บทสรุป |
ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงหลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่ปรับตัวขึ้นใกล้แตะระดับ 5% กดดันหุ้นที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยอย่างเทคฯใหญ่ โดย AAPL -1.3% AMZN -5.6% META -4.2% ขณะที่ GOOGL -9.5% หลังมีแรงกดดันเพิ่มเติมจากรายได้ในธุรกิจคลาวด์ที่ออกมาต่ำกว่าคาด จึงมีความกังวลต่อการเติบโตในระยะถัดไป กระแสเงินในวันที่ 24 ต.ค. 2023 1) กระแสเงินในตราสารหนี้ค่อนข้างผันผวน โดยล่าสุดมีแรงซื้อ โดยเฉพาะตราสารหนี้ระยะยาวและพันธบัตรรัฐบาล ทั้งนี้มองว่าเป็นการบริหารความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกโดยเฉพาะความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ส่วนกระแสเงินในตราสารหนี้ High Yield ค่อนข้างผันผวนล่าสุดมีเงินไหลออก 2) มีแรงซื้อเก็งกำไรในกลุ่มพลังงานและโลหะมีค่าบนประเด็นความขัดแย้งในตะวันออกกลาง 3) ตลาดหุ้น EM และจีนมีกระแสเงินไหลเข้าเก็งกำไรในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากรัฐบาลจีน 4) มีแรงขายในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมและกลุ่ม Materials ตามภาพเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง 5) มีแรงขายในหุ้นธีม Growth และกลุ่มเทคโนโลยีจากความกังวลแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่อาจจะช้ากว่าที่คาด Russia-Ukraine ไม่มีพัฒนาการเชิงบวก ด้านราคาถ่านหินในยุโรปปรับตัวลดลง 2.6% ราคาก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น 2.6% ส่วนต่างดอกเบี้ยของกลุ่ม IG ทั่วโลกปรับตัวลดลง 2bps ส่วนตราสาร HY ปรับลดลง 8bps ขณะที่ตลาดหุ้นจีนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม Reopening ในจีนภาพรวมปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.8% ตัวเลขเศรษฐกิจจะออกมาดีกว่าที่คาดและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ กลุ่มท่องเที่ยวฟื้นตัว 4.8% และกลุ่มเสื้อผ้ากีฬาปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.3% มีเพียงกลุ่มโรงภาพยนตร์ที่ปรับตัวลดลง 1.3% ถึงแม้งบ META Platforms จะออกมาในทิศทางที่ดีโดยรายได้เพิ่มขึ้น 23%YoY หลังมีแรงหนุนจาก Ads แกร่งและเร็วกว่าคู่แข่งอย่าง GOOGL และ SNAP รวมถึงให้คาดการณ์งบใน 4Q23 ดีกว่าคาดและมีการปรับลดคาดการณ์ค่าใช้จ่ายในปี 23 ลง แต่อย่างไรก็ดีด้วยภาพ 1) ราคา Ads ที่ลดลงเป็นไตรมาสที่ 6 ติดต่อกัน 2) คำเตือนของ Meta เกี่ยวกับปัจจัยมหภาคที่มีความไม่แน่นอนซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อรายได้และแผนการใช้จ่ายที่มีราคาแพงในปี FY24 ด้วยภาพความกังวลเหล่านี้จึงทำให้ตลาดตอบสนองเชิงลบต่อประเด็นนี้มากกว่าการฟื้นตัวของ Ads และงบที่ออกมาโต ผลประกอบการของ Texas Instrument ใน 3Q23 ออกมาต่ำกว่าที่คาด บ่งชี้ว่าอุปสงค์ยังคงอ่อนแอในภาพรวม โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม นอกจากนั้นแนวโน้มผลประกอบการใน 4Q23 ต่ำกว่าที่คาดทั้งรายได้และกำไร ขณะที่บริษัทอาจจะมีปัญหาด้านสินค้าคงคลังแต่จะมีผลกระทบน้อยกว่าบริษัทอื่นเพราะอายุของสินค้าค่อนข้างนานหลายปี ทำให้ค่าใช้จ่ายไม่สูงมากนัก ด้วยภาพการฟื้นตัวของบริษัทค่อนข้างช้า ทำให้แนวโน้มของ Semiconductor มีแนวโน้มฟื้นตัวช้าเช่นกัน เรามองว่าสินค้าของ TXN อาจจะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจมากกว่าสินค้าต้นน้ำอย่าง TSMC, AMD, INTC |