สรุปสาระสำคัญ
แนะนำเข้าลงทุนหุ้นเทคโนโลยีจีนขนาดใหญ่ > 6 เดือน (Theme Play) มอง Target ผ่านดัชนี Hang Seng Tech ที่ 7,750 จุด (+20.0%) และ Stop loss ที่ 5,550 จุด (-13.8%) ทั้งนี้ การตัดสินใจเข้าหรือออกจาก position จะพิจารณาปัจจัยพื้นฐานและ sentiment ของตลาดในขณะนั้นร่วมด้วย
- Event: การปรากฏตัวของ แจ็ค หม่า ในช่วงกลางเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา ต่อหน้าสาธารณะชนเป็นหนึ่งปัจจัยให้นักลงทุนกลับมามีความเชื่อมั่นต่อบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของจีนมากขึ้น หลังจากที่รัฐบาลจีนได้มีการพบปะผู้บริหารบริษัทเอกชนไปแล้วในต้นปีที่ผ่านมา ประกอบกับการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดมีแนวโน้มหนุนหุ้นเทคโนโลยีทั่วโลก โดยหุ้นเทคโนโลยีของจีนมีความน่าสนใจจาก Valuation ที่ยังไม่แพงเมื่อเปรียบเทียบกับหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ มีโอกาสจะซื้อขายบนระดับ PE ที่สูงขึ้น (re-rate)
- Fundamental: นโยบายของรัฐบาลจีนที่ดำเนินมาตลอดทั้งปี 2025 เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ บริษัทเอกชน และกลุ่มเทคโนโลยีจีน จะสนับสนุนกำไรบริษัทเทคโนโลยีจีนให้เติบโตต่อเนื่อง โดย Bloomberg consensus คาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนใน Hang Seng Tech Index ในปี 2026-2027 จะกลับมาเติบโต
- Technical: ดัชนี Hang Seng Tech เริ่มแสดงสัญญาณปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อหลังย่อตัวมาทดสอบแนวรับบริเวณ 6,100 จุด และฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้าน MACD และ RSI บ่งชี้ว่า ดัชนียังมีแนวโน้มอยู่ในตลาดขาขึ้น (Bullish)
- แนะนำกองทุน: KFCHINA-T10PLUS-A ลงทุนหุ้นเทคโนโลยีจีนชั้นนำ 10–11 บริษัท แบบ Rule-based และ Equal-weight ช่วยกระจายความเสี่ยง เน้น Cloud, E-Commerce, FinTech และดิจิทัลที่มีศักยภาพเติบโตสูง
[Theme play คือ กลยุทธ์ที่มองหาโอกาสการลงทุนจากปัจจัยพื้นฐาน การปรับเปลี่ยนเชิงโครงสร้าง เทรนด์ และแนวโน้มการลงทุนใหม่ๆ ที่เป็นโอกาสการลงทุน]
Event
- การปรากฏตัวของ แจ็ค หม่า ในช่วงกลางเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา ต่อหน้าสาธารณะชน พร้อมกับการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญของ Alibaba เป็นหนึ่งปัจจัยให้นักลงทุนกลับมามีความเชื่อมั่นต่อบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของจีนมากขึ้น หลังจากที่รัฐบาลจีนได้มีการพบปะผู้บริหารบริษัทเอกชนไปแล้วในต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งมีโอกาสให้ Valuation ของหุ้นจีนที่ถูกเมื่อเปรียบเทียบกับหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ มีโอกาสจะซื้อขายบนระดับ PE ที่สูงขึ้น (re-rate)
