Keyword
PDF Available  
Special Report - Thai Stocks

Energy at play - โรงไฟฟ้าเด่น ต้นทุน SPP ลดลง-ลงทุนสหรัฐฯ แกร่ง

2 Sep 25 7:51 AM
สรุปสาระสำคัญ
  • สัปดาห์ก่อน Brent +0.5%WoW, GRM -8.4%, ถ่านหิน (NEX) -1.1%, ราคาก๊าซ US +7.7%
  • กลุ่ม O&G -2.1%WoW, โรงกลั่น -2.2%, ปิโตรเคมี -3.1%, ไฟฟ้า +4.2%, ถ่านหิน -1.7%
  • อุปทาน LNG มีแนวโน้มผ่อนคลายลง, อุปสงค์คาดชะลอตามฤดูกาล และคาดยุโรปจะเติมก๊าซฯ ได้ตามแผน ลดแรงกดดันต่อต้นทุนก๊าซฯ เป็นบวกต่อ SPP แนะเก็งกำไรระยะสั้น GPSC, สะสม GULF ด้านการลงทุนในสหรัฐฯ เป็นบวกต่อเนื่องจากปัญหาคอขวดอุปสงค์ไฟฟ้า สะสม BCPG
  • อุปทานน้ำมันสำเร็จรูปเสี่ยงชะงักระยะสั้น โรงกลั่นตะวันออกกลางมีกำหนดทยอยซ่อมบำรุงใน 4Q25 และรัสเซียมีข้อจำกัดส่งออกจากการโจมตีโดยยูเครนและนโยบาย เป็นบวกระยะสั้นต่อโรงกลั่น รับความเสี่ยงสูงได้ แนะเก็งกำไรระยะสั้น TOP จับตาอุปทานเพิ่มเติมจากจีนและสหรัฐฯ

ต้นทุนก๊าซฯ-LNG ผ่อนคลายตามภาวะอุปทาน ความต้องการไฟฟ้าสหรัฐฯ ยังมีปัญหาคอขวด

 

การแย่งชิงอุปทาน LNG มีแนวโน้มผ่อนคลายลงในระยะต่อไป จากอุปทานเพิ่มเติมจากโครงการ Arctic LNG 2 ของรัสเซียที่การผลิตเฉลี่ยใน ส.ค. 2025 เพิ่มขึ้นทำระดับสูงสุดใหม่แตะ 15mcm/d เพิ่มขึ้น 9.5% เทียบกับช่วงเปิดโครงการใน ธ.ค. 2023 แม้ปัจจุบันโครงการถูกคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก (Bloomberg) ขณะที่จีนนำเข้า LNG ลดลง YoY ต่อเนื่องและใน ก.ค. 2025 จีนได้นำเข้าหดตัวต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่เก้า (Figure 2) เนื่องจากมีการนำเข้าผ่านท่อที่เพิ่มขึ้นแทน (OilPrice.com) ส่วนความกังวลต่ออุปทานก๊าซฯ ยุโรปมีแนวโน้มผ่อนคลายลงเช่นกัน ในระยะสั้นอุปสงค์เพื่อผลิตไฟฟ้าในยุโรปมีแนวโน้มลดลงตามคลื่นความร้อนที่มักจะทำจุดสูงสุดใน ส.ค. และสิ้นสุดใน ก.ย. (Phys.org) และปริมาณก๊าซฯ สำรองยุโรปที่ล่าสุดอยู่ที่ 76% (Figure 3) และมีแนวโน้มจะเติมได้ถึงระดับ 90% ได้ภายในช่วงวันที่ 1 ต.ค. – 1 ธ.ค. 2025 (Platts)

 

