บทสรุป |
ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นหนุนจากภาพรวมผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดีกว่าคาด ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจในสหรัฐฯที่ออกมาแกร่ง นอกจากนี้ในจีนยังคงมีภาพการกระตุ้นเศรษฐกิจระลอกใหม่เป็นการสนับสนุน กระแสเงินในวันที่ 23 ต.ค. 2023 1) กระแสเงินในตราสารหนี้ค่อนข้างผันผวน โดยล่าสุดมีแรงซื้อ โดยเฉพาะตราสารหนี้ระยะยาวและพันธบัตรรัฐบาล ทั้งนี้มองว่าเป็นการบริหารความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกโดยเฉพาะความขัดแย้งในตะวันออกกลาง และมีแรงเก็งกำไรในตราสารหนี้ High Yield 2) มีแรงซื้อเก็งกำไรในกลุ่มพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์บนประเด็นความขัดแย้งในตะวันออกกลาง 3) ตลาดหุ้น EM มีกระแสเงินไหลเข้าเก็งกำไรในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากรัฐบาลจีน 4) มีแรงซื้อในกลุ่มเทคโนโลยีมากขึ้นหลังจากราคาปรับตัวลดลงในระยะหลังและเก็งกำไรผลประกอบการที่มีแนวโน้มการเติบโตดี 5) มีแรงขายในหุ้นธีม Growth และตลาดหุ้นยุโรปจากความกังวลแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่อาจจะช้ากว่าที่คาด Russia-Ukraine ไม่มีพัฒนาการเชิงบวก ด้านราคาถ่านหินในยุโรปปรับตัวลดลง 2.5% ราคาก๊าซธรรมชาติลดลง 3.4% ส่วนต่างดอกเบี้ยของกลุ่ม IG ทั่วโลกปรับตัวลดลง 3bps ส่วนตราสาร HY ปรับลดลง 14bps ขณะที่ตลาดหุ้นจีนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม Reopening ในจีนภาพรวมปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.1% ตัวเลขเศรษฐกิจจะออกมาดีกว่าที่คาดแต่ตลาดยังไม่ค่อยเชื่อกับการฟื้นตัว โดยกลุ่มท่องเที่ยวปรับเพิ่มขึ้น 1.6% ในขณะที่กลุ่มร้านอาหารปรับตัวลดลง 3.1% และกลุ่มคาสิโนปรับลดลง 0.3% ถึงแม้งบรวม GOOGL จะออกมาดีกว่าคาดแต่หุ้นกลับปรับตัวลงกว่า 6% ใน After hours ตอบสนองเชิงลบต่อภาพคลาวด์ที่ออกมาชะลอตัวและต่ำกว่าคาดสวนทาง MSFT ที่เติบโตและเป็นแรงหนุนหลักงบใน 1Q24 อย่างไรก็ดีกลุ่มธุรกิจ Search Engine ของบริษัทยังเติบโตได้กว่า 11%YoY ซึ่งถือว่าโตกว่ากลุ่มธุรกิจนี้ของ MSFT เช่น Bing ที่มีการพัฒนา AI ร่วมซึ่งโต 9%YoY สะท้อนได้ว่า GOOGL ยังคงครองการเป็นผู้นำตลาดในส่วนนี้อยู่ซึ่งสวนทางกับธุรกิจคลาวด์ที่ GOOGL ยังคงเป็นรอง MSFT ด้าน Snap เผยงบ 3Q23 โดยรายได้เพิ่มขึ้น 5.4% ดีกว่าคาดที่มองการเติบโตหดตัวสะท้อนผลจากแผนการปรับปรุงธุรกิจโฆษณาดิจิทัลในระยะยาวเพื่อฟื้นฟูยอดขายที่ชะลอ ซึ่งงบที่ออกมาค่อนข้างเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับภาพรายได้จากโฆษณาจาก Google และ YouTube ที่ดีกว่าคาด สะท้อนภาพการเต็มใจที่จะใช้จ่ายใน Ads มากกว่าที่คาดไว้ แม้ว่ามีแรงกดดันจากสภาวะเงินเฟ้อและความขัดแย้งระหว่างประเทศก็ตาม ด้วยภาพแนวโน้มรายได้โฆษณาและ Digital ที่ออกมาดูดีเป็นสัญญาณที่ทำให้เราคาดว่ามีโอกาสที่ผลประกอบการของ Meta Platforms ซึ่งมีรายได้เกือบ 98% จากโฆษณาดิจิทัลจะออกมาในทิศทางที่ดีเช่นกัน โดยบริษัทเตรียมเผยผลประกอบการในช่วงคืนนี้หลังตลาดปิด |