- ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.5% โดยตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นจากความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐะไม่ขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติมหลังจากตัวเลขด้านแรงงานและการบริการออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ รวมถึงความคาดหวังเชิงบวกต่อแนวโน้มมาตรการการเงินของจีนที่จะผ่อนคลายมากขึ้น ทั้งการลดดอกเบี้ยอสังหาริมทรัพย์ ลดภาษีการซื้อขายหุ้นและการลดอัตราส่วนสำรองขั้นต่ำ
-
- ในสัปดาห์ที่ผ่านมากระแสเงินในสัปดาห์ที่ผ่านมากระแสเงินค่อนข้างผันผวน โดยเป็นการไหลเข้าตราสารหนี้ต่อเนื่องแต่ปริมาณค่อนข้างจำกัด ส่วนกระแสเงินในตราสารทุนเห็นการเข้าครั้งแรกในรอบสามสัปดาห์
-
- ในสัปดาห์นี้ติดตาม 1) ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่าง ดุลการค้าที่คาดว่าขาดดุลมากกว่าเดือนก่อน ด้าน PMI ภาคบริการคาดลดลงจากเดือนก่อนเล็กน้อย 2) ตัวเลขเศรษฐกิจยูโซน อย่าง PMI ภาคบริการที่คาดหดตัวลง รวมถึง GDP ที่คาดขยายตัวจากไตรมาสก่อน 3) ทิศทางการฟื้นตัวจีนจากตัวเลขเศรษฐกิจ โดยการส่งออกหดตัวในระดับที่น้อยลง ส่วน CPI คาดหดตัวมากกว่าเดิมเล็กน้อย ส่วน PPI คาดชะลอการลดลง 4) ผลประกอบการของ Alimentation Couche-Tard, Ashtead Group, Kroger, Partners Group Holding, Sun Hung Kai, Properties, Trip Group.
-
- ภาพรวม – ตลาดยังอยู่ในทิศทางที่ผันผวน ภาพรวมยังได้รับแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจทั่วโลกที่ชะลอตัวลงและค่อนข้างอ่อนแอ โดยเฉพาะในตลาดแรงงาน แต่อย่างไรก็ตลาดตีความว่าธนาคารกลางสหรัฐจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติม นอกจากนั้นมีแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน ดังนั้นเรามองว่าตลาดรอความชัดเจนทั้งจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและการเปลี่ยนแปลงท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐซึ่งมีแนวโน้มเห็นในช่วง 4Q23
-
- กลยุทธ์ – สัปดาห์นี้ (4-8 ก.ย.) มองว่า 1) ภาพเศรษฐกิจผ่าน Beige Book ของสหรัฐจะยังสะท้อนการชะลอตัวลง 2) การส่งออกของจีนที่ยังหดตัวซึ่งทำให้ภาคการผลิตยังไม่ฟื้นตัว 3) ท่าทีของ ECB ต่อเงินเฟ้อ ซึ่งคาดว่ายังไม่เปลี่ยนท่าที ดังนั้นภาพเศรษฐกิจยังไม่ดี มองว่าตลาดอาจจะได้รับแรงกดดันจากภาพเศรษฐกิจมากขึ้น ในขณะที่ภาพบริษัทมองว่าข่าวดีสะท้อนในราคาไปแล้วส่วนหนึ่ง
-
- หุ้นแนะนำ – เราแนะนำหุ้นคุณภาพดีหุ้นและมีแนวโน้มของผลประกอบการดีและมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่าง Trip.com และ Taiwan Semiconductor Manufacturing
|