บทสรุป |
ตลาดหุ้นทั่วโลกทั่วโลกปรับตัวขึ้นได้ นำโดยกลุ่มเทคฯที่ยังคงปรับตัวขึ้นตามแนวโน้มการฟื้นตัวซึ่งส่งผลให้มีการปรับประมาณการณ์ขึ้นและปรับมุมมองการลงทุน รวมถึงภาพความคาดหวังต่อ AI ขณะที่ฝั่งจีนภาพตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมายังคงชะลอตัว สะท้อนฟื้นตัวไม่สม่ำเสมอและเป็นไปอย่างช้าๆ กระแสเงินในวันที่ 17 มิ.ย. 2024 1) กระแสเงินในตราสารหนี้ผันผวน มีแรงซื้อในตราสารหนี้คุณภาพดีและพันธบัตรรัฐบาลมองว่าเป็นเรื่องของการลดความผันผวนจากปัจจัยภายนอก 2) มีแรงซื้อในกลุ่ม Growth รวมไปถึงกลุ่มเทคโนโลยีที่ยังมีประเด็นของ AI เป็นตัวสนับสนุนสำคัญ 3) กระแสเงินไหลเข้าตลาดหุ้น EM มองว่าเป็นความคาดหวังต่อการฟื้นตัว และอาจจะสะท้อนภาพเศรษฐกิจที่มีความเสี่ยงน้อยลงในระดับหนึ่งแต่มีแรงขายในตลาดหุ้นจีนเป็นผลจากราคาบ้านที่ยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัว 4) มีแรงกลุ่ม Utilities เป็นผลจากดอกเบี้ยและ Yield ที่ลดลงช้า 5) มีแรงเก็งกำไรในหุ้นขนาดเล็กจากแนวโน้มผลประกอบการที่มองว่าจะดีขึ้นแต่กระแสเงินมีความผันผวนสูง Hewlett Packard Enterprise (HPE) และ Nvidia ประกาศความร่วมมือ "NVIDIA AI Computing by HPE" ซึ่งเราประเมินว่ายอดขายของ HPE ที่จะเพิ่มขึ้นจากประเด็นนี้อาจจะใช้เวลาเพราะรายได้ส่วนใหญ่ของ HPE มาจากส่วนของเทคโนโลยีพื้นฐานในบริษัท และขนาดของรายได้และงานใหม่ต่อลูกค้ายังอยู่ในระดับที่ต่ำแต่มองว่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนในระยะยาว ในขณะที่ผลบวกต่อ NVDA ในระยะสั้นมีจำกัดเพราะขนาดของ HPE มีขนาดเล็กแต่จะสนับสนุนให้ AI Solution ของ NVDA แข็งแกร่งในอนาคต ยอดค้าปลีกสหรัฐฯเดือนพ.ค.ปรับตัวขึ้นเพียง 0.1%MoM ซึ่งต่ำกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% สะท้อนการชะลอตัวในระยะสั้นจริง ซึ่งเราประเมินว่าอาจเป็นผลมาจากการใช้จ่ายอย่างประหยัดของผู้บริโภคหลังยังมีแรงกดดันจากอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง อย่างไรก็ดี 1) E-commerce ยังคงมียอดใช้จ่ายที่ดี 2) กลุ่มเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาเติบโตได้ ซึ่งอาจประเมินได้ว่าผู้บริโภคต้องการส่วนลดในการจับจ่าย แต่ภาพรวมการจับจ่ายยังคงฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ รวมถึงยังไม่ใช่รอบขาขึ้นซึ่งอาจจะเห็นได้เพียงในบางสินค้าเท่านั้นที่มีการใช้จ่าย JD.com เผยยอดขายและยอดคำสั่งซื้อในเทศกาลช้อปปิ้ง 618 ที่ผ่านมาทำสถิติใหม่ โดยคำสั่งซื้อที่เกิดขึ้นผ่านการไลฟ์สตรีมบน JD.com เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า เมื่อเทียบกับเทศกาล 618 ปีที่แล้ว ขณะที่มีผู้บริโภคกว่า 500 ล้านคน สั่งซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์ม ซึ่งเรามองว่าภาพการซื้อขายสินค้าบนคอมเมิซออกมาดูดีก็จริง แต่อย่างไรก็ดี 1) มีการ Subsidy เงินเพื่อเพิ่มส่วนลดซึ่งทำให้ค่าใช้จ่ายก็มีการปรับเพิ่มขึ้นมากเช่นกัน 2) การแข่งขันบนคอมเมิซยังคงดุเดือด ด้วยภาพนี้ทำให้เรายังแนะหลีกเลี่ยงการลงทุนในคอมเมิซ Fisker ประกาศล้มละลายหลังมีปัญหาจากการผลิต รวมถึงเรามองว่าภาพนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความ Fragile ของกลุ่มรถ EV ขนาดเล็กที่ภาพใหญ่ยังคงมีแรงกดดันจาก 1) ความต้องการ EV ที่ชะลอตัวหลังเศรษฐกิจยังชะลอตัว 2) การแข่งขันในกลุ่มที่รุนแรง ทำให้ยอดขายออกมาไม่ดีจนส่งผลต่อการขาดสภาพคล่อง ขณะที่เราประเมินว่าภาพนี้จะเกิดขึ้นกับบริษัทขนาดเล็กต่อเนื่องหากว่าแรงกดดันจากเศรษฐกิจมหภาคและการแข่งขันกลุ่มยังอยู่ ซึ่งภาพนี้หากว่า consolidated จะทำให้การแข่งขันจากกลุ่มบริษัทนั้นน้อยลง ประกอบกับเชื่อว่าระยะยาวคนที่จะได้ประโยชน์จากภาพนี้คือกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ที่มีฐานะทางการเงินและแบรนด์ที่แกร่งอย่าง Tesla และ BYD |
ท่าน สามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก Global morning routine_240619_T |