INVX Global Morning Routine - 2 ส.ค. 2566

2 Aug 23 9:00 AM

บทสรุป

ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงหลังภาพเศรษฐกิจยังคงอ่อนแอทั่วโลก โดยในสหรัฐฯนั้นโดน Fitch ปรับลดความน่าเชื่อถือ ด้านตัวเลขเศรษฐกิจในจีนและยุโรปที่ออกมายังต่ำกว่าคาดและหดตัวลงเช่นกัน
กระแสเงินในวันที่ 31 ก.ค. 2023 1) แรงซื้อในตราสารหนี้ลดน้อยลง แต่ยังเป็นการซื้อในตราสารหนี้คุณภาพดีและตราสารหนี้ระยะยาวมากกว่าตราสารหนี้ป้องกันเงินเฟ้อและตราสารหนี้ระยะสั้น 2) แรงเก็งกำไรในหุ้นเทคโนโลยีค่อนข้างจำกัดรอแนวโน้มผลประกอบการใน 2H23 ในขณะที่หุ้นธีม Growth มีแรงขายจากภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง 3) มีแรงขายในกลุ่มที่อิงกับเศรษฐกิจอย่าง Materials และสินค้าอุตสาหกรรม รวมถึงกลุ่มการเงิน ทั้งนี้มองว่ากระแสเงินในกลุ่มนี้ค่อนข้างผันผวนตามตัวเลขที่ไม่ได้ดีมากแต่ก็ไม่ได้แย่อย่างที่ตลาดกังวล 4) มีแรงซื้อในตลาด EM ทั้งนี้มองเป็นเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนที่มีอย่างต่อเนื่องแต่ปริมาณเงินไม่สูงมากนัก 5) มีแรงขายในหุ้นขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจและดอกเบี้ยมากกว่าบริษัทขนาดใหญ่
Russia-Ukraine ไม่มีพัฒนาการเชิงบวก ด้านราคาถ่านหินในยุโรปลดลง 2.6% ราคาก๊าซธรรมชาติลดลง 1.3% ส่วนต่างดอกเบี้ยของกลุ่ม IG ทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น 1bps ส่วนตราสาร HY ปรับลดลง 15bps ขณะที่ตลาดหุ้นจีนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม Reopening ในจีนยังค่อนข้างผันผวน โดยล่าสุดปรับลดลง 0.7% จากความกังวลเรื่องตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ยังอ่อนแอและการผลิตยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ กลุ่มเสื้อผ้ากีฬาและกลุ่มท่องเที่ยวปรับลดลง 1%-2.1% ส่วนกลุ่มร้านอาหารเพิ่มขึ้น 0.1% ตามผลประกอบการที่ออกมาดีกว่าที่คาด
Fitch ปรับลดความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงจาก AAA เป็น AA+ ซึ่งมองว่าเป็นผลจากจากการปรับลดภาษี การใช้จ่ายและการลงทุน ภาระหนี้สินของรัฐบาลที่มีการขยายเพดานหนี้ รวมถึงการขาดดุลที่มีแนวโน้มถดถอยลงในอีก 3 ปีข้างหน้า โดย Fitch มีการคาดการณ์ว่าภาระหนี้ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นเป็น 118% ของ GDP ในปี 2025 ซึ่งมากกว่า 2-3 เท่าของกลุ่มประเทศที่ได้อันดับความน่าเชื่อถือ AAA ที่ 39.3% นอกจากนั้นยังมองว่าจะเพิ่มขึ้นในระยะยาวซึ่งเป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจสหรัฐหากเจอความเสี่ยงใหม่
งบกลุ่มเปิดเมืองมีภาพการฟื้นตัว แต่ Starbuck เผยรายได้ต่ำกว่าคาด แต่เพิ่มขึ้น 12.5%YoY หลังมีแรงกดดันจากตลาดสหรัฐฯที่ใช้จ่ายชะลอตัวและการฟื้นตัวที่ช้ากว่าคาดในจีน ด้าน EPS ดีกว่าคาดและเพิ่มขึ้นอยู่ที่ $1.0 ต่อหุ้น หนุนจากการตั้งราคาที่สูงขึ้นซึ่งช่วยหนุนให้มาร์จิ้นเพิ่ม ส่วน Marriott เผยงบดีว่าคาดหนุนจาก RevPAR ทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นหลังส่วนธุรกิจในเอเชียและยุโรปที่โตดีหนุนจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวที่แกร่ง ด้วยภาพนี้ทำให้เราค่อนข้างกังวลต่อภาพการใช้จ่ายในสหรัฐฯที่ชะลอตัวและการฟื้นตัวของจีนที่ช้ากว่าคาดซึ่งอาจกดดันผลประกอบการในช่วง 2H23 ได้ แต่อย่างไรก็ดีเรายังคงมองบวกต่อกลุ่มเปิดเมืองและคาดหวังต่อการฟื้นตัวต่อเนื่องหลังยังคงมี Room ในการฟื้นตัวแต่อาจจะเป็นอย่างค่อยเป็นค่อยไป
งบกลุ่ม Semiconductor สะท้อนตลาด PC เริ่มฟื้นตัว โดย Intel และ AMD เผยงบดีกว่าคาด ถึงแม้รายได้และกำไรจะหดตัวลง อย่างไรก็ดีเริ่มเห็นภาพการฟื้นตัวของกลุ่ม PC หลังรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด รวมไปถึงสินค้าคงคลังที่เริ่มกลับสู่ระดับปกติ นอกนั้นยังมีแรงหนุนจากกลุ่ม Data center ที่ฟื้นตัวและความต้องการ AI ที่เพิ่มขึ้น ด้วยภาพนี้ทำให้เราเชื่อว่ากลุ่ม PC เริ่มมีการฟื้นตัว แต่ยังเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปหลังยังมีแรงกดดันจากตลาดหลักอย่างจีนและความต้องการในกลุ่มคลาวด์และลูกค้าองค์กรที่ซบเซาอยู่ ทำให้เรามองว่ายังคงส่งผลกระทบต่อ 3Q23 แต่จะมีภาพการฟื้นตัวต่อเนื่อง และ Downside เริ่มจำกัด โดยเราชอบ INTC AMD TSM ที่ยังคงมี Valuation ดี รวมถึงมีภาพการได้ประโยชน์และอยู่ในตำแหน่งดีจากความต้องการ AI ที่เพิ่มขึ้น

PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม Global morning routine_230802_T