บทสรุป |
ตลาดหุ้นทั่วโลกทรงตัว -0.1% หลังตลาดยังคงมีแรงเทขายทำกำไรต่อเนื่อง ประกอบกับอัตราผลตอนแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นยังคงสร้างแรงกดดันต่อหุ้นเติบโต (Growth Stocks) โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคฯ นำโดย AMZN -2.6% GOOGL -1.9% ขณะที่ตัวเลขภาคบริการของจีนออกมาดีกว่าคาดแต่ตลาดยังคงปรับตัวลงหลังมีแรงกดดันจากแนวโน้มการฟื้นตัวที่ไม่ชัดเจน กระแสเงินในวันที่ 3 ม.ค. 2024 1) เริ่มมีแรงขายในตราสารหนี้ทั้งนี้กังวลกับแนวโน้มของดอกเบี้ยที่อาจจะไม่ได้ลงเร็วอย่างที่ตลาดคาดการณ์ใน 1Q24 รวมถึงขายตราสารหนี้ High Yield จากประเด็นความกังวลในการผิดนัดชำระหนี้ 2) มีแรงซื้อในกลุ่ม Healthcare มองเป็นหุ้นกลุ่มเชิงรับที่ Laggard หลังได้รับแรงกดดันจากฐานสูงจาก COVID-19 ในปี 2022 3) มีแรงเก็งกำไรในหุ้นขนาดเล็กและกลุ่มการเงินหลังจากที่ตลาดฟื้นตัวต่อเนื่องและเศรษฐกิจไม่ได้แย่อย่างที่ตลาดกังวล 4) ตลาดหุ้นเอเชียมีแรงซื้อหลังจากตัวเลขการท่องเที่ยวของจีนออกมาดีกว่าที่คาด 5) มีแรงขายในหุ้นธีม Growth และกลุ่มเทคโนโลยีมองเป็นการขายทำกำไรในระยะสั้นหลังปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง 6) มีแรงขายในตลาดจีนแม้ว่ารัฐบาลจะเริ่มอัดเงินเข้าสู่ระบบมากขึ้น Russia-Ukraine ไม่มีพัฒนาการเชิงบวก ด้านราคาถ่านหินในยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.5% ราคาก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น 0.9% ส่วนต่างดอกเบี้ยของกลุ่ม IG ทั่วโลกปรับตัวลดลง 2bps ส่วนตราสาร HY ปรับลดลง 4bps ขณะที่ตลาดหุ้นจีนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม Reopening ในจีนภาพรวมปรับตัวลดลง กระแสเงินค่อนข้างผันผวน โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอ่อนแอ ในขณะที่ตัวเลขการท่องเที่ยวในช่วงปีใหม่ดีกว่าที่คาดการณ์และกรมการบินพลเรือนจีนคาดการณ์การเติบโตของการเดินทางระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น 30% ในปี 2024 Costco เผยยอดขายเดือน ธ.ค. 66 โดยยอดขายสาขาเดิมรวมและในสหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าคาดและเร่งขึ้นจากเดือนพ.ย. หนุนจากการจับจ่ายช่วงเทศกาล ด้วยภาพนี้ถึงแม้จะมีแรงกดดันจากปัจจัยมหภาค เช่น อัตราดอกเบี้ยคงอยู่ในระดับสูง แรงซื้อที่ชะลอตัว แต่ยอดขายของบริษัทที่ออกมายังคงดีกว่าตลาดคาด สะท้อนได้ว่าการจับจ่ายและทิศทางเศรษฐกิจในสหรัฐฯไม่ได้แย่เท่ากับที่ตลาดคาดการณ์ ซึ่งหากภาพนี้จะคงดำเนินต่อเนื่องไป ประกอบกับจนถึงจุดหนึ่งที่ Fed ปรับลดดอกเบี้ย ในตอนนั้นเรามองว่าเป็นสภานการณ์ที่ดีที่สุดที่ตลาดจะปรับตัวขึ้นได้ McDonald's Corp. -0.9% หลังได้รับผลกระทบทางธุรกิจอย่าง Significant ในตะวันออกกลางเนื่องจากสงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาส และข้อมูลที่ไม่ถูกต้องที่เกี่ยวข้องซึ่งส่งผลกระทบต่อแบรนด์ร้านอาหารต่างๆ รวมถึง MCD ด้วย ซึ่งเรามองว่าบริษัทได้รับ Sentiment ลบโดยตรงจากประเด็นนี้ แต่ยังไม่เห็นผลกระทบต่อยอดขายในตอนนี้ ซึ่งหากไม่มีประเด็นนี้เรามองว่าสามารถลงทุนได้ แต่อย่างไรก็ดีด้วยภาพเช่นนี้ทำให้เรามองว่าอาจรอให้ผลกระทบชัดเจนมากกว่านี้และรอราคาตอบสนองจนหมดก่อนถึงจะเป็นจังหวะการลงทุนที่ดีกว่าในปัจจุบัน กรมการบินพลเรือนของจีนคาดการณ์ว่าในปี 2024 ปริมาณเที่ยวบินระหว่างประเทศจะกลับมาอยู่ที่ 80% ของช่วง Pre-COVID หรือ 6,000 เที่ยวบินต่อสัปดาห์จาก 4,600 ในช่วงปลายปี 2023 (ช่วงเริ่มของปี 2023 อยู่ที่ 500 เที่ยวบินต่อสัปดาห์) โดยเรามองว่าจีนจะเริ่มมีการให้มีการเดินทางระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น หลังจากที่สนับสนุนให้คนเดินทางและกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศก่อน ซึ่งก็จะสอดคล้องกับภาพเศรษฐกิจจีนที่จะฟื้นตัวอย่างช้าๆ ทำให้การเติบโตในปี 2024 มีความเป็นไปได้สูง ทั้งนี้เราจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้น หลังจีนมีการให้ฟรีวีซ่ากับฝรั่งเศส เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ อิตาลี สเปน มาเลเซียและไทย ทำให้การฟื้นตัวมีแนวโน้มเร็วกว่าที่คาดในประเทศดังกล่าว |
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก Global morning routine_240105_T |