Keyword
Firefly Thai baht and background is screen stock market down side in the style of watercolor with si
PDF Available  
Special Report - Thai Stocks

ผลกระทบจากสถานการณ์เงินบาทแข็งค่า ต่อภาพรวมแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม

27 Sep 24 8:26 AM
สรุปสาระสำคัญ
  • ความเสี่ยงจากค่าเงินบาทแข็งค่า: หากค่าเงินไม่อ่อนกลับไปใกล้ 36 บาทต่อ USD ผลประกอบการ 3Q24 อาจได้รับผลกระทบเชิงลบ
  • หุ้นที่ควรหลีกเลี่ยง: TU, GFPT, CBG, KCE เนื่องจากมีรายได้อ้างอิงกับ USD
  • หุ้นที่อาจเก็งกำไร: AAV, GULF, GPSC, BCP เนื่องจากได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทแข็งค่า

 

บทสรุป

  • กลยุทธ์ลงทุน ผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น 11% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ (USD) ในช่วง 3Q24 ที่ผ่านมา หากยังยืนที่ 33บาท ไปจนถึงสิ้นปี อาจทำให้รายได้การส่งออกในรูปเงินบาทหดตัว 9.0% ในช่วงที่เหลือของปี เทียบกับ -2.4% ในรูปรายได้สกุล USD ขณะที่ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมในประเทศนั้นแตกต่างกันไป โดยกลุ่มที่มีรายได้จากการส่งออกได้รับผลกระทบเชิงลบทางตรงจากรายได้จากการแปลงค่าเงินที่ลดลง ได้แก่ กลุ่มเกษตร (เนื้อสัตว์) เครื่องดื่ม และอิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่กลุ่มสายการบินยังเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากต้นทุนที่ลดลง นอกจากนั้นกลุ่มที่ได้รับผลบวกส่วนใหญ่จะมีเงินกู้ในสกุล USD ทำให้มีกำไรที่ยังไม่รับรู้จากเงินกู้ดังกล่าว ได้แก่ กลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี และไฟฟ้า ส่วนกลุ่มที่กระทบทางอ้อมได้แก่ กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับกำลังซื้อในสกุล USD ที่ลดลง ได้แก่ กลุ่มท่องเที่ยวและโรงพยาบาล

  • การแข็งค่าอย่างรุนแรงของค่าเงินบาทในช่วงที่ผ่านมา แม้จะมีการหารือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้ามาดูแล แต่หากค่าเงินไม่อ่อนกลับไปใกล้ 36 บาทต่อ USD (ซึ่งเป็นระดับปิด 2Q24) ผลประกอบการ 3Q24 ที่จะประกาศภายในช่วงกลางเดือน พ.ย. ยังคงมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบเชิงลบ โดยเฉพาะหุ้นที่มีรายได้อ้างอิงกับ USD เรามองหุ้นควรหลีกเลี่ยงออกไปก่อน ได้แก่ TU GFPT CBG KCE ส่วนหุ้นที่ได้ประโยชน์อาจพิจารณาเก็งกำไร ได้แก่ AAV GULF GPSC BCP

  • สรุปมุมมองอุตสาหกรรมและ บจ. ที่เกี่ยวข้องซึ่งคาดได้รับผลกระทบจากสถานการณ์เงินบาทแข็งค่า ดังนี้
    1)กลุ่มที่ได้รับผลกระทบลบตรง : กลุ่มเกษตร (เนื้อสัตว์) เครื่องดื่ม และอิเล็กทรอนิกส์ จากรายได้ส่งออกไปต่างประเทศ ในกลุ่มเกษตร TU มีผลกระทบสูงสุด รองลงมาเป็น GFPT ขณะที่ CPF ไม่กระทบเนื่องจากมีการนำเข้าวัตถุดิบมาชดเชย ส่วน BTG กลับได้ประโยชน์ เนื่องจากมีการนำเข้าวัตถุดิบมากกว่าการส่งออก กลุ่มเครื่องดื่มผลกระทบจากรายได้ได้ส่งออก กระทบ CBG มากกว่า OSP กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์กระทบจากการแปลงค่าเงิน ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นในสกุลเงินบาทลดลง
    2)กลุ่มที่ได้รับผลบวก : กลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี และไฟฟ้า จากเงินกู้ในสกุล USD ทำให้มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากเงินกู้ที่ลดลงในสกุลเงินบาท นอกจากนั้นสายการบินได้ผลบวกตรงจากต้นทุนสกุล USD เช่น เชื้อเพลิง ค่าซ่อมบำรุง ลดลง เมื่อแปลงกลับมาเป็นเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น อีกทั้งยังมีหนี้สัญญาเช่นในรูป USD ซึ่งจะมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนอีกด้วย
    3)กลุ่มที่ได้รับผลกระทบเชิงลบทางอ้อม : กลุ่มท่องเที่ยว (-MINT) และกลุ่มโรงพยาบาล (-BH) จากรายจ่ายที่สูงขึ้นโดยปรียบเทียบ ขณะที่กลุ่มยานยนต์ ได้รับกระทบทางอ้อมผ่านยอดส่งออกรถยนต์ที่อาจลดลง
    4)ไม่มีผลกระทบ/ผลกระทบจำกัด : ค้าปลีก อสังหาฯ ธนาคาร สินเชื่อ สื่อสาร ขนส่งทางบก วัสดุก่อสร้าง

 

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5