News Update - การแพทย์ กระทรวงพาณิชย์ เผยมาตรการลดค่าครองชีพประชาชนในประเด็นด้านสุขภาพและเพิ่มทางเลือกของผู้บริโภค => เรามีมุมมองเป็นกลาง

กระทรวงพาณิชย์ เผยมาตรการลดค่าครองชีพประชาชนในประเด็นด้านสุขภาพ ที่จะมุ่งเน้นช่วยลดค่าใช้จ่ายของประชาชน ลดความแออัดของโรงพยาบาลรัฐ และเพิ่มทางเลือกของผู้บริโภค

โดยสิ่งที่กระทรวงพาณิชย์ทำคือ

1. กระทรวงพาณิชย์ได้ทำข้อตกลงกับโรงพยาบาลเอกชน ในการเปิดเผยราคายาอย่างชัดเจน ผู้ป่วยสามารถทราบราคายาที่ต้องจ่ายก่อนการชำระเงิน ไม่จำเป็นต้องยอมรับในค่าใช้จ่ายนี้ทันที โดยประชาชนสามารถไปซื้อยาข้างนอกได้ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์เผยว่าในปัจจุบันมีโรงพยาบาลเอกชนเข้าร่วมโครงการอยู่พอสมควร
2. การควบคุมต้นทุนราคายาและเวชภัณฑ์จำเป็น เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและป้องกันการตั้งราคาเกินความเหมาะสม ตัวอย่าง เช่น ยาและอุปกรณ์จำเป็นในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและยาสามัญประจำบ้าน
   
   

มุมมองของเรา

• เรามองเป็นกลางต่อกลุ่มการเเพทย์  เพราะ 2 แนวทางนี้เป็นสิ่งที่โรงพยาบาลเอกชนมีการปฏิบัติอยู่ตามประกาศ กกร. ปี พ.ศ. 2562 ให้ ยา เวชภัณฑ์ และค่าบริการทางการแพทย์ของสถานพยาบาล เป็นสินค้าควบคุม ซึ่งมี 3 หลักการสำคัญคือ
  1) การแจ้งราคา - โดยโรงพยาบาลเอกชนต้องแจ้งต้นทุนและราคาจำหน่ายยา เวชภัณฑ์ และค่าบริการทางการแพทย์ให้กรมการค้าภายในทราบตามรายการที่กำหนด  ซึ่งแต่ละโรงพยาบาลก็จะมีต้นทุนที่แตกต่างกันไป
  2) การเปิดเผย - โรงพยาบาลเอกชนต้องทำ QR Code หรือเผยแพร่ข้อมูลการเปรียบเทียบราคายาและค่าบริการการเเพทย์บนเว็บไซด์ของกรมการค้าภายใน เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบและเพิ่มทางเลือก และต้องประเมินค่ารักษาเบื้องต้นให้ผู้ป่วยทราบ
  3) สิทธิในการซื้อยาจากภายนอก - ผู้ป่วยสามารถนำใบสั่งยาไปเลือกซื้อยาจากภายนอกได้
  ต้นทุนยาและเวชภัณฑ์คิดเป็น 14-19% ของรายได้โรงพยาบาลเอกชน
• เราคงมุมมองว่า 3Q68 จะเป็นช่วงไฮซีซันที่ไม่ค่อยคึกคักนักของกลุ่มการแพทย์จากรายได้ที่จะลดลง YoY จากฐานสูงของโรคระบาดไข้หวัดใหญ่ใน 3Q67 อย่างไรก็ดี ผลกระทบจากฐานสูงเริ่มลดลงในเดือน ก.ย. ซึ่งน่าจะส่งผลให้รายได้กลับมาเติบโต YoY ได้ในใน 4Q68
• เราชอบ BDMS (ราคาเป้าหมาย 30 บาท) และ BCH (ราคาเป้าหมาย 17.5 บาท)