- ภาษีทรัมป์ถูกตั้งคำถามจากศาลฎีกา ผลกระทบจะเป็นอย่างไร
- เทศกาลชอปปิ้งในวันคนโสด ท่ามกลางเศรษฐกิจจีนชะลอ ลงทุนอะไร
สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้
สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นโลกเริ่มเห็นการปรับฐาน หลังมีความเห็นของ CEO ธนาคารขนาดใหญ่ในสหรัฐ ระบุถึง Valuation ที่ตึงตัวของตลาดหุ้นสหรัฐที่อาจนำไปสู่การปรับลดลงของในช่วง 12-24 เดือนข้างหน้า ทำให้นักลงทุนใช้เป็นเป็นจังหวะในการขายทำกำไร หลังตลาดหุ้นปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับลดลง 4% แม้หุ้นในกลุ่ม AI Supply chain ยังรายงานผลประกอบการออกมาดีกว่าคาดก็ตาม ขณะที่กลุ่ม Defensive อย่าง Healthcare ปรับตัวขึ้น 0.8% จากผลประกอบการหุ้นกลุ่มยาที่ออกมาดีกว่าคาด ด้านตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาบ่งชี้ทิศทางการชะลอตัว โดยการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ (ADP) เดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 42,000 ตำแหน่ง สูงกว่าตลาดคาด ถือเป็นการกลับมาขยายตัวครั้งแรกนับจากเดือน ก.ค. แต่ก็ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่า Break-even Employment ที่ราว 80,000 ตำแหน่ง ADP ตัวเลข ISM ผสมผสาน โดย ISM ภาคการผลิตเดือน ต.ค. อยู่ที่ 48.7 ลดลงจากเดือนก่อน ด้าน ISM ภาคบริการเดือน ต.ค. อยู่ที่ 52.4 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ด้านตัวเลขการปลดพนักงานของเอกชนเดือน ต.ค. พุ่งสูงสุดในรอบ 20 ปี ฎีกาสหรัฐฯ แสดงท่าทีไม่เห็นด้วย ต่อการใช้กฎหมาย IEEPA เพื่อจัดเก็บภาษีนำเข้าของ ปธน. ทรัมป์ โดยผู้พิพากษาส่วนใหญ่ตั้งคำถามต่ออำนาจฝ่ายบริหารในการเก็บภาษีว่าเป็นอำนาจของสภาคองเกรส ตลาดหุ้น EM ปรับลงเช่นกัน โดยตัวเลข RatingDog PMI จีน เดือน ต.ค. ภาคบริการและภาคการผลิตลดลงจากเดือนก่อน สะท้อนกิจกรรมเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ตลาดหุ้นไทยอ่อนตัวเล็กน้อยในสัปดาห์นี้ โดยตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ต.ค. หดตัว -0.76% YoY ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 สะท้อนอุปสงค์ในประเทศที่อ่อนแอลงต่อเนื่อง หนุนโอกาสลดดอกเบี้ยของ กนง. ในเดือน ธ.ค. ราคาน้ำมันปรับลดลงจากความกังวลด้านอุปสงค์ และตัวเลขสต๊อกของสหรัฐเพิ่มากกว่าคาด
ตลาดหุ้นโลก
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา (1) การจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ (ADP) เดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 42,000 ตำแหน่ง สูงกว่าตลาดคาดที่ 30,000 ตำแหน่ง ก.ค. แต่ก็ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่า Break-even Employment (2) ศาลฎีกาสหรัฐฯ แสดงท่าทีไม่เห็นด้วย ต่อการใช้กฎหมาย IEEPA ของ ปธน. ทรัมป์ (3) ISM PMI ดีขึ้นในภาคบริการแต่ชะลอลงในภาคการผลิต
ตลาดหุ้นไทย
ตลาดหุ้นไทยอ่อนตัวเล็กน้อยในสัปดาห์ที่ผ่านมา (1) ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) ของไทยเดือน ต.ค. หดตัว -0.76%YoY ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัว 0.61%YoY ชะลอลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 (2) ครม.เศรษฐกิจเห็นชอบแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้ภาคประชาชน ผ่านกลไกการซื้อหนี้ของบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) คาดว่าจะมีลูกหนี้ที่เข้าข่ายช่วยเหลือ 2.36 ล้านบัญชี มูลหนี้ 62,400 ล้านบาท
ตลาดพันธบัตร
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับลดลงที่ 4.08% ขณะที่ระยะสั้น 2 ปีปรับลดลงที่ 3.55% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ 53 bps
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้นที่ 1.78% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี เพิ่มขึ้นสู่ 1.37% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 3,642 ล้านบาท
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ราคาน้ำมัน Brent ปรับลง 2.49%WoW สู่ 63.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล OPEC+ เพิ่มการผลิตต่อใน ธ.ค. 2568 อีก 137kBD และเห็นสัญญาณอุปสงค์อ่อนแอจากภาคการผลิตทั่วโลกชะลอ ราคาทองคำ (Spot) ลดลง 0.64%WoW สู่ 3,977.03 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) แข็งค่าขึ้นที่ 99.69 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นที่ 152.91 เยน ด้านค่าเงินยูโรทรงตัวที่ 1.16 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงที่ 32.4 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่เงินหยวนทรงตัวที่ระดับ 7.12 หยวน
