โดยรวมแล้ว Terrific 10 สะท้อนภาพเศรษฐกิจจีนที่ “2 Speed” คือ ภาคเทคโนโลยีใหม่ AI, ชิป, EV (ภาพอุตฯโดยรวม) มีแรงหนุน แต่ภาคการบริโภคและแพลตฟอร์มออนไลน์ยังเผชิญแรงกดดันจากการแข่งขันรุนแรงและกำลังซื้อที่เปราะบาง
โดยหุ้นที่เราชอบและแนะลงทุนคือ 1) Xiaomi 2) Tencent 3) Kuaishou 4) SMIC ส่วนหุ้นที่แนะชะลอการลงทุนเพื่อติดตามความชัดเจนในการดำเนินงานและการทำกำไร คือ 1) Alibaba 2) JD.com 3) Meituan 4) BYD 5) Baidu และ 6) NetEase
ในช่วง 2Q25 เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวอย่างไม่สม่ำเสมอ โดยภาคการผลิตและการลงทุนในเทคโนโลยียังได้รับแรงหนุนจากนโยบาย “Made in China” และการสนับสนุนด้านเซมิคอนดักเตอร์และยานยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ขณะที่การบริโภคภายในประเทศยังอ่อนแรงและแข่งขันสูงในธุรกิจออนไลน์ ทำให้ผู้เล่น E-commerce หลายรายเผชิญแรงกดดันจากการลดราคาและการอุดหนุนผู้บริโภค
สำหรับ กลุ่มเทคโนโลยีและสื่อสาร (Tencent, NetEase, Kuaishou, Baidu) ได้รับอานิสงส์จากการใช้งานออนไลน์และความก้าวหน้าในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ยังสามารถสร้างการเติบโตจากเกมและโฆษณา แต่อย่างไรก็ดีเริ่มมีการเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ใช้และการแข่งขันรุนแรง
กลุ่ม E-commerce (Alibaba, JD.com, Meituan) เผชิญการแข่งขันราคาและแรงกดดันจากการทุ่มอุดหนุนผู้ใช้ ทำให้แม้รายได้โตต่อเนื่อง แต่กำไรหดตัวมาก ตลาดมองว่าธุรกิจจะต้องใช้เวลาอีกระยะเพื่อกลับสู่ความยั่งยืนด้านกำไร
กลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าและ IoT (BYD, Xiaomi) ได้แรงหนุนจากนโยบายรัฐและความต้องการ NEV แต่สงครามราคาทวีความรุนแรงขึ้นและกดดันกำไรของกลุ่ม
กลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ (SMIC) เป็นผู้ชนะจากกระแส Localization โดยจีนต้องการพึ่งพาการผลิตชิปในประเทศมากขึ้น
China Terrific 10 Earnings 2Q25
ภาพรวมผลประกอบการ 2Q25 (1)
Tencent (+) รายงานงบ 2Q25 ที่แข็งแกร่งกว่าคาด โดยรายได้เพิ่มขึ้น 15% YoY และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 17% YoY โดยมีแรงหนุนจาก 1) ธุรกิจเกม โดยรายได้เกมในประเทศเพิ่มขึ้น 17% YoY และเกมต่างประเทศเพิ่มขึ้น 35% YoY 2) รายได้จากโฆษณาที่เติบโตถึง 20% YoY ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกำหนดเป้าหมายโฆษณา นอกจากนี้ บริษัทกำลังเร่งการลงทุนในด้าน AI เพื่อนำมาผนวกเข้ากับบริการหลักและคอนเทนต์ต่างๆ ไม่ได้มุ่งเน้นการสร้างแพลตฟอร์มใหม่เหมือนคู่แข่งรายอื่น
NetEase (-) รายงานผลประกอบการ 2Q25 ที่ต่ำกว่าคาดการณ์การเล็กน้อย ทั้งรายได้และ EPS โดยมีรายได้รวม +9.4% YoY และรายได้จากเกมและบริการที่เกี่ยวข้อง +14% YoY ก็ต่ำกว่าที่คาด แม้ไม่มีการเปิดตัวเกมใหม่ขนาดใหญ่ในไตรมาสนี้ แต่เกมหลักเดิม ยังทำผลงานดีต่อเนื่องผ่านการอัปเดตและเปิดเซิร์ฟเวอร์ใหม่ ด้านแนวโน้มและ Pipeline เกมใหม่ในอนาคต ใน 3-6 เดือนข้างหน้าจะค่อนข้างเบาบาง ทำให้ตลาดอาจคาดหวังการเติบโตจำกัดในระยะสั้น
Baidu (-) กลับรายงานรายได้หดตัว -3.6% YoY เหตุเพราะรายได้จากโฆษณาผ่าน search engine ลดลงถึง -15% YoY สะท้อนการสูญเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับแพลตฟอร์มโซเชียล/วิดีโอ เช่น Douyin (TikTok) และ Xiaohongshu แม้ธุรกิจ Cloud และ AI services ยังเติบโตดี แต่เป็นธุรกิจ margin ต่ำ กดดัน gross margin รวมลงเหลือ 43.9% (เทียบกับ 51.7% ปีก่อน) ส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานปรับลด -41% YoY แม้จะมีกำไรสุทธิสูงกว่าคาดจากรายการพิเศษ แต่แนวโน้มหลักยังเผชิญแรงกดดันหนัก
