยท่ามกลางความเสี่ยง Trade war

การส่งออกของไทยเดือนธันวาคม 2567 มีมูลค่า 24,765.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 8.7% เป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน ขณะที่ทั้งปี 2567 มูลค่าการส่งออกรวมเท่ากับ 300,529.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 5.4% ฟื้นตัวดีขึ้นจากปี 2566 ที่หดตัว -0.8% เรามองว่า การส่งออกไทยในเดือนนี้ มีประเด็นน่าสนใจ 3 ประเด็น

1.การเติบโตที่ดูดีแต่ไม่ยั่งยืน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากการเร่งส่งออกก่อน Trade war โดยประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก: (1) กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เป็นการเร่งส่งออกก่อนมาตรการกีดกันทางการค้า (2) อัญมณีและเครื่องประดับ ขยายตัวดีจากฐานต่ำในปีก่อน และ (3) เครื่องจักรกลและส่วนประกอบจากการเร่งนำเข้าของประเทศคู่ค้า

  1. แนวโน้มการส่งออกในระดับโลก พบว่าน่ากังวล จาก (1) ดัชนี PMI ภาคการผลิตโลกยังคงหดตัวต่อเนื่อง (2) การขยายตัวของการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในเอเชียเริ่มมีทิศทางชะลอตัวลง
  2. ในมิติตลาด การส่งออกไทยในเดือน ธ.ค. ขยายตัวได้ดีในตลาดหลัก แต่ตลาดรองอย่างฮ่องกงหดตัวแรง -23.3% (จาก -9.9%) จากอิเล็กทรอนิกส์ที่หดตัว สะท้อนการเร่งส่งออกชั่วคราวก่อนความเสี่ยงจากนโยบายการค้าสหรัฐฯ มากกว่าการฟื้นตัวของอุปสงค์ที่แท้จริง
  • การส่งออกไทยเดือน ธ.ค. 2567 ขยายตัว 8.7% นำโดยสินค้าเกษตรที่โต 10.7% และอุตสาหกรรมที่โต 11.1% แต่เป็นการเติบโตที่เปราะบาง สะท้อนจากการหดตัวรุนแรงของอุปกรณ์กึ่งตัวนำ (-77.9%) และยานยนต์ (-7.2%) รวมถึงการแข่งขันที่รุนแรงในสินค้าขั้นกลางจากจีน ขณะที่ยานยนต์หดตัว -7.2% และเครื่องยนต์สันดาปที่หดตัว -28.3% สะท้อนผลกระทบจากการเปลี่ยนผ่านสู่ EV
  • ล่าสุด โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศจุดยืนชัดเจนในการใช้มาตรการภาษีนำเข้าเป็นเครื่องมือปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศ โดยเตรียมเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากทั่วโลกในอัตรา "สูงกว่า 2.5%" พร้อมระบุว่าจะประกาศตัวเลขที่แน่นอนในภายหลัง
  • เราวิเคราะห์ว่า หากทรัมป์เลือกที่จะเก็บภาษีเป็นรายสินค้า โดยเน้นสินค้าที่ขาดดุลการค้ามากนั้น สินค้าไทยที่มีความเสี่ยงที่จะถูกขึ้นภาษีได้แก่ (1) เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (เกินดุลสหรัฐอันดับ 1 และเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 1 ของไทย) (2) ยางและผลิตภัณฑ์ยาง (เกินดุลสหรัฐอันดับ 4 และเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 4 ของไทย (3) อัญมณีและเครื่องประดับ (เกินดุลสหรัฐอันดับ 9 และเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 3 ของไทย) (4) เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ (เกินดุลสหรัฐอันดับ 10 และเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 5 ของไทย) นอกจากนั้น เป็นไปได้ว่าอาจถูกสหรัฐบังคับให้เปิดตลาดรถยนต์ โดยในปัจจุบัน การนำเข้ารถยนต์จากสหรัฐอเมริกามาไทยต้องเสียภาษีรวมเกือบ 100%
  • ทั้งนี้ หากทรัมป์เลือกที่จะเก็บภาษีโดยถ้วนหน้า (Broad-base) จากการคำนวณเบื้องต้น โดยใช้สมมุติฐานของ IMF ที่ว่าสหรัฐขึ้นภาษีสินค้านำเข้า 10% โดยถ้วนหน้า รวมถึงทำนโยบายการเนรเทศผู้อพยพ และการลดภาษีนิติบุคคล จะพบว่า

(1) การส่งออกของไทยจะหดตัวรุนแรงสุด โดยหดตัวสูงสุดที่  -1.9% จากที่คาดว่าจะไม่ขยายตัว

(2) การนำเข้าจะหดตัวสูงสุด -0.4% จากที่คาดว่าจะขยายตัว 1.0%

(3) เศรษฐกิจไทย (GDP) จะขยายตัวเหลือ 1.4-2.5% จากที่เคยคาดว่าจะขยายตัว 2.7% และ

(4) เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 1.0 - 1.2% จากที่คาดว่าจะขยายตัว 0.9%

Author
Slide3
ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์

หัวหน้านักวิจัยเศรษฐกิจ

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5