Keyword
PDF Available  
Macro Making Sense

ยอดสินเชื่อจีนชะลอลงต่อเนื่อง เงินเฟ้อจีนติดลบเป็นเดือนที่ 2 การยุติการนำเข้าน้ำมันใช้แล้วมีผลต่อจีนจำกัด

By ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์|16 Oct 25 7:32 AM
สรุปสาระสำคัญ

สรุปประเด็น สินเชื่อจีนชะลอตัวต่อ, เงินเฟ้อยังคงติดลบ, การส่งออกแสดงถึงความยืดหยุ่น,  การยุติการนำเข้าน้ำมันใช้แล้วมีผลจำกัด

  • ยอดระดมทุนสุทธิคงค้างในระบบ (Outstanding TSF) ของจีนเดือน ก.ย. ชะลอตัวลงเป็น 8.7% YoY จาก 8.8% เดือนก่อน ด้านยอดสินเชื่อเงินหยวน (Outstanding RMB Loans) ชะลอลงต่อเนื่อง 6.4%YoY (vs. 6.6% เดือนก่อน) สะท้อนความต้องการสินเชื่อจากทั้งภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจที่ยังอ่อนแอ แม้จะมีมาตรการสนับสนุนดอกเบี้ยกู้เพื่อผู้บริโภคในเดือน ก.ย. แล้วก็ตาม
  • เรามองว่า อัตราการเติบโตของสินเชื่อในระบบที่ชะลอลงยังสะท้อนว่ากลไกการส่งผ่านนโยบายการเงินของ PBoC ยังทำงานได้จำกัดแสดงถึงลักษณะของกับดักสภาพคล่อง คือ เงินหมุนเวียนอยู่ในระบบการเงิน แต่ไม่สามารถถูก channel ไปสู่การลงทุนและการบริโภคจริงในระบบเศรษฐกิจ ท่ามกลางความเชื่อมั่นภาคเอกชนและครัวเรือนที่ยังเปราะบาง และความต้องการสินเชื่อใหม่ที่ยังไม่ฟื้นตัวอย่างแท้จริง
  • อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) ของจีนในเดือน ก.ย. หดตัวลดลงเล็กน้อยเป็น -0.3%YoY จาก -0.4% เดือนก่อน หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และหดตัวมากกว่าตลาดคาดที่ -0.2% ด้าน Core CPI (ไม่รวมอาหารและพลังงาน) เพิ่มเล็กน้อยเป็น +1.0%YoY จาก +0.9% เดือนก่อน จากราคาทองรูปพรรณที่สูงขึ้น มีส่วนเพิ่มต่อ Core CPI ราว 0.4ppt
  • เรามองว่า อัตราเงินเฟ้อที่หดตัวลดลงเล็กน้อยสะท้อนผลจากมาตรการของภาครัฐที่มุ่งจำกัดการแข่งขันด้านราคา (anti-involution) มากกว่าจะเป็นผลจาก การฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในประเทศอย่างยั่งยืน ทั้งนี้เรามองว่าภาวะเศรษฐกิจจีนยังต้องพึ่งพาแรงหนุนจากนโยบายการเงินและการคลังเพิ่มเติม
  • การส่งออกจีน เดือน ก.ย. ขยายตัว +8.3%YoY เร่งขึ้นจาก +4.4% เดือนก่อน และสูงกว่าตลาดคาดที่ +6.6% โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวเล็กน้อย, การส่งออกไปยัง EU (+14.2%) ที่เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อน, และการส่งออกไปยังตลาดเกิดใหม่อย่าง LATAM (+15.2%) และ แอฟริกาที่เร่งตัวขึ้นมาก (+56.4%)
  • เรามองว่า จีนแสดงให้เห็นถึง ความยืดหยุ่น (resilience) ในภาคการค้าโลก โดยสามารถปรับโครงสร้างตลาดส่งออกโดยการย้ายตลาดไปยังภูมิภาคใหม่เพื่อชดเชยความชะลอตัวของตลาดดั้งเดิมอย่างสหรัฐฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้จีนมีอำนาจต่อรองทางเศรษฐกิจและการค้ากับสหรัฐฯ มากขึ้นในบรรยากาศการค้าที่เริ่มกลับมามีสัญญาณตีงเครียดอีกครั้ง
  • ทรัมป์กล่าวว่ากำลังพิจารณายุติการนำเข้าน้ำมันปรุงอาหารและน้ำมันใช้แล้ว (Used Cooking Oil: UCO) จากจีน ภายหลังจีนลดการซื้อนำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของอเมริกา
  • เรามองว่าแม้ประธานาธิบดีทรัมป์จะขู่แบนการนำเข้าน้ำมันปรุงอาหารจากจีน เพื่อตอบโต้กรณีที่จีนลดการซื้อนำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ แต่เนื่องจากตลาด UCO มีขนาดเล็กมาก (0.05% ของการส่งออกทั้งหมด) และยอดส่งออกลดลงไปแล้วตั้งแต่ช่วงต้นปี ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจจึงมีจำกัดมาก (<0.01 ppt) ) อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงที่สหรัฐฯ อาจเดินหน้าขึ้นภาษี 100% ในวันที่ 1 พ.ย. ถือเป็นประเด็นที่น่ากังวลมากกว่าอย่างมีนัยสำคัญหากสหรัฐฯและจีนไม่สามารถบรรลุข้อตกลงก่อนถึงเส้นตาย
Author
Slide3
ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์

หัวหน้านักวิจัยเศรษฐกิจ

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5