INVX Global Morning Routine - 4 ก.ค. 2566

บทสรุป

• ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นหลังมีแรงหนุนจากกลุ่ม EV ที่เผยยอดส่งมอบในเดือนมิ.ย.และ 2Q23 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและดีกว่าตลาดคาด อย่างไรก็ดีปริมาณการซื้อขายในตลาดสหรัฐฯค่อนข้างเบาบางหลังตลาดมีการซื้อขายเพียงครึ่งวันในวันจันทร์ที่ 3 ก.ค. ก่อนที่จะปิดทำการในวันอังคารที่ 4 ก.ค. เนื่องในวันชาติสหรัฐ
•  
• กระแสเงินในวันที่ 30 มิ.ย. 2023 1) กระแสเงินในตราสารหนี้ค่อนข้างผันผวน ทั้งนี้มีความกังวลกับท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐที่จะขึ้นดอกเบี้ยเป็นความเสี่ยงสำคัญ มีแรงซื้อในตราสารหนี้คุณภาพดีและ High Yield 2) มีเงินไหลเข้าจากตลาดหุ้น EM มองเป็นภาพของค่าเงินและแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ 3) มีแรงซื้อในกลุ่มเทคโนโลยี แต่ยังมองว่าเป็นแรงเก็งกำไรเพราะกระแสเงินค่อนข้างผันผวนและปริมาณไม่สูงนัก 4) กระแสเงินในรายกลุ่มอุตสาหกรรมเป็นการขายในกลุ่มการเงิน 5) มีแรงขายในโลหะมีค่าและมีแรงซื้อในตลาดหุ้นญี่ปุ่นมองว่าเป็นเรื่องของค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า
•  
• Russia-Ukraine ไม่มีพัฒนาการเชิงบวก ด้านราคาถ่านหินในยุโรปลดลง 2.2% ราคาก๊าซธรรมชาติลดลง 8.1% ส่วนต่างดอกเบี้ยของกลุ่ม IG ทั่วโลกปรับตัวลดลง 1bps ส่วนตราสาร HY ปรับลดลง 12bps ขณะที่ตลาดหุ้นจีนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม Reopening ในจีนยังค่อนข้างผันผวน โดยล่าสุดปรับเพิ่มขึ้น 4% นักลงทุนยังเน้นไปที่ความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
•  
• รัฐบาลจีนออกมาตรการควบคุมการส่งออกสองสินแร่อย่าง Gallium และ Germanium รวมถึงสารเคมีบางตัว เพื่อปกป้องความปลอดภัยระดับประเทศตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2023 เป็นต้นไป ซึ่งหากจะมีการส่งออกจะต้องขอใบอนุญาตจากกระทรวงพาณิชย์และต้องมีการแสดงรายละเอียดของผู้ซื้อและจุดประสงค์ในการซื้อ
•  
• ขณะที่สองแร่นี้เป็นสินแร่ที่สำคัญในกลุ่ม Semiconductor, อุปกรณ์สื่อสารและชิ้นส่วนในรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจีนมีสัดส่วนในการผลิตมากกว่า 70% ของการผลิตทั่วโลก ทำให้มีความเสี่ยงในการขาดแคลนชิ้นส่วนสำคัญในอุตสาหกรรมดังกล่าว ซึ่งประเทศอื่นอย่างญี่ปุ่น เกาหลี รัสเซียและยูเครนไม่น่าจะผลิตมาชดเชยทางฝั่งจีนได้
•  
• การส่งมอบรถยนต์ในเดือนมิ.ย.ของหลายบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากเดือนพ.ค. ขณะที่เรามองว่ายอดขายในบริษัทจีนที่ออกมาดีอาจมีแรงหนุนจากการลดราคาและการกระตุ้นนโยบายกลุ่ม EV ของทางการจีนที่ช่วยกระตุ้นอุปสงค์ให้เพิ่มขึ้นได้ ประกอบกับในสหรัฐฯที่มีแรงหนุนจาก IRA
• แต่อย่างไรก็ดีด้วยภาพยอดขายที่มาจากการลดราคากระตุ้นนั้นจะส่งผลกระทบต่อ 1) การขยายตัวของมาร์จิ้นที่ยังคงมีแรงกดดัน 2) การแข่งขันในอุตฯที่ดุเดือดขึ้น 4) ด้วยภาพราคาหุ้นที่มีการเพิ่มขึ้นแรงแต่ไม่ค่อยสมดุลกับ Sentiment และปัจจัยพื้นฐานในระยะสั้น เช่น valuation ของ Tesla ที่ไม่น่าสนใจ ทำให้เรามองว่าหากเลือกในกลุ่ม EV อาจหันไปมองที่ BYD ที่มีเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ดีกว่า valuation ที่ถูกกว่า หรือไปผู้ผลิตแบตฯอย่าง catl