บทสรุป |
ตลาดหุ้นทั่วโลกทรงตัวในแดนลบ ขณะที่ทางฝั่งสหรัฐฯ ตลาดมีความคาดหวังเชิงบวกและติดตามผลการประชุม FED รวมถึงผลประกอบการ NVDA ด้านตลาดจีนปรับตัวขึ้นดีจากภาพการดำเนินนโยบายและออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากทางการต่อเนื่อง กระแสเงินในวันที่ 20 ก.พ. 2024 1) กระแสเงินในตราสารหนี้ผันผวน มีแรงซื้อในตราสารหนี้คุณภาพดีและพันธบัตรรัฐบาลจากตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอกว่าที่คาดในเดือน ม.ค. 2) มีแรงซื้อตลาดหุ้นจีน จากกองทุนจีนมีการซื้อ ETF มากขึ้น 3) มีแรงซื้อตลาดหุ้นญี่ปุ่นจากท่าทีของค่าเงินเยนที่ยังอ่อนค่า 4) มีแรงซื้อในกลุ่มเทคโนโลยีจากผลประกอบการที่มีภาพการฟื้นตัวและธีม AI แต่ปริมาณเงินไม่สูงมากเนื่องจากนักลงทุนรอผลประกอบการของ NVDA 5) มีแรงซื้อกลับในหุ้นขนาดเล็กมองเป็นแรงซื้อเก็งกำไรหลังจากปรับตัวลงแรง 6) มีแรงขายในหุ้นที่อิงเศรษฐกิจอย่างกลุ่มการเงิน Materials สินค้าอุตสาหกรรม และ Consumer Discretionary ผลการประชุมของธราคารกลางสหรัฐในเดือน ก.พ. 2024 พบว่า 1) FOMC มีมุมมองเชิงบวกกับการลดลงของเงินเฟ้อแต่ยังไม่เพียงพอที่จะลดดอกเบี้ย โดยเงินเฟ้อที่ลดลงมีลักษณะเฉพาะ ซึ่งอาจจะต้องหลักฐานที่จะทำให้มั่นใจว่าลดลง 2) FOMC ยังไม่มีการพูดถึงการขึ้นดอกเบี้ย 3) FOMC จะมีการลดความเร็วในการลดขนาดงบดุล ทั้งนี้มองว่าสภาพคล่องในสหรัฐอยู่ในระดับสูง 4) เศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งและตลาดแรงงานยังตึงตัว เป็นเหตุผลว่าทำไมธนาคารกลางสหรัฐถึงให้ความสำคัญกับความสมดุลด้านราคา ทั้งนี้ FOMC ประเมินว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะมีการชะลอตัวลง โดยมีความเสี่ยงด้านการเงินที่ราคาสินทรัพย์และราคาอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในระดับสูง Nvidia เผยงบแกร่งทุกมิติ โดยรายได้ดีกว่าคาดและเติบโตมากกว่า 3 x หนุนจากอุปสงค์ AI ที่แกร่ง นอกจากนี้บริษัทให้คาดการณ์ใน 1Q25 และมองมาร์จิ้นอยู่ในระดับสูงกว่า 77% หลังมีแรงหนุนจากความต้องการ GPU และส่วนแบ่งการตลาดของ H200 ยังคงแกร่ง ภาพนี้ทำให้เราเชื่อว่าการเติบโตของบริษัทจะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องไปในช่วงปีแรก 24 ขึ้น รวมถึงมองการเติบโตของกำไรที่ดีกว่าที่คาดและการออกสินค้าใหม่ในปี 2024 จะเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาหุ้น อย่างไรก็ดีแนะเก็งกำไรด้วยความระมัดระวังหลังราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมารับข่าวดีแล้วในระดับหนึ่ง Rivian Automotive เผยงบ 4Q23 ดีกว่าคาดเล็กน้อย แต่ให้คาดการณ์การผลิตในปี 24 ที่ต่ำกว่าคาดในทิศทางเดียวกับ Peer รวมถึงมองการขาดทุนที่ยังคงดำเนินต่อเนื่อง ภาพนี้ส่งผลให้ราคาหุ้นของกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เช่น Tesla, Nio, Xpeng ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกัน ขณะที่เรามองว่ากลุ่ม EV ยังคงมีแรงกดดันจากปัจจัยมหภาคที่ส่งผลต่ออุปสงค์ รวมถึงการแข่งขันในอุตฯ ที่ยังรุนแรงต่อเนื่องจนส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของมาร์จิ้น ซึ่งเรายังคงแนะหลีกเลี่ยงกลุ่มนี้ แต่ถ้าหากใครรับความเสี่ยงการปรับลดราคาได้ เราก็แนะมองกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจำกัด โดยแนะมอง TSLA BYD ที่ฐานะทางการเงินแกร่งและมีระบบนิเวศน์ที่ดี |
ท่าน สามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก h Global morning routine_240222_T |