SET Index +14% ในเดือน กค. ไปต่อหรือไม่

สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้

สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นโลกอ่อนตัวลงระหว่างสัปดาห์ โดยดัชนี S&P500 ปรับขึ้นได้ต้นสัปดาห์ หลังสหรัฐปิดดีลการค้ากับ EU ที่ 15% และ IMF ปรับเพิ่มประมาณการ GDP โลกปี 2025 ขึ้นเป็น 3.0% สะท้อนผลของแรงส่งในช่วงครึ่งปีแรกจากการเร่งนำเข้าล่วงหน้า (front-loading) อย่างไรก็ตามตลาดปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไร แม้สหรัฐจะทยอยประกาศดีลกับประเทศอื่นในเอเชียอย่างต่อเนื่อง และแรงกดดันจากท่าทีของเฟดที่มีโอกาสลดดอกเบี้ยช้ากว่าคาด หลัง FOMC มีมติ 9 ต่อ 2 ให้คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 4.5% โดยประธานเฟดแถลงว่าดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่เหมาะสม ภายใต้ความไม่แน่นอนจากภาษีนำเข้าของรัฐบาล และเน้นว่าจะทำทุกทางที่จำเป็นเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ GDP สหรัฐฯ 2Q25 ขยายตัว 3.0% QoQ สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 2.5% โดยได้แรงหนุนจากการบริโภคภาคเอกชนและการนำเข้าที่ลดลง ด้านเงินเฟ้อ PCE เดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 2.8%YoY สูงกว่าตลาดคาดที่ 2.7% สะท้อนแรงกดดันเงินเฟ้อที่ยังไม่คลี่คลาย โดยเฉพาะจากต้นทุนสินค้านำเข้า ปัจจัยดังกล่าวข้างต้นทำให้ตลาดปรับลดความคาดหวังการลดดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ลงเหลือต่ำกว่า 2 ครั้ง   ด้านตลาดหุ้น EM ถูกขายทำกำไรเช่นกัน หลังปรับตัวขึ้นมาจากความคาดหวังภาษีการค้าไม่สูงอย่างที่กังวล นอกจากนั้นยังมีแรงกดดันหลังค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น อีกทั้งการประชุม politburo ของจีน ยังไม่มีมาตรการกระตุ้นขนาดใหญ่ออกมาเพิ่มเติม แต่เป็นการเน้นเสถียรภาพในระยะยาว ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้น 14% ในเดือน ก.ค. สะท้อนความคาดหวังภาษีการค้าในระดับที่แข่งขันได้ โดยล่าสุดของไทยอยู่ที่ 19% ใกล้เคียงกับประเทศส่วนใหญ่ในอาเซียน ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นแรง หลังสหรัฐเตรียมกดดันรัสเซียเพิ่มเติม

 

ตลาดหุ้นโลก 

ตลาดหุ้นโลกปรับตัวลงในสัปดาห์นี้จากแรงขายทำกำไร และโอกาสลดดอกเบี้ยของสหรัฐที่น้อยลง โดยมีปัจจัยสำคัญ  (1) ปธน.ทรัมป์ ประกาศข้อตกลงการค้ากับเกาหลีใต้ (15%) อินเดีย (25%) รวมถึงบรรลุข้อตกลงในการขยายเวลาการพักรบทางภาษี กับจีน (2) GDP สหรัฐฯ ไตรมาส 2 ปี 2025 ขยายตัว 3.0% QoQ สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 2.5% (3) การจ้างงานภาคเอกชน ADP เพิ่มขึ้นสูงกว่าคาด

 

ตลาดหุ้นไทย

ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจาก (1) รมว. พาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า สหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงการค้ากับไทยและกัมพูชาแล้ว (2) นายกฯ มาเลเซียนำแถลงการณ์ร่วมกับรักษาการณ์นายกฯ ไทยและนายกฯ กัมพูชา ตกลงหยุดยิงทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข โดยมีทูตจีนและสหรัฐฯ ประจำมาเลเซียเข้าร่วมด้วย (3) ดัชนี MPI เดือน มิ.ย. 68 ขยายตัว 0.58%YoY จากแรงหนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ฟื้นตัว, ส่งออกโตต่อเนื่อง

 

ตลาดพันธบัตร

ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวที่ 4.38% ขณะที่ ระยะสั้น 2 ปีปรับเพิ่มขึ้นที่ 3.95% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ 43bps 
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ลดลงมาอยู่ที่ 1.50% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ลดลงที่ 1.29% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 365 ล้านบาท

 

ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์

ราคาน้ำมัน Brent ปรับขึ้น 3.7%WoW สู่ 71.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากอุปทานที่มีแรงกดดันจาก ปธน. ทรัมป์กดดันรัสเซีย และหนุนจากการเจรจาภาษีศุลกากรสหรัฐฯ ที่ชัดเจน ด้านราคาทองคำ (Spot) ปรับลง 2.33%WoW สู่ 3,289.71 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์

 

ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) แข็งค่าขึ้นที่ 100.05 จุด  ขณะที่ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงที่ 150.64 เยน ด้านค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเป็น 1.14 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงที่ 32.80 บาท ขณะที่เงินหยวนอ่อนค่าลงที่ระดับ 7.20 หยวน