- ตลาดหุ้นทั่วโลกฟื้นตัวหลังภาพตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนที่ออกมาต่ำกว่าคาดช่วยให้ 1) ตลาดคาดหวังว่า Fed อาจจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและไม่คงดอกเบี้ยที่ระดับสูงนาน 2)อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีชะลอตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี และยังทำให้ดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนปรับตัวลดลง
-
- กระแสเงินในวันที่ 3 ต.ค. 2023 1) กระแสเงินในตราสารหนี้ค่อนข้างผันผวน โดยล่าสุดมีแรงขายในตราสารหนี้ ทั้งนี้มองว่าเป็นผลสืบเนื่องจาก Credit Spread ที่เพิ่มขึ้นสะท้อนความกังวลด้านการผิดนัดชำระหนี้ที่สูงขึ้น มีแรงซื้อในตราสารหนี้ป้องกันเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 2) มีแรงซื้อในตลาดหุ้นญี่ปุ่นจากประเด็นค่าเงินเยนที่อ่อนค่า 3) มีแรงซื้อใน Utilities ที่บ่งชี้ว่าราคาปรับตัวลดลงแรงก่อนหน้านี้ 4) มีแรงซื้อในตลาดหุ้น EM และจีนหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนและตัวเลขการท่องเที่ยวช่วง Golden Week เริ่มฟื้นตัว 5) มีแรงขายในกลุ่มการเงินสะท้อนภาพความกังวลต่อเศรษฐกิจ 6) หุ้นกลุ่ม Consumer discretionary อาจจะได้รับแรงกดดันด้านกำลังซื้อทำให้มีแรงขายต่อเนื่อง 7) มีแรงขายในกลุ่มพลังงานหลังราคาพลังงานเริ่มย่อตัว และ 8) มีแรงขายในกลุ่ม เทคโนโลยีมองว่าเป็นประเด็นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้น
-
- Russia-Ukraine ไม่มีพัฒนาการเชิงบวก ด้านราคาถ่านหินในยุโรปลดลง 1.2% ราคาก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น 2% ส่วนต่างดอกเบี้ยของกลุ่ม IG ทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น 4bps ส่วนตราสาร HY ปรับเพิ่มขึ้น 18bps ขณะที่ตลาดหุ้นจีนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม Reopening ในจีนปิดทำการในช่วง Golden Week
-
- เราเห็นการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นจากผู้ประกอบการ E-commerce สัญชาติจีนในสหรัฐมากขึ้น โดยแฉพาะการขยายและกลยุทธ์การเติบโตของ Temu ที่อาจจะส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการทั้ง Offline และ Online ในสหรัฐ รวมถึงการแย่งส่วนแบ่งรายได้โฆษณาด้วย ดังนั้นเรามองว่าเมื่อการแข่งขันเพิ่มขึ้น มาพร้อมกับเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงและกระทบกับกำลังซื้อ ทำให้เราแนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนในกลุ่ม Retailers ในระยะสั้นรอความชัดเจนและผลกระทบของการแข่งขันในช่วง 4Q23
-
- Costco เผยยอดขายในเดือนก.ย. โดย SSS สูงกว่าคาด +3.7%YoY แต่ถือว่าโตชะลอตัวจากเดือนส.ค. หลังยอดขายในสหรัฐฯ (ex-gas) โตต่ำกว่าคาดและชะลอตัว +2.7%YoY ด้านตัวเลข Traffic รวมชะลอตัวลง +4.9% เช่นเดียวกับ Ticket ที่หดตัวลง -1.1% ขณะที่ยังคงเห็นได้ชัดว่าภาพยอดขายในกลุ่มสินค้าจำเป็นยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นได้สวนทางกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย ภาพนี้สะท้อนได้ว่าความต้องการของผู้บริโภคชะลอตัวลงอย่างชัดเจน เราค่อนข้างระมัดระวังกับกำลังซื้อของสหรัฐในช่วง 2H23 ที่มีแรงกดดันจากปัจจัยเสี่ยงค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในสินค้าฟุ่มเฟือยที่เริ่มถูกปรับลดประมาณการไปแล้วระดับหนึ่ง ทำให้เราแนะมองหุ้นเชิงรับอย่าง WMT, PEP, KO, PG, UNH ที่มีความผันผวนน้อยกว่ากลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย
-
- Google เปิดตัวอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ล่าสุดที่มีพัฒนาการร่วมกับ AI 1) Pixel 8/8 Pro ซึ่งอยู่ในกลุ่มสมาร์ทโฟน 2) Pixel Watch 2 ซึ่งเป็น Smart Watch ของ Google 3) Assistant with Bard ซึ่งเป็นการบูรณาการโดยตรงของ Google Assistant เรามองบวกหลังมองเป็นอีกหนึ่ง Development ที่ดีในการใช้สิ่งที่ลงทุน AI ในอดีตมาใช้ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้โดดเด่นเท่า MSFT แต่เรามองว่าถือเป็นพัฒนาการณ์เชิงบวกที่นำมาร่วมกับระบบนิเวศน์ของ Google ที่ฐานลูกค้าแกร่งเช่นกัน ภาพนี้ทำให้เชื่อว่าในอนาคต Google จะยังคงเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากภาพ AI ซึ่งจะช่วยหนุนการเติบโต แต่อย่างไรก็ดีมองในระยะสั้นยังมีแรงกดดันหลังสัดส่วนรายได้หลักในปัจจุบันมาจากธุรกิจโฆษณาที่ชะลอตัวตามเศรษฐกิจ
|
