บทสรุป |
ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นหลังคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ FED (FOMC) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ (1 พ.ย.) ซึ่งเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2 และเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ กระแสเงินในวันที่ 31 ต.ค. 2023 1) กระแสเงินในตราสารหนี้มีแรงซื้อต่อเนื่อง โดยเฉพาะตราสารหนี้ระยะสั้นและพันธบัตรรัฐบาล รวมถึงพันธบัตรคุณภาพดี ทั้งนี้มองว่าเป็นการบริหารความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกโดยเฉพาะความขัดแย้งในตะวันออกกลาง และเก็งกำไรท่าทีของ FED 2) มีแรงซื้อในตลาดหุ้นจีนและ EM มากขึ้นจากแนวโน้มผลประกอบการที่ไม่ได้แย่อย่างที่ตลาดกังวล รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน 3) มีแรงเก็งกำไรในหุ้นขนาดเล็กและตราสารหนี้ High Yield มองว่าเป็นการเล่นรอบรีบาวน์ 4) มีแรงขายในกลุ่ม Healthcare หลังผลประกอบการในภาพรวมต่ำกว่าที่คาดจากฐานของ COVID-19 5) มีแรงขายในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจากความกังวลแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่อาจจะช้ากว่าที่คาด 6) มีแรงขายในตลาดหุ้นยุโรปทั้งนี้เป็นผลจากผลประกอบการที่อ่อนแอและตัวเลขเศรษฐกิจที่แย่กว่าที่คาด Russia-Ukraine ไม่มีพัฒนาการเชิงบวก ด้านราคาถ่านหินในยุโรปปรับตัวลดลง 0.6% ราคาก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น 3% ขณะที่ส่วนต่างดอกเบี้ยของกลุ่ม IG ทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น 3bps ส่วนตราสาร HY ปรับเพิ่มขึ้น 6bps ด้านตลาดหุ้นจีนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม Reopening ในจีนภาพรวมปรับตัวลดลง 1% จากตัวเลขการผลิตของจีนที่ออกมาต่ำกว่าที่คาด โดยกลุ่มร้านอาหารปรับตัวลดลง 3% หลังผลประกอบการของ Yum China ออกมาต่ำกว่าที่คาด นอกจากนั้นกลุ่มคาสิโนและกลุ่มท่องเที่ยวปรับตัวลดลง 1.2%-1.4% เกาหลีใต้ประกาศตัวเลขการส่งออกสินค้าเทคโนโลยีในเดือน ต.ค. มีสัญญาณการฟื้นตัวของกลุ่มสินค้าเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง โดยสินค้า Memory, MLCC มีการเติบโต YoY โดยสินค้าเกี่ยวกับหน่วยความจำปรับเพิ่มขึ้น 1% เป็นการบวกครั้งแรกในรอบ 15 เดือน ในขณะที่ MLCC นั้นยังบ่งชี้ว่าอุปสงค์ยังแข็งแกร่งโดยปรับเพิ่มขึ้น 16% AirBnB เผยผลประกอบการ 3Q23 ดีกว่าคาด โดยรายได้เพิ่มขึ้น 18%YoY หนุนจากการจองต่อคืนที่เติบโต 15% YoY และการเดินทางระหว่างประเทศที่ยังคงมีแนวโน้มที่ดี โดยการจอง cross-border nights เพิ่มขึ้น 17%YoY นอกจากนี้ผู้ให้บริการที่พักมีการสมัครเพิ่มขึ้น 19%YoY สะท้อนอุปทานที่เพิ่มขึ้น ถึงแม้งบจะออกมาดูดีและเติบโต แต่อย่างไรก็ดีด้วยภาพ 1) ราคาเฉลี่ยต่อคืนของที่พักแบบหนึ่งห้องนอนบน Airbnb ในเดือนก.ย.เพิ่มขึ้นพียง 1%YoY ส่งผลให้ภาพการเติบโตยังจำกัด 2) ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดในเมืองนิวยอร์กและแคนาดาที่มีการพิจารณาใช้มาตรการเพื่อลดการใช้ Airbnb และแพลตฟอร์มการเช่าระยะสั้นอื่นๆ หลังจากที่ค่าเช่าเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งภาพนี้คาดว่าจะส่งผลกระทบต่ออุปทานหรือการเติบโตของห้องพัก 3) แนวโน้มคาดการณ์รายได้ที่ออกมาต่ำกว่าคาด ทำให้ตลาดตอบสนองเชิงลบต่อหุ้น ABNBและราคาปรับตัวลงในช่วง After Hours -2.8% |
