INVX Global Morning Routine - 10 ก.ค. 2566

บทสรุปสำหรับสัปดาห์  (3 – 7 ก.ค.)

• ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลง 1.4% จากตัวเลขตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งทำให้ตลาดกังวลกับท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐที่จะขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องอีก 1-2 ครั้ง ค่าเงินที่อ่อนค่าทำให้ตลาดญี่ปุ่นเกิดแรงขายทำกำไร ส่วนตลาดหุ้นจีนได้รับแรงกดดันจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงและการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ค่อนข้างช้า
•  
• ด้านตลาดเงินนั้นมีกระแสเงินไหลเข้าครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์และสูงสุดตั้งแต่ เม.ย. 2023 บ่งชี้ว่านักลงทุนกังวลกับภาพตลาดในระดับหนึ่ง ส่วนกระแสเงินในตลาดหุ้นเป็นเงินไหลเข้า โดยมีเงินไหลออกจากตลาดหุ้นจีนและยุโรปเป็นสำคัญ ในขณะที่ตลาดหุ้นอื่นอย่างญี่ปุ่น เกาหลีใต้และตลาดอินเดียมีเงินไหลเข้า
•  
• ในสัปดาห์นี้ติดตาม 1) ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเงินเฟ้อที่ตลาดคาดว่าเพิ่มขึ้นแบบชะลอตัวลง ด้าน PPI มองกลับมาเพิ่มขึ้นเป็นบวก ส่วนความเชื่อมั่นผู้บริโภคทรงตัว 2) ตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่จะสะท้อนทิศทางการฟื้นตัว โดยตลาดมองเงินเฟ้อขยายตัวเพิ่ม ด้านตัวเลข PPI ,การส่งออกและนำเข้าจะชะลอการลดลง 3) ตัวเลขเศรษฐกิจในยูโรโซน อย่างดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและดุลการค้าที่คาดว่าแย่ลง 4) Fed Beige Book รายงานเกี่ยวกับสภาวะทางเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ณ ปัจจุบัน 5) เริ่มฤดูผลประกอบการไตรมาสที่สองของปี 23 โดยบริษัทที่เผยงบในสัปดาห์นี้ได้แก่กลุ่มธนาคารและการเงินอย่าง BlackRock, Citigroup, DNB Bank, JPMorgan Chase, Wells Fargo ขณะที่บริษัทอื่นๆได้แก่ Fast Retailing , PepsiCo, UnitedHealth Group, Delta Air Lines
•  
• ภาพรวม – ภาพรวมการลงทุนกลับมาเน้นที่ภาคเศรษฐกิจมหภาคอย่างแนวโน้มดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐและกิจกรรมทางเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลงเป็นปัจจัยกดดันสินทรัพย์เสี่ยงเป็นสำคัญ แต่ความคาดหวังเชิงบวกอาจจะยังมีน้อยเพราะจีนยังไม่ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมและมีสงครามเทคโนโลยีระหว่างจีนและสหรัฐเป็นความเสี่ยงที่ไม่สามารถควบคุมได้
•  
• กลยุทธ์ – สัปดาห์นี้ (10-14 ก.ค.) มองว่า 1) ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงช้าจะยังเป็นตัวกดดันให้ตลาดยังกังวลกับแนวโน้มดอกเบี้ยในช่วงปลายเดือน ก.ค. 2) การส่งออกและนำเข้าของจีนที่ยังน่ากังวลและการระบายสินค้าคงเหลือยังไม่จบ 3) การประชุมนาโต้ที่จับตาท่าทีของกลุ่มที่มีต่อจีนและรัสเซีย 4) ผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ที่มีแนวโน้มดีกว่า 1Q23 ดังนั้นภาพรวมยังคงเน้นเชิงรับจากความเสี่ยงภายนอกค่อนข้างสูงและเล่นเก็งกำไรผลประกอบการ
•  
• หุ้นแนะนำ – เราแนะนำหุ้นคุณภาพดีและมีแนวโน้มของผลประกอบการที่ดีอย่าง PepsiCo และ JPMorgan Chase