PDF Available  
Macro Making Sense

Macro Making Sense – สรุปรายงานนโยบายการเงินไตรมาส 3 ของ PBOC มีท่าทีระมัดระวังมากขึ้น, Outstanding TSF ชะลอตัวต่อต่ำสุดในรอบ 7 เดือน

By ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์|14 Nov 25 9:01 AM
สรุปสาระสำคัญ

สรุปรายงานนโยบายการเงินไตรมาส 3 ของ PBOC มีท่าทีระมัดระวังมากขึ้น, Outstanding TSF ชะลอตัวต่อต่ำสุดในรอบ 7 เดือน

  • สรุปรายงานนโยบายการเงินไตรมาส 3 ของธนาคารกลางจีน (PBOC)
  • 1) นโยบายการเงินยังผ่อนคลาย แต่ระมัดระวังมากขึ้น: เรามองว่าทำให้ความคาดหวังการลดดอกเบี้ยและ RRR ในปีนี้มีลดลง โดยข้อจำกัดสำคัญที่ทำให้ PBOC ยังพร้อมลดดอกเบี้ย คือ ส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ของธนาคารพาณิชย์อยู่ในระดับต่ำมาก การลดดอกเบี้ยเร็วเกินไปอาจยิ่งกดทับกำไรของภาคธนาคาร ซึ่งจะกระทบเสถียรภาพระบบการเงินโดยตรง
  • 2) เน้น targeted easing แทน broad-based easing: PBOC จึงให้ความสำคัญกับ สินเชื่อแบบเฉพาะจุด (Targeted credit support) เช่น สินเชื่อภาคเทคโนโลยี การผลิตขั้นสูง พลังงานสะอาดและธุรกิจเชิงกลยุทธ์ มากกว่าการกระตุ้นในวงกว้าง
  •  
  • ยอดระดมทุนสุทธิคงค้างในระบบ (Outstanding TSF) ของจีนเดือน ต.ค. ชะลอตัวลงเป็น 8.5% YoY จาก 8.7% เดือนก่อน ต่ำสุดในรอบ 7 เดือน ด้านยอดสินเชื่อเงินหยวน (Outstanding RMB Loans) ชะลอลงต่อเนื่อง 6.3%YoY (vs. 6.4% เดือนก่อน) ขยายตัวต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ สะท้อนความต้องการสินเชื่อจากทั้งภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจที่ยังอ่อนแอ แม้จะมีมาตรการสนับสนุนดอกเบี้ยกู้เพื่อผู้บริโภคในเดือน ก.ย. แล้วก็ตาม โดยสินเชื่อภาคครัวเรือนหดตัว -360 พันล้านหยวน (vs. ขยายตัว 389 เดือนก่อน) และสินเชื่อธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้น 0.35 ล้านล้านหยวน (vs. 1.22 ล้านล้านหยวนเดือนก่อน) สะท้อนว่าภาคเอกชนยังขาดแรงจูงใจในการลงทุนและการกู้ยืมเพิ่มเติม
  • มุมมองของเราสอดคล้องกับรายงานของ PBoC ว่ากลไกการส่งผ่านนโยบายการเงินของ PBoC ยังทำงานได้จำกัดแสดงถึงลักษณะของกับดักสภาพคล่อง คือ เงินหมุนเวียนอยู่ในระบบการเงิน แต่ไม่สามารถถูก channel ไปสู่การลงทุนและการบริโภคจริงในระบบเศรษฐกิจ ท่ามกลางความเชื่อมั่นภาคเอกชนและครัวเรือนที่ยังเปราะบาง และความต้องการสินเชื่อใหม่ที่ยังไม่ฟื้นตัวอย่างแท้จริง
  • สรุปรายงานนโยบายการเงินไตรมาส 3 ของธนาคารกลางจีน (PBOC)
  • 1) นโยบายการเงินยังผ่อนคลาย แต่ระมัดระวังมากขึ้น
  • PBOC คงท่าทีผ่อนคลาย (Easing bias) แต่มีความระมัดระวังมากขึ้น โดยเน้น cross-cyclical adjustments (“adjusting macro policy from the perspective of a medium- to long-term economic cycle to maintain stable macro leverage and prevent systemic financial risks.” Yi Gang, Former governor of the PBoC, 2021) ซึ่งเป็นการพุ่งเป้าไปที่เสถียรภาพในระยะยาวมากกว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น
  • เรามองว่าทำให้ความคาดหวังการลดดอกเบี้ยและ RRR ในปีนี้มีลดลง โดยข้อจำกัดสำคัญที่ทำให้ PBOC ยังพร้อมลดดอกเบี้ย คือ ส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ของธนาคารพาณิชย์อยู่ในระดับต่ำมาก การลดดอกเบี้ยเร็วเกินไปอาจยิ่งกดทับกำไรของภาคธนาคาร ซึ่งจะกระทบเสถียรภาพระบบการเงินโดยตรง
  • อีกทั้ง PBOC ยังให้ความสำคัญกับการปรับปรุงกลไกการส่งผ่านนโยบาย (policy transmission) ระหว่างต้นทุนทางการเงินกับผลตอบแทนสินทรัพย์ของธนาคาร ซึ่งชี้ว่าทางการยังไม่รีบปรับลดดอกเบี้ยในระยะสั้น
  • 2) เน้น targeted easing แทน broad-based easing
    • PBOC จึงเน้นให้จับตา Total Social Financing (TSF) และ ปริมาณเงินในระบบ (Money supply) มากกว่า loan growth โดย ยอดปล่อยกู้เงินหยวนใหม่ (New RMB Loans) ใหม่คิดเป็น 48.3% ของ TSF ในช่วง ม.ค.–ก.ย. 2025 ลดลงจาก 60% ในปีก่อนขณะที่ การระดมทุนโดยตรง (Direct financing) เช่น ตราสารหนี้และหุ้น เพิ่มขึ้นเป็น 44.4% จาก 34.8%
    • ในด้านเครื่องมือนโยบาย PBOC ใช้แนวทางผสมผสานเพื่อรักษาสภาพคล่อง เช่น การซื้อพันธบัตรรัฐบาล (CGB purchases) ข้อตกลงซื้อคืน (repos) การปล่อยกู้ MLF และ การทำ OMO ซึ่งเป็นครั้งแรกหลังหยุดไปตั้งแต่ ม.ค. 2025 เพื่อคงสภาพคล่องให้เพียงพอในช่วงที่เหลือของปี 2025 โดยไม่ต้องเร่งลด RRR หรือดอกเบี้ยในทันที ช่วยรักษาพื้นที่นโยบาย (Policy Space) สำหรับปี 2026
    • ภายใต้กรอบนี้ PBOC จึงให้ความสำคัญกับ สินเชื่อแบบเฉพาะจุด (Targeted credit support) เช่น สินเชื่อภาคเทคโนโลยี การผลิตขั้นสูง พลังงานสะอาดและธุรกิจเชิงกลยุทธ์ มากกว่าการกระตุ้นในวงกว้าง
    • 3) FX และ RMB internationalization จะมีบทบาทมากขึ้น
    PBOC จะเน้นความยืดหยุ่นค่าเงินมากขึ้น พร้อมเร่งผลักดันการระหว่างประเทศของเงินหยวน (RMB internationalization) ซึ่งสะท้อนความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของ FX management และอาจบ่งชี้ว่า PBOC เปิดให้เกิดการแข็งค่าของเงินหยวนแบบค่อยเป็นค่อยไปในระยะถัดไป
Author
Slide3
ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์

หัวหน้านักวิจัยเศรษฐกิจ

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5