บทสรุป |
ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงหลัง Fed Minutes ออกมาไม่เป็นไปตามตลาดคาด โดย Fed ยังคงไม่ส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ยจึงทำให้ภาพรวมตลาดปรับตัวลง ประกอบกับยังมีภาพการขายทำกำไรจากหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแรงในช่วงปลายปีต่อเนื่อง นอกจากนี้ทางจีนยังมีภาพความกังวลเรื่องหนี้ที่เพิ่มขึ้นหลัง PBoC อัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบธนาคาร ผ่านธุรกรรม PSL กระแสเงินในวันที่ 2 ม.ค. 2024 1) เริ่มมีแรงขายในตราสารหนี้ทั้งนี้กังวลกับแนวโน้มของดอกเบี้ยที่อาจจะไม่ได้ลงเร็วอย่างที่ตลาดคาดการณ์ใน 1Q24 รวมถึงขายตราสารหนี้ High Yield จากประเด็นความกังวลในการผิดนัดชำระหนี้ 2) มีแรงซื้อในกลุ่ม Healthcare มองเป็นหุ้นกลุ่มเชิงรับที่ Laggard หลังได้รับแรงกดดันจากฐานสูงจาก COVID-19 ในปี 2022 3) มีแรงเก็งกำไรในหุ้นขนาดเล็กหลังจากที่ตลาดฟื้นตัวต่อเนื่องและเศรษฐกิจไม่ได้แย่อย่างที่ตลาดกังวล 4) ตลาดหุ้นจีนเริ่มมีแรงซื้อกลับหลังจากเผชิญแรงขายก่อนหน้านี้ ทั้งนี้มองเป็นเรื่องความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมและ Downside สะท้อนอยู่ในราคาแล้วระดับหนึ่ง 5) มีแรงขายในกลุ่มเทคโนโลยีมองเป็นการขายทำกำไรในระยะสั้นหลังปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง เช่นเดียวกับหุ้นธีม Growth 6) มีแรงขายในกลุ่มพลังงานจากความกังวลแนวโน้มอุปสงค์พลังงาน Russia-Ukraine ไม่มีพัฒนาการเชิงบวก ด้านราคาถ่านหินในยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.4% ราคาก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น 8.9% ส่วนต่างดอกเบี้ยของกลุ่ม IG ทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น 4bps ส่วนตราสาร HY ปรับเพิ่มขึ้น 7bps ด้านตลาดหุ้นจีนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม Reopening ในจีนภาพรวมทรงตัว กระแสเงินค่อนข้างผันผวน ทั้งนี้ตลาดได้รับแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจที่บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวที่เปราะบางของจีน กลุ่มท่องเที่ยวปรับตัวเพิ่มขึ้นตามตัวเลขการท่องเที่ยวในประเทศที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ส่วนกลุ่มร้านอาหารและคาสิโนเป็นลักษณะของการเก็งกำไรในระยะสั้น ประเด็นสำคัญจากรายงานการประชุมของ Fed ในวันที่ 12-13 ธ.ค. นั้น Fed ยังคงย้ำความเหมาะสมของนโยบายที่ยังคงเข้มงวดต่อไปสักระยะจนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะเคลื่อนตัวลงชัดเจนและยั่งยืน รวมถึงมองการรักษาช่วงเป้าหมายดอกเบี้ยในปัจจุบันอาจนานกว่าที่คาดได้ขึ้นอยู่กับภาพเศรษฐกิจ ซึ่งรายงานออกมาไม่เป็นไปตามที่ตลาดคาดหวังว่าจะส่งสัญญาณการลดดอกเบี้ย นอกนั้นประเด็นอื่นยังคงเหมือนเดิมและอยู่ในทิศทาง Support ตลาด ด้วยภาพนี้ทำให้เราเชื่อว่าในช่วงที่ Fed เริ่มลดดอกเบี้ย ประกอบกับเศรษฐกิจไม่เกิด Recession ในช่วงนั้นจะเป็นสถานการณ์ที่ดีที่สุดที่ทำให้ตลาดมี Upside ได้ ซึ่งเราแนะมองกลุ่มหุ้นที่มีฟื้นตัวดีต่อเนื่องอย่างเช่นกลุ่มเทคฯที่มีการตัวลงมาในช่วงต้นปีซึ่งเราแนะมองเป็นโอกาสในการเข้าทยอยสะสม ประกอบกับแนะมองกลุ่มหุ้นที่มีการเติบโตที่ดีอย่าง1) Sales growth - MU, NVDA, AVGO, NOW, TSLA 2) Earnings growth - MRK, UBER, INTC, LLY, GE, PFE |
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก Global morning routine_240104_T 1 |