| บทสรุป |
|
สถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรและโลหะ : เดือน พ.ค. 66 ราคาสินค้าเกษตรและโลหะส่วนใหญ่ปรับลง MoM อาทิ ข้าวสาลี ข้าวโพด ถั่วเหลือง ปาล์ม ยางพารา น้ำตาล อลูมิเนียม ทองแดง และเหล็ก จากกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวช้า จะกดดันความต้องการสินค้าหรืออุปสงค์โลก อีกทั้งผลผลิตทางการเกษตรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ หลังมีการขยายพื้นที่เพาะปลูกและสภาพอากาศที่ดียังเอื้อต่อผลผลิตในสหรัฐและบราซิล รวมทั้งรัสเซียยังขยายอายุข้อตกลงอนุญาตให้ยูเครนส่งออกธัญพืชผ่านท่าเรือในทะเลดำได้อีก 60 วัน สำหรับราคาเนื้อหมูและไก่ในไทยปรับขึ้นลง MoM หลังการนำเข้าสุกรผิดกฎหมายลดลง และอุปสงค์ส่งออกไก่มีแนวโน้มดีขึ้น อีกทั้งกังวลบราซิลตรวจพบไข้หวัดนกในนกป่า อาจจะมีการจำกัดการส่งออกไก่จากบราซิลในอนาคต ขณะที่เดือน มิ.ย. 66 คาดราคาสินค้าเกษตรและราคาโลหะส่วนใหญ่ยังอ่อนตัว MoM จากยังกังวลอุปสงค์ชะลอตัวแต่ผลผลิตกลับเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี มีความเสี่ยงติดตาม คือ ปรากฎการณ์เอลนีโญอาจกระทบต่อผลผลิตในปลายปีนี้ถึงปีหน้า สถานการณ์ราคาพลังงาน : ราคาน้ำมันดิบในเดือน พ.ค. อ่อนตัวอีกครั้ง MoM กดดันจากความกังวลจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว การฟื้นตัวของจีนไม่แรงอย่างที่คาด แม้ในเดือน เม.ย. กลุ่ม OPEC+ จะประกาศปรับลดการผลิตลงเริ่มในเดือน พ.ค.-ธ.ค. 2023 แต่ตลาดปรับเพิ่มขึ้นเพียงชั่วคราวก่อนอ่อนตัวลง เช่นเดียวกับค่าการกลั่นอ้างอิงสิงคโปร์ที่ถูกกดดันจากปัจจัยเดียวกัน ราคาก๊าซฯ และถ่านหินอ่อนตัวลง MoM กดดันจากภาวะอากาศที่อบอุ่น การลดการใช้พลังงานในยุโรป และการผลิตจาก RE ที่ทำได้ดี ทำให้ความต้องการใช้ก๊าซฯ ผลิตไฟฟ้าตกต่ำ ปริมาณก๊าซฯ ในคลังสูง และกดดันต่อไปยังถ่านหินที่เป็นผลิตภัณฑ์ทดแทนที่ส่งผลกระทบต่อมลภาวะมากกว่า ปัจจัยที่ต้องติดตามหลัก ได้แก่ แนวโน้มเศรษฐกิจโลกในระยะถัดไป หากยังคงมีแนวโมชะลอต่อเนื่อง จะกดดันคาดการณ์การเติบโตของอุปสงค์ให้ลดลง อย่างไรก็ตามหากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกไม่รุนแรง เชื่อว่าอุปทานจะตึงตัวขึ้นใน 2H23 และจะช่วยผลักดันราคาฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปี กลยุทธ์ลงทุน (Tactical Call) สำหรับหุ้นที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ แนะนำดังนี้ 1)หุ้นเด่นจากสถานการณ์สินค้าเกษตรและโลหะ : เลือก OSP หลังมองผลการดำเนินงาน 1Q66 จะเป็นจุดต่ำสุดปีนี้ ขณะที่ 2Q66 คาดกำไรจะฟื้นตัว QoQ ตามปริมาณขายและส่วนแบ่งตลาดที่ดีขึ้น รวมทั้งคาดอัตรากำไรขั้นต้นจะฟื้นตัวหลังมีการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและต้นทุนวัตถุดิบ (อาทิ อลูมิเนียม) มีแนวโน้มลดลง ขณะที่แนะนำระมัดระวังการลงทุนสำหรับหุ้นกลุ่มอาหารอย่าง CPF, GFPT, BTG จากราคาเนื้อสัตว์ทั้งในประเทศและต่างประเทศยังมีทิศทางอ่อนแอจากอุปสงค์ชะลอแต่อุปทานเพิ่มขึ้น ซึ่งมองจะกดดันราคาหุ้นและผลประกอบการ 1H66 ของ CPF, GFPT ให้ลดลง YoY จากมีมาร์จิ้นแคบลงเนื่องจากราคาผลิตภัณฑ์ที่ยังมีแนวโน้มลดลง YoY 2)หุ้นเด่นจากสถานการณ์พลังงาน : ยังคงเลือก BCP ระยะสั้นยังคงระมัดระวังหุ้มกลุ่มพลังงาน และโรงกลั่น เลือกสะสมหุ้นที่มีการกระจายความเสี่ยงธุรกิจ ได้แก่ BCP ที่เป็นโรงกลั่น defensive ที่มีการกระจายความเสี่ยงธุรกิจ ปันผลสูง Valuation ไม่แพง และโอกาสเติบโตจากการเข้าซื้อกิจการ ESSO ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม ได้แก่ ความเสี่ยงด้านนโยบายของพรรคการเมือง การซื้อกิจการ ESSO ที่ยังต้องรออนุมัติหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง |
PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม อัพเดตราคาสินค้าโภคภัณฑ์_230601_T
