Update การเมืองฝรั่งเศส: นายกฝรั่งเศสแพ้ในการโหวตไม่ไว้วางใจ ด้าน Macron เตรียมเลือกนายกใหม่ หากทำสำเร็จจะช่วยคลายความกังวลในหุ้นฝรั่งเศสและยุโรป
By INVX Investment Products & Strategy
9 กันยายน 2025
ผลโหวตรัฐสภาฝรั่งเศสมีมติไม่ไว้วางใจนายก François Bayrou
รัฐสภาฝรั่งเศสลงมติไม่ไว้วางใจนายก François Bayrou ด้วยคะแนน 364 ต่อ 194 ส่งผลให้นายกลาออกทันทีสาเหตุหลักมาจากแผนลดงบประมาณรัดเข็มขัดจำนวน 4.4 หมื่นล้านยูโร เพื่อลดการขาดดุลจากระดับ 5.8% สู่ระดับ 4.6% ในปี 2026 แต่ทั้งฝ่ายซ้ายและขวาไม่สนับสนุน
ความไม่แน่นอนนี้จะคลี่คลายลงหากจัดตั้งนายกได้เร็ว
ความไม่แน่นอนของนโยบายรัฐบาลจะเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้การจัดงบประมาณแผ่นดินและโครงการรัฐมีโอกาสล่าช้า ขาดการตัดสินใจที่ชัดเจน หากสามารถแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ภารกิจสำคัญ เช่น การเสนอร่างงบประมาณ การบริหารหนี้และมาตรการเศรษฐกิจ จะดำเนินต่อได้อย่างต่อเนื่อง ลดโอกาสที่โครงการรัฐและภาครัฐต้องชะลอหรือหยุดไว้ชั่วคราว
Emmanuel Macron เลือกแต่งตั้งนายกแทนการยุบสภา
ประธานาธิบดี Emmanuel Macron ปฏิเสธข้อเรียกร้องให้ยุบสภา โดยจะดำเนินการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ภายในไม่กี่วัน เพื่อรักษาความต่อเนื่องทางนโยบาย ลดความเสี่ยงสุญญากาศทางการเมือง และหลีกเลี่ยงความไม่แน่นอนจากการเลือกตั้งใหม่ซึ่งอาจใช้เวลานานและเพิ่มแรงกดดันต่อเศรษฐกิจ โดยภารกิจสำคัญของรัฐบาลใหม่คือการผลักดันร่างงบประมาณผ่านสภา ท่ามกลางความแตกแยกทางการเมือง
โดยระหว่างวันที่ 9–14 กันยายนนี้คือช่วงที่ Macron เจรจากับพรรคการเมืองต่าง ๆ เพื่อหาเสียงสนับสนุนและเลือกบุคคลที่เหมาะสม เมื่อได้รายชื่อแล้ว นายกรัฐมนตรีคนใหม่จะเริ่มตั้งคณะรัฐมนตรีและนำเสนอรายชื่อเข้าสู่การรับรองจากรัฐสภา คาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ หากการเจรจาเป็นไปด้วยดี รัฐมนตรีชุดเดิมจะปฏิบัติหน้าที่รักษาการจนกว่าจะได้รัฐบาลใหม่ที่มีเสถียรภาพและเสียงสนับสนุนมากพอในการเดินหน้านโยบายสำคัญต่อไป
รัฐบาลใหม่มีแนวโน้มใช้นโยบายรัดเข็มขัดน้อยลง
นโยบายการคลังของรัฐบาลใหม่ที่มีแนวโน้มผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อเทียบกับรัฐบาลเดิม จะส่งผลให้การใช้จ่ายภาครัฐฟื้นตัวเร็วขึ้น ลดแรงกดดันต่อธุรกิจและครัวเรือนในระยะสั้น ช่วยประคองกิจกรรมทางเศรษฐกิจไม่ให้ชะลอตัวแรง อย่างไรก็ตาม ในระยะกลางและยาว หากการลดขาดดุลดำเนินไปอย่าง “ค่อยเป็นค่อยไป” ขาดดุลงบประมาณยังคงสูง อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกปรับลดระดับเครดิต รัฐบาลใหม่จึงต้องรักษาสมดุลระหว่างการกระตุ้นเศรษฐกิจและวินัยทางการคลัง
มุมมองและกลยุทธ์การลงทุน
ดัชนี STOXX 600 ที่เป็นหนึ่งในดัชนีหลักของหุ้นยุโรป มีการลงทุนในหุ้นฝรั่งเศสราว 16.6% การเมืองของฝรั่งเศสจึงมีผลต่อการลงทุนในหุ้นยุโรปโดยรวม ทั้งนี้รัฐสภาฝรั่งเศสลงมติไม่ไว้วางใจนายก François Bayrou เป็นสิ่งที่ตลาดได้คาดการณ์ไว้อยู่แล้วในช่วงปลายเดือน ส.ค. 25 หลังนายก Bayrou ขอโหวตไว้วางใจ (Confidence Vote) ในขณะที่ฝ่ายค้านแถลงไม่สนับสนุนนายก Bayrou ส่งผลให้ดัชนี CAC40 ปรับตัวลดลงราว -3% ในวันที่ 25-26 ส.ค. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามประธานาธิบดี Emmanuel Macron ต้องการจะเลือกนายกใหม่แทนการยุบสภา หากสามารถรวบรวมเสียงจากพรรคต่างๆได้ จะหนุนให้สถานการณ์การเมืองฝรั่งเศสคลี่คลายได้เร็ว ซึ่งเป็นผลบวกต่อหุ้นฝรั่งเศสและยุโรป แต่หากเลือกนายกไม่สำเร็จนำไปสู่การยุบสภาจะส่งผลให้หุ้นฝรั่งเศสและยุโรปมีความผันผวนต่อเนื่องไปอีกราว 2 เดือน
ทั้งนี้เรายังคงมุมมองว่า ความไม่แน่นอนของการเมืองฝรั่งเศสจะเป็นเพียงผลระยะสั้น และในระยะกลางหุ้นยุโรปยังคงมีแนวโน้มได้รับผลบวกจากเศรษฐกิจที่ค่อยๆฟื้นตัว ในขณะที่เงินเฟ้ออยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ด้าน EPS Growth ในปี 2026 มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นสู่ระดับ 10% ในขณะที่มี Forward PE 12 months อยู่ที่ระดับ 14.6x ใกล้เคียงค่าเฉลี่ย 5 ปี หากกองทุน ES-EG-A ที่เราแนะนำมีการลงทุนในหุ้นฝรั่งเศสเพียง 13.3% ต่ำกว่าดัชนีอ้างอิง โดยใช้ข้อมูลจาก Factsheet ณ วันที่ 31 ก.ค. 2025 ด้วยเหตุผลดังกล่าว เราจึงแนะนำนักลงทุนติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์ และอาจพิจารณาเข้าซื้อสะสมหลังเห็นความชัดเจนขึ้นในการเลือกนายกคนใหม่