บทสรุป |
ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นหลังได้รับแรงหนุนจากภาพการยุติวงจรการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯรวมถึงการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิมของธนาคารกลางหลายแห่ง โดยธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี และธนาคารกลางนอร์เวย์ตรึงอัตราดอกเบี้ยเช่นกัน นอกจากนี้ผลประกอบการที่ออกมาดีหนุนตลาดเช่นกัน กระแสเงินในวันที่ 1 พ.ย. 2023 1) กระแสเงินในตราสารหนี้มีแรงซื้อต่อเนื่อง โดยเฉพาะตราสารหนี้คุณภาพดีและพันธบัตรรัฐบาล รวมถึง High Yield ทั้งนี้มองว่าเป็นการบริหารความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกโดยเฉพาะความขัดแย้งในตะวันออกกลาง และท่าทีของ FED ที่ตึงตัวมากขึ้น 2) มีแรงซื้อในกลุ่ม Utilities และอสังหาริมทรัพย์ มองว่าเป็นการเก็งกำไรเมื่อท่าทีของ FED จะไม่ขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติม 3) มีแรงซื้อในหุ้นธีม Growth แต่ยังขายกลุ่มเทคโนโลยีแม้ว่าผลประกอบการจะออกมาดีกว่าที่คาด 4) มีแรงขายในโลหะมีค่าเล็กน้อยหลังไม่มีความรุนแรงเพิ่มเติมในตะวันออกกลาง 5) มีแรงขายในหุ้นกลุ่ม Materials และกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมจากความกังวลแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่อาจจะช้ากว่าที่คาด 6) มีแรงขายในตลาดหุ้นยุโรปทั้งนี้เป็นผลจากผลประกอบการที่อ่อนแอและตัวเลขเศรษฐกิจที่แย่กว่าที่คาด Russia-Ukraine ไม่มีพัฒนาการเชิงบวก ด้านราคาถ่านหินในยุโรปปรับตัวลดลง 0.1% ราคาก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น 3.3% ส่วนต่างดอกเบี้ยของกลุ่ม IG ทั่วโลกปรับตัวลดลง 4bps ส่วนตราสาร HY ปรับลดลง 17bps ด้านตลาดหุ้นจีนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม Reopening ในจีนภาพรวมปรับตัวลดลง 0.7% จากตัวเลขการผลิตของจีนที่ออกมาต่ำกว่าที่คาด โดยกลุ่มร้านอาหารปรับตัวลดลง 0.7% หลังผลประกอบการของ Yum China ออกมาต่ำกว่าที่คาด นอกจากนั้นกลุ่มคาสิโนและกลุ่มท่องเที่ยวปรับตัวลดลง 0.5%-0.8% Starbuck +9.5% หลังเผยงบงบดีกว่าคาด โดยยอดขายสาขาเดิมโต 8%YoY หนุนจากรายได้ทุกภูมิภาคที่โตหลังจำนวนธุรกรรมและปริมาณการสั่งซื้อเพิ่ม ด้าน Operating Margin เพิ่มขึ้นที่ 18.2% นอกจากนี้ยังให้คาดการณ์ FY24 ดีโดยมองยอดขายสาขาเดิมอาจเพิ่มขึ้น 5-7% และกำไรต่อหุ้นจะเพิ่ม 15%-20% (อ่านต่อหน้า 10) ด้าน Apple เผยงบดีกว่าคาดเล็กน้อยที่ $90bn อย่างไรก็ดีการเติบโตยังหดตัวลง 0.7%YoY ซึ่งนับเป็นการลดลงไตรมาสที่ 4 ติดต่อกัน หลัง 1) รายได้จากจีนออกมาต่ำกว่าคาด 2) ยอดขายในส่วน MAC และ iPad ที่ยังคงหดตัว 34 3) กลุ่มอุปกรณ์สวมใส่ บ้านและอุปกรณ์เสริม เช่น AirPods มีรายได้ต่ำกว่าคาด อย่างไรก็ดีงบยังมีแรงหนุนจากรายได้ iPhone ที่ดีกว่าคาดและรายได้จากบริการโตดีกว่าคาด 16% ซึ่งชดเชยแรงกดดันและหนุนอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ที่ 45.2% หลังกลุ่มบริการมีความสามารถในการทำกำไรที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ ผลประกอบการของกลุ่ม Healthcare ในส่วนของผู้ผลิตยานั้นออกมามีความแตกต่างกันชัดเจน โดยบริษัทอย่าง Moderna และ Pfizer มีผลประกอบการออกมาต่ำกว่าที่คาดเนื่องจากผลของวัคซีน COVID-19 ที่มีคนใช้น้อยลง ในขณะที่ Eli Lilly และ Novo Nordisk ได้ประโยชน์จากตัวยาควบคุมน้ำหนัก (Wegovy) และยาควบคุมระดับน้ำตาล (Ozempic และ Mounjaro) ที่มีความต้องการสูงทำให้รายได้ออกมาดีกว่าที่คาดและมีการเติบโตที่เร่งตัวขึ้น ผลประกอบการของบริษัท Online Travel Agent อย่าง Booking และ Expedia ใน 3Q23 ในภาพรวมออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ทั้งนี้สืบเนื่องจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวที่ยังแข็งแกร่ง แต่อย่างไรก็ดีราคาหุ้นของ Booking ปรับตัวลดลงตามความกังวลของความขัดแย้งในตะวันออกกกลาง |