บทสรุป |
สถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรและโลหะ : เดือน พ.ย. 66 ราคาสินค้าเกษตรและโลหะปรับตัวคละเคล้า MoM ตามผลของอุปสงค์และอุปทาน โดยราคาข้าวสาลีทรงตัวหลังอุปสงค์ซบเซา, ราคาข้าวโพดลดลงจากอากาศดีเอื้อต่อผลผลิตในสหรัฐ, ราคาถั่วเหลืองปรับขึ้นจากอากาศที่แห้งแล้งกระทบต่อผลผลิตในอาร์เจนติน่าและบราซิล, ราคาน้ำตาลยังทรงตัวสูงหลังอุปทานตึงตัว, ราคาปาล์มปรับขึ้นหลังจีนมีคำสั่งซื้อน้ำมันพืชเพิ่มขึ้น, ราคาฝ้ายปรับลง จากกังวลอุปสงค์ซบเซา ส่วนราคานิกเกิลและอลูมิเนียมลดลงหลังกังวลอุปสงค์อ่อนแอในจีน ด้านราคาหมูและไก่ในประเทศปรับขึ้นหลังอุปสงค์ดีขึ้นและอุปทานลดลง ขณะที่เดือน ธ.ค. 66 คาดราคาสินค้าเกษตรและโลหะส่วนใหญ่จะทรงตัวหรือเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบแคบ เนื่องจากผลกระทบของอุปทานที่ตึงตัวจากภาวะ El Nino จะถูกหักล้างด้วยอุปสงค์ที่ยังค่อนข้างซบเซา ส่วนราคาเนื้อสัตว์ในประเทศคาดปรับขึ้น MoM จากอุปสงค์ที่ดีขึ้นหลังเช้าสู่ฤดูกาลจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลสำคัญๆ อีกทั้งคาดอุปทานจะมีแนวโน้มลดลง หลังรัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาการลักลอบนำเข้าเนื้อเถื่อนอย่างจริงจัง สถานการณ์ราคาพลังงาน : ความกังวลกรณีสงครามระหว่างอิสราเอล-ฮามาสเริ่มบรรเทาลง ความกังวลอุปสงค์ชะลอตัวตามความต้องการใช้ที่ลดลงตามเศรษฐกิจ ความต้องการใช้เบนซินที่ลดลงในสหรัฐ นอกจากนั้นการส่งออกน้ำมันดิบของรัสเซียเดือน ต.ค. กลับสูงสุดในรอบห้าเดือน และการส่งออกจากอิรักและอิหร่านที่เพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมันในเดือน พ.ย. อย่างไรก็ตามค่าการกลั่นเริ่มฟื้นตัวได้ จากความต้องการใช้ในช่วงเทศกาลปลายปี หนุนส่วนต่างเบนซิน และน้ำมันเตาเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามสภาพอากาศอบอุ่นในช่วงต้นฤดูหนาว ทำให้ความต้องการใช้ก๊าซฯ และถ่านหินยังไม่เร่งตัวขึ้น เป็นปัจจัยกดดันราคาในเดือน พ.ย. ติดตามพัฒนาการความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ฮามาลที่ดูเหมือนจะคลี่คลายลง และท่าทีของสหรัฐต่อการผ่อนปรนการส่งออกน้ำมันจากเวเนซุเอลา และอิหร่านที่ถูกคว่ำบาตร รวมถึงอุปสงค์ในช่วงปลายปีที่เป็นช่วงเทศกาลและต้นฤดูหนาวที่ความต้องการใช้พลังงานมักเพิ่มสูงขึ้น กลยุทธ์ลงทุน (Tactical Call) สำหรับหุ้นที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ แนะนำดังนี้1)หุ้นเด่นจากสถานการณ์สินค้าเกษตรและโลหะ : ช่วงสั้นยังคงแนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนไปก่อนสำหรับ 1) หุ้นกลุ่มอาหารอย่าง CPF, GFPT, BTG โดยแม้ราคาเนื้อสัตว์ในประเทศมีแนวโน้มดีขึ้นแต่ยังไม่ถึงจุดคุ้มทุน อีกทั้งราคาเนื้อสัตว์ในต่างประเทศยังอ่อนแอจากอุปสงค์ชะลอแต่อุปทานยังสูง ซึ่งมองจะกดดันผลประกอบการ 4Q66 ยังคงลดลง YoY จากมีมาร์จิ้นแคบลง และ 2) หุ้นกลุ่มเครื่องดื่มอย่าง OSP, SNNP, HTC โดยแม้ยอดขาย 4Q66 คาดฟื้นตัวดีขึ้น QoQ จากเข้าสู่ High Season แต่คาดยังถูกกดดันจากต้นทุนน้ำตาลที่สูงขึ้น ทำให้ผลการดำเนินงาน 4Q666 ฟื้นตัวไม่มากนัก QoQ อีกทั้งยังต้องติดตามผลการดำเนินงานปี 2567 ซึ่งมีโอกาสถูกกดดันจากต้นทุนค่าไฟและต้นทุนน้ำตาลที่มีแนวโน้มสูงขึ้น2)หุ้นเด่นจากสถานการณ์พลังงาน : เลือก BCP จากแนวโน้มผลประกอบการ 4Q23 ที่ยังคงโดดเด่นกว่าโรงกลั่นอื่นจากการเพิ่มการใช้กำลังผลิตของโรงกลั่น BSRC (ESSO เดิม) รวมถึงค่าการตลาดน้ำมันและปริมาณขายที่มักเร่งตัวขึ้นในช่วงปลายปี นอกจากนั้นยังแนะนำสะสม PTT สำหรับการลงทุนแบบ DCA จากการกระจายความเสี่ยงของผลประกอบการ และปันผลที่อยู่ในระดับสูง อีกทั้ง Valuation ที่อยู่ในระดับต่ำน่าสนใจสะสม ในช่วงตลาดมีความแปราะบางสูง ขณะที่ยังแนะนำหลีกเลี่ยงหุ้นกลุ่มปิโตรเคมี ที่ยังถูกกดดันจากอุปสงค์ที่ชะลอตัว |
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก อัพเดตราคาสินค้าโภคภัณฑ์_231201_T |