- Alibaba เปิดเผยแผนการลงทุนใน AI ราว 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯในอีก 3 ปี พร้อมขยาย data center ไปยังต่างประเทศ และมีการจับมือการทำ physical AI กับ NVIDIA มีแนวโน้มช่วยสนับสนุนหุ้นในห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวกับ AI ของจีน รวมทั้งส่งเสริมบรรยากาศการลงทุนหุ้นกลุ่ม Cloud และเทคโนโลยีของจีน
- Fed ที่กลับมาปรับลดอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มสนับสนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทั่วโลก โดยคาดว่ามีโอกาสที่กระแสเงินทุนจะไหลเข้าสู่หุ้นเทคโนโลยีจีนมากขึ้น จาก Valuation ที่ยังไม่แพง เมื่อเปรียบเทียบกับหุ้นเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ในขณะที่ EPS ของหุ้นเทคโนโลยีจีนเริ่มกลับมาเติบโต
ภาพที่ 1: PE ของ HSTECH อยู่ต่ำกว่า Mag7 และยังอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย มีโอกาสให้ HSTECH สามารถซื้อขายบน PE ที่สูงขึ้นหากความเชื่อมั่นต่อหุ้นเทคฯจีนกลับมา

Source: InnovestX Investment Products & Strategy, Bloomberg as of 25 Sep 2025
Fundamental
- นโยบายของรัฐบาลจีนที่ดำเนินมาตลอดทั้งปี 2025 เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ บริษัทเอกชน และกลุ่มเทคโนโลยีจีน อาทิ มาตรการให้เงินสนับสนุนสำหรับบริษัทเทคโนโลยี (State Venture Capital Guidance Fund), Trade-in Program มาตรการควบคุมการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม (Anti involution), มาตรการสนับสนุนการผลิตชิปภายในประเทศ ตั้งเป้าใช้ชิปภายในประเทศ 70% ภายในปี 2027 ประกอบกับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ AI ของจีนที่กำลังขยายตัว จะสนับสนุนกำไรบริษัทเทคโนโลยีจีนให้เติบโตต่อเนื่อง โดย Bloomberg consensus คาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนใน Hang Seng Tech Index ในปี 2026-2027 จะกลับมาเติบโตในระดับ 40% และ 20% ตามลำดับ ซึ่งสูงกว่ากลุ่ม Mag7 ทั้งปี 2026 และ 2027
- Fed ที่กลับมาปรับลดอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มสนับสนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทั่วโลก โดยคาดว่ามีโอกาสที่กระแสเงินทุนจะไหลเข้าสู่หุ้นเทคโนโลยีจีนมากขึ้น จาก Valuation ที่ยังไม่แพง เมื่อเปรียบเทียบกับหุ้นเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ในขณะที่ EPS ของหุ้นเทคโนโลยีจีนเริ่มกลับมาเติบโต
ภาพที่ 2: EPS ของ Hang Seng Tech กลับมาเติบโตอีกครั้ง และสูงกว่า Mag7 ในปี 2026-2027

Source: InnovestX Investment Products & Strategy, Bloomberg as of 25 Sep 2025
- ในขณะที่ Valuation ของหุ้นเทคโนโลยีจีนอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ย สะท้อนจาก Forward P/E ของดัชนี Hang Seng Tech อยู่ที่ 21.3 เท่า vs ค่าเฉลี่ย 5 ปี ที่ราว 24 เท่า ในขณะที่คาดการณ์ว่า EPS ของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจีนที่กลับมาเติบโต พร้อมกับความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้น มีโอกาสให้ PE ขยายตัวขึ้น โดยอาจใกล้เคียงระดับสูงสุดในปี 2022 - 2023 ที่ระดับ 26.4 เท่าหรือ + 0.5 S.D.
