Keyword
PDF Available  
Macro Making Sense

นโยบายการเงินไทยยุคของผู้ว่าการฯ วิทัย รัตนากร ทรัมป์ประกาศภาษี 100% เพิ่มเติมบนสินค้าจีน วิกฤตการเมืองญี่ปุ่นและผลกระทบต่อค่าเงินบาท

By ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์|14 Oct 25 6:51 AM
สรุปสาระสำคัญ

สรุประเด็นนโยบายการเงินไทยยุคของผู้ว่าการฯ วิทัย รัตนากร ทรัมป์ประกาศภาษี 100% เพิ่มเติมบนสินค้าจีน  วิกฤตการเมืองญี่ปุ่นและผลกระทบต่อค่าเงินบาท 

  • นโยบายการเงินไทยยุคของผู้ว่าการฯ วิทัย รัตนากร ภายใต้การนำของผู้ว่าการวิทัย รัตนากร ธนาคารแห่งประเทศไทยมุ่งเน้นการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพื่อประคองเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยใช้ทั้งเครื่องมือดอกเบี้ยและมาตรการเฉพาะจุด เช่น โครงการ "คุณสู้ เราช่วย", NaCGA, Risk Based Pricing และการจัดตั้ง Social AMC เพื่อแก้หนี้เสียต่ำกว่า 1 แสนบาทให้ลูกหนี้ 2-3 ล้านราย โดยมีเป้าหมายลดหนี้ครัวเรือนสู่ระดับ 80% ของ GDP ขณะที่ ธปท. ติดตามค่าเงินบาทที่แข็งค่า 4.5% อย่างใกล้ชิดและอาจพิจารณาใช้มาตรการติดตามการซื้อขายทองออนไลน์ เราวิเคราะห์ว่า นโยบายการเงินไทยภายใต้ผู้ว่าการวิทัยแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการสร้างสมดุลระหว่างการรักษาเสถียรภาพกับการสนับสนุนเศรษฐกิจ โดยใช้ทั้งนโยบายดอกเบี้ยและมาตรการเฉพาะจุดควบคู่กันไป แต่ด้วยเศรษฐกิจที่อ่อนแอ เงินเฟ้อที่ติดลบยาวนาน และสินเชื่อที่หดตัว ทำให้โอกาสในการลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมมีความเป็นไปได้สูง
  • ทรัมป์ประกาศภาษี 100% เพิ่มเติมบนสินค้าจีน มีผลตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2025 ว่าจะเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจีนอีก 100% ทำให้อัตราภาษีรวมเป็น 130% พร้อมควบคุมการส่งออกซอฟต์แวร์สำคัญไปจีน มีผลตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน เพื่อตอบโต้การที่จีนประกาศควบคุมการส่งออกแร่ธาตุหายาก ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐทรุดหนัก S&P 500 ดิ่ง 2.7% และ Nasdaq ลดลง 3.5% แม้ทรัมป์จะเปิดโอกาสถอยหากจีนยกเลิกการจำกัดแร่ธาตุหายากและอาจพบสีจิ้นผิงที่การประชุม APEC ปลายเดือนนี้ แต่สถานการณ์ยังคงตึงเครียด
  • INVX คาดการณ์ว่าหากภาษีมีผลจริง เศรษฐกิจสหรัฐอาจไม่ขยายตัวหรือหดตัวในไตรมาส 4/2025 และขยายตัวเพียง 0.9% ในปี 2026 ส่วนจีนแม้จะได้รับผลกระทบหนักแต่ยังคาด GDP ที่ 4.4% ในปี 2025 จากมาตรการกระตุ้นขนาดใหญ่ ขณะที่ไทยได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยเฉพาะปัญหา transshipment และภาคส่งออก ทำให้ GDP ปี 2026 อาจชะลอเหลือ 1.2% จากเดิมที่คาด 1.4% โดยทางรอดคือการสร้างระบบผลิตครบวงจรในแต่ละภูมิภาค หาตลาดใหม่ และเพิ่มการบริโภคภายในประเทศ
  • วิกฤตการเมืองญี่ปุ่นและผลกระทบต่อค่าเงินบาท วันที่ 10 ตุลาคม 2025 พรรคโคเมโตะประกาศถอนตัวจากรัฐบาลผสมกับพรรค LDP ยุติความร่วมมือ 26 ปี จากความขัดแย้งเรื่องการปฏิรูปกฎหมายเงินบริจาคทางการเมือง และประกาศจะไม่โหวตให้ซานาเอะ ทาไคจิ หัวหน้าพรรค LDP คนใหม่เป็นนายกฯ ทำให้เธอต้องหาการสนับสนุนจากพรรคฝ่ายค้านอย่างน้อย 2 พรรค โดยยูอิจิโระ ทามากิ หัวหน้า DPFP กลายเป็นตัวแปรสำคัญที่อาจได้รับการสนับสนุนจาก CDP และโคเมโตะเพื่อเป็นนายกฯ แทน การลงมติจะเกิดขึ้นวันที่ 20 ตุลาคม โดย INVX มองว่ามี 4 สถานการณ์ที่อาจเกิด (1) ทาไคจิชนะแบบเฉียดฉิว (45-50%) (2) ทามากิหรือฝ่ายค้านชนะ (30-40%) (3) LDP เปลี่ยนผู้สมัครและโคเมโตะกลับมา (15-20%) และ (4) ผู้สมัคร CDP หรือพรรคอื่นชนะ (5-10%) โดยสถานการณ์ที่น่าจะเป็นมากที่สุด (ทาไคจิชนะแบบอ่อนแอ) จะส่งผลให้เยนอ่อนค่าต่อเนื่องและบาทอ่อนค่าตามในระยะสั้น แต่หาก Fed ลดดอกเบี้ย สถานการณ์ Government shutdown ในสหรัฐบรรเทาลง ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ส่งสัญญาณผ่อนคลายอย่างค่อยเป็นค่อยไป เงินบาทอาจกลับมาแข็งค่าขึ้นในระยะต่อไปได้
Author
Slide3
ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์

หัวหน้านักวิจัยเศรษฐกิจ

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5