Xiaomi (+) รายงานรายได้เติบโตแข็งแกร่ง +30% YoY แต่มาจากการเพิ่มขึ้นของธุรกิจ EV (+197% YoY) และ IoT (+45% YoY) มากกว่าสมาร์ทโฟนที่หดตัวเล็กน้อย -2% YoY แม้สมาร์ทโฟนยังเป็นธุรกิจหลัก แต่กำไรและกระแสการเติบโตหนุนโดย EV และ AIoT ซึ่งสร้าง gross margin สูงถึง 26.4% ทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 134% YoY ดีกว่าตลาดคาดการณ์อย่างมีนัยสำคัญ
Kuaishou Technology (+) มีผลประกอบการแข็งแรง รายได้ +13% YoY สู่ 35 พันล้านหยวน สูงกว่าคาดทุกด้าน ทั้ง Online marketing (+13% YoY), Live streaming (+8% YoY), และ E-commerce GMV โต +17.6% YoY กำไรสุทธิปรับตัว +24% ดีกว่าคาด (5.6 พันล้านหยวน) พร้อม Gross margin ขยับขึ้นเล็กน้อยสู่ 55.7% นอกจากนี้บริษัทยังประกาศจ่าย Special dividend และขยายการลงทุนใน AI tools อย่าง “Kling AI” ซึ่งสร้างรายได้กว่า 250 ล้านหยวนในไตรมาสเดียว
Alibaba (-) AI และ Cloud หนุนผลประกอบการ แม้สงครามราคาอีคอมเมิร์ซกดดัน โดยรายได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพียง +2% YoY ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานลดลง -3% YoY ต่ำกว่าที่คาด แต่สามารถชดเชยด้วย การเติบโตโดดเด่นในธุรกิจ AI และ Cloud โดยรายได้จาก AI-related products โตสามหลัก และ Cloud โต +26% ดีกว่าที่ตลาดคาด ธุรกิจหลักอีคอมเมิร์ซยังถูกกดดันจากการแข่งขันรุนแรง ซึ่งทำให้ Ele.me ต้องทุ่มเงินอุดหนุนเพื่อรักษาส่วนแบ่ง
JD.com (-) รายงานรายได้ 2Q25 ที่ 356.7 พันล้านหยวน (+22% YoY) สูงกว่าคาดราว 6% จากแรงหนุนของ มาตรการอุดหนุนการบริโภคของภาครัฐ และการจัดโปรโมชั่นลดราคา อย่างไรก็ดี ธุรกิจใหม่ (Food delivery + Jingxi) ขาดทุน 15,000 ล้านหยวน สูงกว่าที่คาด เนื่องจากบริษัทยังลงทุนต่อเนื่องเพื่อสร้าง Ecosystem ด้านบริการส่งอาหารและช้อปปิ้งแบบทันที ส่งผลให้กำไรสุทธิอยู่ที่ 7.4 พันล้านหยวน ลดลงเกือบครึ่ง YoY
Meituan (-) รายงานรายได้ 2Q25 +12% YoY ต่ำกว่าตลาดคาดเล็กน้อย ด้านกำไรสุทธิร่วงหนัก -97% YoY จากการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจ food delivery และ instant retail การแข่งขันทำให้ Operating Margin ของธุรกิจ local commerce ลดลงเหลือ 5.7% จากค่าเฉลี่ย 4 ปีที่ 19% ต้นทุนด้านโลจิสติกส์และ incentive เพิ่มขึ้นมากกว่า 49% ใน 1H25 สูงกว่าการเติบโตของรายได้ สำหรับแนวโน้ม Meituan เตือนว่าจะเผชิญ ขาดทุนหนักใน 3Q25 เนื่องจากต้องป้องกัน market share ในธุรกิจหลัก แม้ขาดทุนมากขึ้นก็ตาม
BYD (-) รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2Q25 ลดลงแรง -30% YoY เหลือ 6.36 พันล้านหยวน ต่ำกว่าตลาดคาด ขณะที่รายได้อยู่ที่ 200.9 พันล้านหยวน ต่ำกว่าคาดเช่นกัน สาเหตุหลักคือการทำ โปรโมชั่นลดราคาอย่างหนัก ในตลาดจีน ส่งผลให้ gross margin หดตัวเหลือ 16.3% ต่ำสุดตั้งแต่ปี 2023 แม้ BYD ยังรักษาตำแหน่งผู้ผลิต EV อันดับหนึ่งของโลก โดยขายรถได้ 2.15 ล้านคันในครึ่งปีแรก (+33% YoY) แต่คิดเป็นเพียง ~40% ของเป้าหมายทั้งปีที่ 5.5 ล้านคัน ณะเดียวกัน ยอดขาย รถ Hybrid หดตัว สวนทางกับ EV ที่ยังเติบโตได้ดี
SMIC (+) มีรายอยู่ที่ $2,209mn ลดลง 2% QoQ แต่เพิ่มขึ้น 16% YoY สูงกว่าที่ตลาดคาดราว 2–4% จากอัตราการใช้กำลังการผลิต (UT rate) เพิ่มเป็น 92.5% จาก 89.6% ในไตรมาสก่อน ทำให้ Gross Margin อยู่ที่ 20.4% สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ดีกำไรสุทธิอยู่ที่ $132.5mn ลดลง 19% YoY และ 30% QoQ จากค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่สูงขึ้นโดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้าน R&D และการดำเนินงานที่ปรับสูงขึ้นตามการขยายตัวของโรงงานใหม่