Technical
- ดัชนี Hang Seng Tech เริ่มแสดงสัญญาณปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อหลังย่อตัวมาทดสอบแนวรับบริเวณ 6,100 จุด และฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว มีโอกาสทะลุแนวต้านบริเวณ 6,470 จุด
- MACD Indicator ที่เหนือศูนย์ และ RSI ที่ยังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่า ดัชนียังมีแนวโน้มอยู่ในตลาดขาขึ้น (Bullish)
ภาพที่ 3: ดัชนี HSTECH ฟื้นตัวหลังทดสอบแนวรับบริเวณ 6100 มีโอกาสที่ดัชนีจะกลับตัวเป็นขาขึ้น

Source: InnovestX Investment Products & Strategy, Bloomberg as of 25 Sep 2025
ดังนั้น เราจึงแนะนำลงทุนหุ้นเทคจีน หลังความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับแนวโน้มการเติบโตของ EPS ที่กลับมาเป็นบวก จะหนุนให้ Valuation ของบริษัทเทคโนโลยีจีนที่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยสามารถ มีโอกาส Re-rating ได้ต่อเนื่อง
กองทุนแนะนำ: KFCHINA-T10PLUS-A ลงทุนหุ้นเทคโนโลยีจีนชั้นนำ 10–11 บริษัท แบบ Rule-based และ Equal-weight ช่วยกระจายความเสี่ยง เน้น Cloud, E-Commerce, FinTech และดิจิทัลที่มีศักยภาพเติบโตสูง
กองทุนแนะนำ: KFCHINA-T10PLUS-A
จาก Universe กองทุนรวมที่ลงทุนหุ้นเทคโนโลยีจีนที่ลงทุนใน H-shares เป็นหลัก 3 กองทุน (Update as of 31 Aug 2025) ได้แก่ DAOL-CHINATECH, KFCHINA-T10PLUS-A, MEGA10AICHINA-A

Source: Fund Factsheet
แนวทางการพิจารณาคัดเลือกกองทุน KFCHINA-T10PLUS-A
เนื่องจากกองทุน KFCHINA-T10PLUS-A เป็นเพียงกองทุนเดียวลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ที่อ้างอิง Hang Seng TECH Index และมีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งตอบโจทย์กลยุทธ์การลงทุน เราจึงทำการคัดเลือกกองทุนดังกล่าว

Source: Fund Fact Sheet
สรุปจุดเด่นของกองทุน KFCHINA-T10PLUS-A
- กองทุน KFCHINA-T10PLUS-A เป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีจีนขนาดใหญ่ในตลาดหุ้นฮ่องกง
- ใช้หลักการ Rule-based เพื่อคัดเลือกหุ้น 10-11 อันดับแรกที่มีขนาดใหญ่สุดใน Hang Seng TECH Index
- มีการกำหนดน้ำหนักหุ้นรายตัวแบบเท่ากัน (Equal Weight) เพื่อให้มีการกระจายความเสี่ยงและเปิดรับโอกาสการเติบโตของทุกบริษัทอย่างสมดุล
- ใช้หลักการ Cash flow rebalance เพื่อรักษาน้ำหนักในแต่ละหลักทรัพย์ให้ใกล้เคียงพอร์ตการลงทุนเป้าหมาย พร้อมทั้งทบทวนพอร์ตตามรอบของดัชนีเป็นรายไตรมาสซึ่งสอดคล้องกับดัชนีอ้างอิง
- Hang Seng TECH Index เป็นดัชนีที่ใช้สะท้อนผลการดำเนินงานของ 30 บริษัทเทคโนโลยีจีนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตลาดฮ่องกง ซึ่งจะมีการกำหนดน้ำหนักหุ้นรายตัวไม่เกิน 8% และมีการ Rebalance ทุกไตรมาสเพื่อสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของตลาด
- หุ้นที่ลงทุนล่าสุด 5 ตัวแรก (29 Aug 2025) ได้แก่ Trip.com, Tencent, BYD, Xiaomi, NetEase
กองทุนเปิดกรุงศรี China Tech 10 Plus (KFCHINA-T10PLUS) เป็นกองทุนในกลุ่ม China Technology ที่ลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ที่มีการดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับธีมเทคโนโลยี โดยมุ่งเน้นลงทุนในบริษัทที่อยู่ในดัชนี Hang Seng TECH หรือหุ้นของบริษัทที่ลักษณะธุรกิจมีความเกี่ยวข้องกับธีมเทคโนโลยี ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอยู่ในระดับสูงและมีสภาพคล่อง