มองราคาก๊าซฯ ยุโรปคาดจะปรับลงในระยะสั้นตามอุปสงค์ผลิตไฟฟ้าที่ลดลงตามการคลื่นความร้อนที่จะสิ้นสุดตามฤดูกาล และความคลายกังวลที่ยุโรปจะสามารถเติมก๊าซฯ สำรองแตะระดับ 90% ได้ทันกรอบเวลา หากยุโรปสามารถรักษาอัตราการเติมก๊าซฯ สำรองในระดับที่ใกล้เคียงกับใน ส.ค. 2025 ที่ราว 8% ขณะที่การแย่งชิงการนำเข้า LNG ในตลาดมีแนวโน้มที่ผ่อนคลายลดซึ่งคาดว่าราคา LNG ในระยะสั้นจะปรับลงในระยะสั้นเช่นกัน (Figure 4) มองเป็นบวกต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP ตามต้นทุนเชื้อเพลิงที่ลดลง ราคา JKM เฉลี่ยช่วง 3Q25TD ลดลง 1.7%QoQ และพลิกลดลง 6.1%YoY และบาทที่แข็งค่าคาดจะทำให้ราคา Pool Gas ลดลงต่อ โดยราคาเฉลี่ยใน ก.ค. 2025 ลดลง 13.4%YoY และ 2.2%MoM (Figure 5) เชิงกลยุทธ์ เก็งกำไรระยะสั้น GPSC ได้ประโยชน์จากต้นทุนเชื้อเพลิงและดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มปรับลง และมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และเชิงพื้นฐาน ทยอยสะสม GULF มีศักยภาพการเติบโตและการกระจายความเสี่ยงธุรกิจสูง โดยเฉพาะการลงทุนโรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ ที่ได้ประโยชน์จากปัญหาคอขวดความต้องการไฟฟ้าจาก Data Center ที่ประเมินว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในช่วงปี 2024-2028 แต่โรงไฟฟ้าใหม่ใช้เวลาก่อสร้างราว 3-4 ปี ล่าสุดกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ สั่งองค์กรส่งไฟฟ้า PJM ชะลอการปิดโรงไฟฟ้า 760MW ในมลรัฐ Pennsylvania ออกไปอีก 90 วัน จากเดิมที่มีกำหนดปลดระวาง เพื่อเลี่ยงความเสี่ยงเกิดไฟฟ้าดับ (Platts) เชิงพื้นฐาน ทยอยสะสม BCPG ซึ่งมีการลงทุนโรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ ในมลรัฐ Pennsylvania และ Ohio โดยมีสัดส่วนกำลังผลิต 72.6% (Figure 6) ส่วน BPP มีการลงทุนในโรงไฟฟ้าสหรัฐฯ ใน Texas โดยทั้งสามมลรัฐในข้างต้นถูกประเมินว่าจะมีการขยายตัวของอุตฯ Data Center อย่างรวดเร็ว (Platts)

 

 

โรงกลั่นตะวันออกกลางทยอยปิดซ่อมบำรุง อุปทานน้ำมันสำเร็จรูปอาจชะงักระยะสั้น

ยูเครนเผยในสัปดาห์ก่อนได้โจมตี 2 โรงกลั่นรัสเซีย Kuibyshev และ Afipsky ซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 320kBD และนับตั้งแต่ต้น ส.ค. 2025 กำลังการกลั่นรัสเซียได้รับผลกระทบแล้วกว่า 13% ของกำลังการผลิตทั้งหมด (Bloomberg) ทำให้ปริมาณส่งออกน้ำมันจากท่าเรือ Ust-Luga ใน ก.ย. 2025 อาจลดลงถึง 50% เหลือ 350kBD เป็นผลจากการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานพลังงานโดยยูเครน (Reuters) ด้าน Saudi Aramco มีแผนจะปิดซ่อมบำรุงเพิ่มเติม 2 โรงกลั่นใน 4Q25 ที่มีกำลังการผลิตรวม 580kBD จากใน ก.ค. ที่เคยปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นกำลังการผลิต 400kBD และโรงกลั่นในคูเวต 490kBD มีแผนจะปิดซ่อมบำรุงใน ต.ค. 2025 (Argus)

 

มองอุปทานน้ำมันสำเร็จรูปจะตึงตัวขึ้น โดยเฉพาะอุปทานเบนซินในตะวันออกกลางที่เดิมตึงตัวอยู่แล้ว และอาจมีข้อจำกัดในการนำเข้าเพิ่มเติม อินเดียคาดว่าจะส่งออกลดลงเพื่อให้เพียงพอกับอุปสงค์ในประเทศที่จะเพิ่มขึ้นหลังสิ้นสุดฤดูมรสุม และรัสเซียที่ยังคงมีนโยบายระงับการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป ทั้งการระงับการส่งออกเบนซิน ถึง ต.ค. 2025 และการจำกัดส่งออกดีเซลบางส่วน (Euronews) ส่วนอุปทานดีเซลคงเผชิญความตึงตัวเช่นกัน ทั้งในสหรัฐฯ ที่สต็อกดีเซลอยู่ต่ำกว่าขอบล่าง 5 ปี (Figure 7) และมาตรการคว่ำบาตรของ EU กระทบการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปจากอินเดียและตุรกี คิดเป็น 15% ของปริมาณนำเข้าดีเซลทั้งหมด (Figure 8) ระยะสั้นมองเป็นบวกต่อธุรกิจโรงกลั่น โดยเฉพาะโรงกลั่นที่มีสัดส่วนดีเซลสูงเนื่องจากมีส่วนต่างราคาที่แข็งแกร่ง สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้ เก็งกำไรระยะสั้น TOP ซึ่งมีปัจจัยหนุนระยะสั้นจาก Premium Dubai ที่ชะลอลง ติดตามอุปทานเพิ่มเติมที่อาจเพิ่มขึ้นจากการกลับมาผลิตของโรงกลั่นจีน และโรงกลั่น Heavy Crude สหรัฐฯ

 

ความเสี่ยง: เศรษฐกิจโลกที่ผันผวน, สถานการณ์ในตะวันออกกลาง, การเมืองในประเทศ, นโยบายพลังงานสหรัฐฯ และไทย, รัสเซีย-ยูเครน, นโยบายการผลิตของ OPEC+

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5