กองทุนมีกระบวนการลงทุนโดยค้นหาหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตจากดัชนี Hang Seng TECH ซึ่งเป็นหนึ่งในดัชนีชั้นนำของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีจีน และคัดเลือกหุ้นที่ผ่านเกณฑ์ตามหลักการ Rule-based โดยจะจัดอันดับหุ้นที่ผ่านเกณฑ์ เพื่อคัดเลือกหลักทรัพย์ที่น่าสนใจที่สุดประมาณ 10-11 หลักทรัพย์ และวิเคราะห์มูลค่าตลาดเพื่อประเมินขนาดและความมั่นคง รวมถึงตรวจสอบสภาพคล่องในการซื้อขายหลักทรัพย์
หลังจากนั้นจะนำหุ้นที่ผ่านการคัดเลือก 10-11 บริษัทมาจัดสรรน้ำหนักการลงทุนเท่าๆ กัน เพื่อช่วยกระจายความเสี่ยง และเปิดรับโอกาสเติบโตของทุกบริษัทอย่างสมดุล พร้อมทั้งมีการใช้หลักการ Cash flow rebalance เพื่อรักษาน้ำหนักในแต่ละหลักทรัพย์ให้ใกล้เคียงพอร์ตการลงทุนเป้าหมาย พร้อมทั้งทบทวนพอร์ตตามรอบของดัชนีเป็นรายไตรมาสซึ่งสอดคล้องกับดัชนีอ้างอิง
ทั้งนี้กองทุนอาจมีการเพิ่มประสิทธิภาพในกับกองทุนโดยมีการลงทุนใน Hang Seng Tech ETF บางส่วน เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทดแทนการถือครองเงินสด แต่ยังคงรักษาการเคลื่อนไหวให้สอดคล้องกับตลาด
โดย Hang Seng TECH Index จะเป็นดัชนีที่รวบรวม 30 บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่สุดในตลาดฮ่องกง โดยหลักการคัดเลือกจะเริ่มจากการพิจารณาหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรม Information Technology, Industrials, Consumer Discretionary, Healthcare และ Financials หลังจากนั้นจะพิจารณาหุ้นที่มีธุรกิจเกี่ยวข้องกับธีมเทคโนโลยีในระดับสูง เช่น Autonomous, Cloud, Digital, E-Commerce, FinTech or Internet (Including Mobile) และพิจารณาเรื่องการนำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้กับธุรกิจด้วยการพิจารณามูลค่าการลงทุนในส่วนของ Research & Development หรือการเติบโตของรายได้บริษัท เพื่อให้ได้หุ้น 30 อันดับแรกที่มีขนาดใหญ่สุดและตรงตามเงื่อนไขของดัชนี และจะมีการ Cap น้ำหนักหุ้นรายตัวไม่ให้เกิน 8% ของดัชนี ทั้งนี้ดัชนีจะมีการ Review ดัชนีในทุกๆ ไตรมาสเพื่อให้ดัชนีสามารถสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างเหมาะสม
ตัวอย่างหุ้น 5 ตัวแรกที่พอร์ตการลงทุนถืออยู่ (Update as of 29 Aug 2025)
- Trip.com เป็นบริษัทผู้ให้บริการแพลตฟอร์มจองที่พัก ตั๋วเครื่องบิน รถไฟ และทัวร์แบบครบวงจร
- Tencent เป็นบริษัทเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ของจีน มีธุรกิจหลากหลายตั้งแต่โซเชียลมีเดีย เกมออนไลน์ บริการคลาวด์ ไปจนถึงการลงทุนในนวัตกรรมดิจิทัลระดับโลก
- BYD เป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารายใหญ่จากประเทศจีน
- Xiaomi เป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของจีน ผลิตและจำหน่ายสมาร์ทโฟน อุปกรณ์อัจฉริยะ และสินค้า IoT
- NetEase เป็นบริษัทผู้ผลิตและให้บริการเกมออนไลน์และบริการเสริมที่เกี่ยวข้อง
ผลการดำเนินงานย้อนหลัง
เนื่องจากกองทุน KFCHINA-T10PLUS-A พึ่งจัดตั้งเมื่อ 25 Jul 2025 จึงยังมีผลการดำเนินงานที่สั้น
โดยดัชนีอ้างอิง Hang Seng TECH Index มีผลตอบแทนเฉลี่ยย้อนหลัง (as of 31 Aug 2025) ดังนี้
- ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 59.4%
- ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี 32.8%
- ผลตอบแทนย้อนหลัง 5 ปี -24.8%
คำเตือน: กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะ เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงของกองทุนรวมก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่บล.อินโนเวสท์ เอกซ์